อยากขายของ แต่ไม่รู้ขายอะไร ทุนไม่ค่อยมี ไปขายที่ไหนดี ไม่มีรถ ไม่มีงบตั้งร้าน "จะขายของทั้งที ไอ้นุ่นก็ไม่พร้อมไอ้นี่ก็ไม่พร้อม ชักท้อแล้วนะ" อย่าพึ่งท้อครับ วันนี้ผมมาเขียนแนะนำอาชีพค้าขายอีกอาชีพนึงให้อ่านพิจารณากันดูครับ ข้อมูลที่เขียนไม่ใช่นั่งเทียนหรือไปเอามาจากเว็บอื่นๆนะครับ เขียนสดจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเลยครับ เคยขายของแนวนี้มา 7 ปี จะมาบอกเล่าประสบการณ์และวิธีการทำให้อ่านกันครับ และแถมข้อมูลลับที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนกับการทำกำไรจากสินค้าเป็น 100 เท่า !!! (สินค้ารูปตุ๊กตาเซรามิคด้านบน เหมามาตัวละ 30 บ. ขายไป ตัวละ 350 บ.หมดเกลี้ยง) ผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงจะเคยได้ยินได้เห็นสินค้ามือสองจากญี่ปุ่นผ่านหูผ่านตากันมาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะเดี๋ยวนี้แทบจะทุกจังหวัดจะมีร้านที่เปิดขายสินค้ามือสองจากญี่ปุ่นโผล่ขึ้นมามากมาย สินค้าที่นำมาขายก็จะมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของเล่นของใช้สำหรับเด็ก ถ้วยชาม เป็นต้น แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำสินค้าที่ขายออกง่าย ต้นทุนถูกและกำไรดี ซึ่งจะมีอยู่ 2-3 ประเภท คือ1) สินค้าแนวของเล่นของสะสม 2) สินค้าแนวถ้วยชามเซรามิค3) สินค้าแนวของแต่งบ้านชิ้นเล็กๆสินค้าทั้ง 3 ประเภทนี้ผมขายมาเป็นเวลา 7 กว่าปีแล้วครับ ผมจะบอกเล่าแชร์ขั้นตอนการนำสินค้าญี่ปุ่นตั้งแต่แหล่งหาสินค้ามาขายจนไปถึงช่องทางการขายเลยนะครับ(แก้วมูมินมอมๆใบนี้ชื้อมา 30 บ.ผมขายไป 400บ. ) ขั้นตอนแรกนะครับ สำคัญมาก เพื่อนๆต้องรู้ก่อนนะครับว่า จะขายอะไร ขายที่ไหน ก่อนอื่นนะครับ เราจะไปดูแหล่งที่เราจะเอาของมาลงขายก่อน ไม่ต้องไปไหนไกลครับ นั่งนิ่งๆอยู่ในบ้านแล้วหยิบมือถือขึ้นมา เปิดเฟสบุค แล้วพิมพ์ในช่องค้นหาด้วยคำว่า "สินค้าญี่ปุ่นมือสอง" เพื่อนๆก็จะเจอทั้ง เพจ กลุ่ม พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของญี่ปุ่นมือสองมากมาย จากนั้นให้กดถูกใจเพจ ขอเข้ากลุ่ม กดแอดพ่อค้าแม่ค้าเป็นเพื่อน ขั้นตอนนี้เราจะได้ทั้งช่องทางขายของและข้อมูลสินค้าที่เราจะนำมาขาย ให้เพื่อนๆศึกษาเลยนะครับว่า สินค้าอะไรขายดี ลูกค้าชอบสินค้าแนวไหน ตั้งราคาขายกันเท่าไหร่แล้วจำราคาให้ได้เวลาเราไปคัดของ เราจะได้เปรียบเทียบราคาต้นทุนและกำไรได้ครับ ขั้นตอนต่อไปก็คือ แหล่งที่เราจะไปหาสินค้ามาขายนั่นก็คือ ร้านสินค้าญี่ปุ่นมือสองนั่นเองครับ ในกรุงเทพฯและชลบุรีจะได้เปรียบมากกว่าจังหวัดอื่นๆ เพราะร้านแนวนี้เยอะมาก มีทั้งร้านเล็กร้านใหญ่ เจ้าของนำตู้เข้ามาเองเปิดร้านเองก็มีครับ ส่วนต่างจังหวัดนั้น ต้องสืบเสาะดูครับ เมื่อเจอร้านแล้วให้เราเข้าไปส่องดูครับ เข้าหลายๆร้าน สอบถามราคาแนวสินค้าที่เราจะขาย สอบถามเรื่องการลงสินค้าใหม่ ขอเบอร์โทร ขอเฟสบุคเอาไว้ด้วยนะครับ เมื่อเราได้ข้อมูลทุกอย่างแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็สำคัญไม่แพ้กันครับ "เงินในกระเป๋าท่านครับ" ^_^ ถ้าทุนไม่เยอะก็เล่นพวกของสะสมชิ้นเล็กๆไปก่อน ต้นทุน 10-50 บาท กำไรก็ต้องได้ 20-100 บาทต่อชิ้น ถ้าทุนเยอะก็เล่นหนักหน่อย พวกของชิ้นใหญ่ จำพวก จานชามเซรามิค ของตกแต่งบ้าน ของตั้งโชร์ ต้องเลือกที่เป็นแนวของสะสมนะครับ ไม่ใช่เอาจานชามอะไรมาขายก็ได้ ต้องหาข้อมูลให้มาให้พร้อมก่อนไปคัดของนะครับ(นกฮูกช่วงที่ฮิตๆเอามากี่ตัวก็หมดกำไรดีมาก กำไรหลักร้อยทุกตัวครับ) หลังจากเราไปคัดของมาขายได้แล้ว ก็ทำการตรวจเช็คสินค้าก่อนมีแตกหักชำรุดบ้างไหม หลังจากนั้นก็จัดฉากหามุมถ่ายรูปให้สวยๆ ถ่ายเสร็จก็อัพลงเฟสบุค คำบรรยายสินค้าไม่ต้องเยอะครับ ใส่ราคา ขนาด หาอะไรมาเทียบเคียงตั้งคู่ติดกันตอนถ่ายรูปก็ได้ครับ ลูกค้าได้เปรียบเทียบขนาดได้ หรือหาสายวัดของช่างเย็บผ้ามาไว้สักเส้นครับ หลังจากที่เราลงสินค้าจนเสร็จ ให้เราพยายามแอดคนในเฟสบุคที่มีวี่แววว่าจะเป็นลูกค้าเราได้ แล้วหาจากไหนล่ะ ก็จากกลุ่มต่างๆที่ขายสินค้ามือสองเลยครับนอกจากแอดเพื่อนแล้วถ้าเราไปโพสขายในกลุ่มต่างๆ คนที่เค้าสนใจสินค้า เค้าก็จะแอดเรามาเองครับ ลงขายแล้วขายได้แล้วทำไงต่อ ก็เตรียมอุปกรณ์สำหรับห่อไว้เลยครับ กล่อง หนังสือพิมพ์ ผ้าเทปพันกล่อง สก๊อตเทป ปากกาเมจิก สมุดปากกา เตรียมให้พร้อม แล้วอย่าลืมเลขบัญชีธนาคารด้วยนะครับ ^_^ การจ่ายเงินจะใช้ระบบโอนค่าสินค้ากันมากที่สุด ***สำคัญ ต้องโอนค่าสินค้าก่อนจัดส่งนะครับ ไม่มีเก็บเงินปลายทาง ไม่มีส่งสินค้าให้ก่อน ผมเจอมาเยอะแล้วครับ ลูกค้าดีๆเข้าใจคนขายมีเยอะครับ แต่ลูกค้าที่ไม่ดีก็มีแน่นอนครับ ของแถมทิ้งท้าย แหล่งขายสินค้าที่ขายได้ราคาดีสุดๆ ของชิ้นเล็กๆน้ำหนักเบาๆราคาทุนหลักสิบแต่ทำกำไรให้เราได้ราคาหลายร้อยจนถึงหลักพัน นั่นก็คือ ebay.com เพียงเพื่อนๆใช้คำว่า Japanees secondhand หรือ Japan Import พิมพ์ในช่องค้นหาของ ebay แล้วดูในหมวดหมู่ของสะสม Toy เพื่อนๆก็จะเจอแหล่งขุดทองชั้นดีครับ เอาไว้มีเวลาว่างผมจะมาเขียนบทความแบบละเอียดเรื่องนี้อีกทีครับเรื่องเล่าทิ้งท้าย ผมไปคัดของที่ร้านสินค้าญี่ปุ่นมือสองร้านนึง เห็นผู้คนกำลังมุงแย่งชิงสินค้าในกล่องกระดาษใบใหญ่ใบนึง ผมก็ยืนใช้สายตามองเข้าไปในกล่องอย่างสงบ พอกลุ่มคนเหล่านั้นเลิกราสงครามแย่งชิงและต่างแยกย้ายกันไปแล้ว ผมก้มลงหยิบสร้อยเงินเส้นเล็กๆขึ้นมา ใช้สายตาพิจารณาอยู่เพียงครู่ ก็เดินเอาสร้อยเส้นนี้ไปจ่ายเงิน " 10 บาทจร้าาา" ผมจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกจากร้านมาอย่างช้าๆก้าวย่างอย่างสุขุม ค่อมมอเตอร์ไซค์คันเก่งแล้วบิดออกไปอย่างช้าๆ หลังจากขี่พ้นร้านค้ามาได้ไม่ถึง 50 เมตรผมก็บิดหมดปลอกจนถึงบ้านภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จัดการถ่ายรูปสร้อยเงินเส้นนั้นแล้วโพสลงเฟสบุคในทันทีผมโพสขายแบบประมูลราคา "หลังจบเวลาประมูล เส้นสร้อยปิดราคาที่ 1500 บาท"ข้อมูลรูปภาพ : Facebook ลุงเท่ง วินเทจ