เมื่อเข้าฤดูร้อนคุณก็จะได้เจอกับดอกไม้สวย ๆ แข่งกันออกดอกประชันกันแบบไม่มีใครยอมใคร สำหรับตัวผู้เขียนเองก็ชอบดอกไม้ช่วงนี้เหมือนกัน มีดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างจะชอบเป็นพิเศษคือ ดอกเหลืองอินเดีย เวลาที่ต้นไม้ชนิดนี้ออกดอก เขาจะสลัดใบทิ้งจนหมด เหลือแต่กิ่งก้านโล่ง ๆ ที่ประดับประดาไปด้วยพวงดอกไม้สีเหลืองสดตัดกับสีท้องฟ้าจ้า ดูแล้วก็ออกจะมีอารมณ์สดใสตามดอกไม้ไปด้วย ภาพโดยผู้เขียน ดอกเหลืองอินเดียมีชื่อภาษาอังกฤษน่ารัก ๆ อย่าง Yellow Trumpet ด้วยรูปลักษณะของดอกที่มีด้านหนึ่งเป็นส่วนเรียวยาวส่วนปลายดอกมีลักษณะเป็นกลีบบานออกรอบทิศทางมองดูคล้ายกับเครื่องดนตรีอย่างทรัมเป็ตนั่นเอง ชื่อวิทยาศาสตร์ของเหลืองอินเดียคือ Tabebuia chrysotricha เจ้าคำศัพท์อ่านยากอย่างคำว่า Chrysotricha นี้ เขาก็มีที่มาอยู่ด้วยเหมือนกัน คำ ๆ นี้แปลว่า Golden hair หรือ ขนสีทอง เพราะเราจะพบขนสีทองเล็ก ๆ เต็มไปหมดบนกลีบเลี้ยงของดอกไม้ชนิดนี้นั่นเอง ฟังดูแล้วก็พอจะเข้าใจถึงเหตุผลในการเลือกใช้คำมาตั้งชื่อ จะว่าไปแล้วนักวิทยาศาสตร์เขาก็ช่างมีเหตุมีผลในการเลือกตั้งชื่อต้นไม้ ดอกไม้กันเสียจริง ๆ เลยนะคะ ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ต้นเหลืองอินเดียแม้ว่าจะมีคำว่าอินเดียห้อยท้าย แต่ก็มิได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับประเทศอินเดีย แต่ต้นไม้ชนิดนี้กลับเป็นต้นไม้ประจำชาติที่อยู่ไกลจากเราไปครึ่งค่อนโลกอย่างประเทศบราซิล ต้นกำเนิดของเหลืองอินเดียนั้นมาจากป่าแอตแลนติกที่ทอดตัวไปตามชายฝั่งของบราซิล เหลืองอินเดียไม่เพียงแต่เป็นไม้ประดับเท่านั้น แต่เนื้อไม้ก็มีความแข็งแรงมาก และยังมีการนำมาใช้ทำเป็นยาอีกด้วย ภาพโดยผู้เขียน หากใครอยากจะลองปลูกต้นเหลืองอินเดียแล้วละก็ ควรจะทำความรู้จักเขาสักนิด เหลืองอินเดียนั้นเป็นต้นไม้ที่มีอัตราการโตต่ำ คือค่อย ๆ เติบโตไปเรื่อย ๆ ดังนั้นคนที่อยากจะเห็นดอกเขาไว ๆ ก็คงจะต้องใจเย็นอยู่สักหน่อยนะคะ นอกจากนี้เหลืองอินเดียยังชอบแดดจัด ดินก็จะต้องเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีอย่างพวกดินปนทราย การออกดอกจะออกเพียงปีละครั้งช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ที่สำคัญระยะการบานของดอกไม้ชนิดนี้สั้นมาก ๆ ค่ะ เพียงแค่ 2-3 วันก็จะร่วงหมดต้นแล้ว หากใครสนใจต้นไม้ชนิดนี้จริง ๆ ลองไปเดินเล่นที่ตลาดต้นไม้จตุจักรในวันพุธ-พฤหัสดูค่ะ เพราะมักจะมีพ่อค้าแม่ค้านำต้นเหลืองอินเดียมาขายในราคาไม่แพง *ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน