ไอ้เรื่องความเปรี้ยวของผลไม้นี่ เป็นอะไรที่มีอิทธิพลกับระบบประสาทรับรสของเราๆ นัก ขอเพียงเอ่ยชื่อเท่านั้นเถอะ ต่อให้ไม่เห็นภาพ น้ำลายก็สอทันที นั่นยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงกลิ่นของมันนะ เช่น กลิ่นมะม่วงเบา กลิ่นมะนาว กลิ่นมะม่วงแรดอ่อน กลิ่นเหล่านี้แค่โชยเข้าจมูก บางคนถึงกับน้ำลายแตกฟองทันที นี่แค่นั่งเขียนเกริ่นนำ ผมเองยังกลืนน้ำลายไปหลายอึก ในมหากาพย์สามก๊ก โจโฉก็ใช้แผนความเปรี้ยวนี่แหละ เป็นอุบายให้ทหารมีกำลังเดินทัพ เรื่องมีอยู่ว่า...โจโฉนั่งอยู่กับเล่าปี่แลเห็นต้นมะเฟือง โจโฉจึงชี้ให้เล่าปี่ดูแล้วว่า เมื่อครั้งไปรบกับเตียวสิ้ว ทหารทั้งปวงอยากน้ำนัก เราจึงคิดกลอุบายลวงว่าให้อุตส่าห์เดินไปอีกหน่อยหนึ่งเถิด จะพบดงมะเฟืองมีผลสุกเป็นอันมาก ทหารทั้งปวงได้ยินชื่อของเปรี้ยวก็ให้บังเกิดเขฬะมีมาทุกคน ซึ่งอยากน้ำนั้นก็ให้คลายลง" แม้ชื่อของผลไม้รสเปรี้ยว ทำให้หลายคนน้ำลายสอได้ แต่คนคนนั้นต้องเคยเผชิญกับความเปรี้ยวของมัน หรือพูดง่ายๆ คือ รู้จักเจ้าผลไม้ชนิดนั้นด้วยนะ จึงจะเป็นผล ในเรื่องสามก๊ก ต้นฉบับภาษาจีน ไม่ได้ใช้คำว่ามะเฟือง เพราะประเทศจีนไม่มีมะเฟือง เขาใช้ว่า “ลูกบ๊วย” แต่แปลเป็นไทยไม่ได้สิ เพราะคนไทยคุ้นกับบ๊วยเค็ม จึงต้องใช้มะเฟืองแทน ทางภาคใต้ของไทย มีผลไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งเปรี้ยวมากๆ ชื่อว่า “หลุมพี” เปรี้ยวชนิดที่ว่าง่วงหงาวหาวนอนอยู่เป็นตาตื่นทันที แน่นอนหากผมบอกโต้งๆ ว่ามันเปรี้ยว ผู้อ่านคงงงๆ เพราะไม่รู้จัก เนื่องจากมันแสดงแผลงฤทธิ์ความเปรี้ยวอยู่แค่ในภาคใต้ และมากที่ภาคใต้ตอนล่างเท่านั้น ผมจึงต้องขออธิบายความเปรี้ยวของมันเพิ่มเติม หลุมพีนั้น เรื่องความเปรี้ยวมะนาวยังเรียกพี่ บักค้อ ยังต้องถอย ส้มจี๊ดยังต้องยอม แต่มนุษย์เราก็หาวิธีกินมาจนได้แหละ โดยเทน้ำบูดูผสมน้ำตาลทรายใส่พริกบุบ แล้วฝานหลุมพีลงไป ตักกิน ความเปรี้ยวก็กลายเป็นความอร่อยในบัดดล ทางภาคใต้นิยมทานบูดู น้ำบูดูมีกลิ่นหอมป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อผสมกับกลิ่นเปรี้ยวชวนน้ำลายหกของหลุมพี ยิ่งทำให้อยากตักเข้าปากในทันที เมื่อเข้าปาก รสเค็ม รสหวาน จากบูดูและน้ำตาลทรายและเผ็ดเล็กๆ จากพริกบุบ จะรวมตัวเข้ากับความเปรี้ยวได้อย่างลงตัว มีเท่าไหร่ ตักเข้าปากแทบไม่ทัน แต่นั่นแหละ ความเปรี้ยวมักทำให้ท้องเสียได้ หลายคนที่หลงปาก มักต้องเข้าห้องน้ำจู๊ดๆ กับเมนูนี้เสมอ หลุมพีไม่นิยมกินสด เพราะความเปรี้ยวของมันไม่ไว้หน้าใคร กัดไปคำเล็กแต่หน้าเหยเกเบอร์ใหญ่จะปรากฏทันที ฉะนั้นชาวใต้ตอนล่างจึงนิยมนำมาผสมกับน้ำบูดู ดอง แช่อิ่ม รวมทั้งลอยแก้ว หลุมพี เป็นญาติกับ สละ และระกำ ขึ้นอยู่ตามป่าพรุ ป่าดิบชื้น จึงไม่แปลกที่หลายคนไม่รู้จักมัน เนื่องจากสภาพแวดล้อมนี้ มีมากในภาคใต้ตอนล่างเท่านั้น ใครมีโอกาสเยือนภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลองแวะตลาดนัดแล้วถามแม่ค้าดูว่า มีหลุมพีขายไหม หรือเจอรถเข็นขายผลไม้เปรี้ยวผลไม้ดอง แนะนำให้ลองถามถึงหลุมพีดู อ้อ! คนพื้นที่เรียกหลุมพีว่า “ลูกพี” กับ “กะลูบี” อย่างหลังเป็นคำภาษามลายู ใครได้ลิ้มรสแล้ว มาแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะครับ *********