ในปัจจุบัน ชีวิตสังคมในเมืองนั้นล้วนมีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีความสงบสุขสักเท่าไหร่ ในบางครั้งก็อยากจะหนีความวุ่นวายและสังคมแบบนี้ไปอยู่ในป่าสักพัก เพื่อสัมผัสธรรมชาติ ให้ได้รับความสดชื่นจากอากาศที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องเจอกับมลพิษ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ถ้าจะมีสักที่นึง ที่สามารถเข้าไปแล้วให้เราได้หลุดพ้นจากโลกภายนอกได้ แม้จะเป็นการชั่วคราวได้ก็ยังดี ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น มีสถานที่นึงที่เป็นแบบที่ผมได้กล่าวมา คือ เป็นสถานที่ที่มีความเงียบสงบ ได้สัมผัสกับธรรมชาติ และอากาศที่บริสุทธิ์ ที่นี่ก็คือ สวนโมกขพลาราม สุราษฎร์ธานี หรือชื่อที่เป็นทางการว่า วัดธารน้ำไหล ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยตัวผมเองนั้นได้มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองมาแล้ว สวนโมกขพลาราม สุราษฎร์ธานี จะตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาพุทธทอง ริมทางหลวงหมายเลข 41 สามารถจอดรถได้บริเวณด้านหน้าทางเข้า แต่ที่จอดรถจะมีไม่มากสักเท่าไหร่ ด้านหน้าจะเห็นซุ้มประตูทางเข้า และมีป้ายต่าง ๆ ที่บอกถึงการปฏิบัติตัวและการแต่งกายเมื่อเข้าไปในสวนโมกขพลาราม ถ้าทำตามป้ายที่ติดไว้ได้แล้วก็สามารถเดินเข้าไปได้เลย โดยสามารถเข้าชมได้ฟรี และเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น. เมื่อเข้าไปที่ สวนโมกขพลาราม จะสัมผัสได้กับความเป็นธรรมชาติมาก ๆ เนื่องจากมีต้นไม้น้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก บริเวณใต้ต้นไม้จะมีก้อนหินที่ให้คนที่มาพักผ่อนได้นั่ง ในสวนโมกขพลาราม จะมีสถานที่ต่าง ๆ ให้ได้เดินชมกัน ไม่ว่าจะเป็น โรงปั้นภาพ โรงธรรม สระนาฬิเกร์ ธารน้ำไหล โบสถ์เขาพุทธทอง ลานหินโค้ง และที่พลาดไม่ได้เลย คือ โรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งจะมีป้ายบอกทางว่าจะต้องไปทางไหนบ้าง เมื่อเดินลึกเข้าไป จะมีเส้นทางเดินที่เป็นป่าที่มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่า แม้ว่าช่วงเวลาที่มานั้นจะมีแดดที่ร้อน แต่ถ้าได้อยู่ในสวนโมกขพลาราม จะไม่รู้สึกร้อนเลยแถมยังรู้สึกเย็นมากกว่าด้วย ตามทางเดินมักจะมี หลักธรรมคำสอน หรือข้อความที่เป็นแง่คิดดี ๆ ติดอยู่ตามต้นไม้ให้เราได้อ่านอยู่เป็นระยะ ๆ และจะได้เจอกับกุฏิพระที่อยู่ในบริเวณป่า ที่ดูแล้วเป็นการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายไม่วุ่นวาย และเงียบสงบ เดินเข้ามาเรื่อย ๆ จนมาถึง โรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งด้านในนั้นจะมีภาพศิลป์ ภาพพุทธประวัติ ภาพจำลองด้วยหินแกะสลัก บทกวี และคติธรรมคำสอนในพุทธศาสนานิกายต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ได้ชื่นชมกับภาพศิลป์เท่านั้น เพราะแต่ละภาพนั้นจะให้แง่คิด บาปบุญคุณโทษอีกด้วย เวลาเราดูภาพไปทำให้เราต้องคิดตามไปด้วย ผ่านโรงมหรสพทางวิญญาณ เดินเข้าไปตามทางเดินที่เป็นป่าเข้าไปจนสุด ก็จะพบกับโบสถ์เขาพุทธทอง ที่อาจจะไม่ได้ดูเป็นเหมือนโบสถ์ทั่ว ๆ ไป เพราะมีเพียงแค่ลานกว้าง ๆ และมีพระพุทธรูปหินสีขาวอยู่ ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ และด้านหน้าจะมีสถูปที่ระลึก ณ ที่ท่านพุทธทาสปลงสังขารอยู่ด้วย ขากลับ ถ้าเดินกลับไปอีกทางนึงก็จะได้เห็น รูปปั้นจำลองของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และพรรณไม้ต่าง ๆ ที่สวยงามอีกด้วย และยังจะได้พบกับหุ่นขี้ผึ้งของ ท่านพุทธทาสภิกขุ ที่ดูสมจริงมาก ๆ เพราะตอนแรกที่เห็นผมนึกว่ามีพระนั่งอยู่จริง ๆ เลย สำหรับใครที่อยากที่จะแสวงหาความสงบแล้วหล่ะก็ ที่ "สวนโมกขพลาราม" สุราษฎร์ธานี นั้น สามารถมาเป็นผู้ปฏิบัติธรรมได้ด้วยนะครับ โดยอาจจะต้องลองไปติดต่อกับทางสวนโมกขพลารามดูก่อนนะครับ สำหรับตัวผมเองแค่ได้เข้าไปเดินชม ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ทำให้จิตใจผมนั้นสงบ และพร้อมที่จะกลับมาเผชิญกับโลกปัจจุบันแล้วหล่ะครับ ใครที่มีโอกาสไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่าลืมแวะเข้าไปกันนะครับ ที่มาภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดโดย : Tae Rattawat ( ผู้เขียน )