เที่ยวทั่วไทย เที่ยวไปกับป้าจิน กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ ครั้งนี้ขอพาลงไปเที่ยวทางภาคใต้หน่อยแล้วกันค่ะ แต่ก็ยังไปไม่ถึงใต้สุดนะ เพราะแผนเที่ยวของป้า จะไปแค่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน ไปกุ้ยหลินเมืองไทย ไปเขื่อนรัชชประภา เอ๊ะ ตกลงจะไปไหนกันแน่คะเนี่ย ก็สถานที่ที่ว่าเค้ามีชื่อว่า เขื่อนรัชชประภา เดิมชื่อว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน ส่วนที่เรียกกันว่า กุ้ยหลินเมืองไทย ก็เนื่องมาจากมีภูเขาหินปูน ขึ้นแทรกอยู่กลางน้ำ หากใครได้เดินทางไป จะเห็นได้ว่ามีภูเขาหินปูนที่ว่านี้ อยู่เกือบตลอดเส้นทางที่นั่งเรือผ่าน และที่เป็นจุดเด่นที่ใครได้มาต้องมีรูปถ่ายตรงจุดนี้กลับไป ก็คือ ภูเขาหินปูน ที่ตั้งเรียงกันเรียกว่า เขาสามเกลอ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ก็ว่าได้ ภาพประกอบโดยผู้เขียน เรื่องของการเดินทางสำหรับป้าจินนั้นก็ได้เดินทางไปกับทัวร์ช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นทัวร์ที่ประทับใจมาก ตั้งแต่เริ่มเดินทาง จนถึงขากลับกันเลยทีเดียว แต่ก็จะออกเมื่อย ๆ หน่อย เพราะป้าเดินทางโดยรถบัส ออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ประมาณ 22.00 น. ไปถึงเขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี ประมาณ 06.00 น. ทางไกด์นำเที่ยวก็จะมาจัดแจงเวลาให้เราได้ทำกิจกรรมส่วนตัว ล้างหน้า อาบน้ำ แปรงฟัน และรับประทานอาหารเช้า หลังจากนั้นประมาณ 08.30 น.ก็เตรียมตัวหอบสัมภาระไปรอขึ้นเรือกัน ภาพประกอบโดยผู้เขียน เรือที่เราจะใช้เดินทางเข้าไปในเขื่อนไปยังสถานที่พัก จะเป็นเรือคล้าย ๆ เรือหางยาว ต่อเติมเพียงหลังคาและที่กั้นด้านข้างเรือ แต่ขอบอกว่าหลังคาเรือนั้นกันแดดได้ แต่กันน้ำไม่ได้นะคะ เพราะอะไรน่ะเหรอคะ ก็เมื่อเรือขับแล่นเข้าไปในเขื่อน จะมีลมมาปะทะกับสายน้ำ ตลอดการเดินทางทำให้น้ำแตกกระเซ็นมาทางเรือที่เรานั่ง ก็จะเปียกไปตาม ๆ กัน คนนั่งหน้าก็จะเปียกเยอะหน่อย ใครที่เคยไปอาจเห็นบางคนใส่เสื้อกันฝน ไม่ได้กันฝนนะคะ บางคนมีประสบการณ์เคยมาแล้ว หรือบางคนศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทาง ทำให้รู้ว่าต้องพกเสื้อกันฝน หรือร่มมาด้วย เพื่อกันละอองน้ำที่ากระเด็นมาหาเราตอนนั่งเรือนี่ล่ะค่ะ ซึ่งจะโดนทั้งขาไป ขากลับ เลยนะคะ บางคนโชคดีหน่อย ทิศทางลมเปลี่ยนก็จะไม่เปียกเลยก็มีค่ะ ภาพประกอบโดยผู้เขียน เมื่อมาถึงจุดสำคัญ คือ เขาสามเกลอ เรือจะจอดให้ได้ถ่ายรูป เก็บรูปสวย ๆ กันสักพักก็เดินทางต่อ เพราะมีเรืออีกหลายลำที่จอดจ่อคิวรอให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเช่นกัน ภาพประกอบโดยผู้เขียน นั่งเรือเข้ามาได้สักพักสัญญานโทรศัพท์จะเริ่มหายไป บางจุดไม่มีสัญญานเลย หากใครอยากเช็คอินก็เอาไว้ไปถึงที่พักแล้วค่อยเช็คอินก็แล้วกันค่ะ บรรยากาศสองฝั่งที่นั่งเรือมาจะดีมาก น้ำในเขื่อนใสมากแต่เมื่อมองภาพไกลจะเห็นน้ำเป็นสีเขียว แอบน่ากลัวนิด ๆ แล้วก็มาถึงที่พักราว ๆ เกือบ 11.00 น. พักที่แพชื่อว่า ภูผาวารี ภาพประกอบโดยผู้เขียน ที่แพแห่งนี่จะห้องพักแบบห้องแอร์และห้องพัดลมธรรมดา ป้าได้พักห้องแอร์ แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้เปิดแอร์เลยค่ะ เพราะลมเย็นและแรง เปิดหน้าต่างแง้ม ๆ ตอนนอนหลับยาวกันเลยทีเดียว หลังจากเก็บสัมภาระเข้าห้องพักแล้วก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี อาหารก็อร่อยใช้ได้ค่ะ เมนูแนะนำที่นี่คือ ใบเหลียงผัดไข่ บอกเลยว่าอร่อยมาก ป้าขอเติมแล้วเติมอีก แกงเหลืองปลากระพง รสชาติก็จัดจ้าน ไข่เจียวธรรมดาก็อร่อยเหลือหลาย คงเป็นเพราะหิวจัด รับประทานอาหารกันอิ่มแล้ว ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัทธยาศัย ไกด์นัดอีกที บ่ายสองโมง เค้าจะพานั่งเรือ ต่อด้วยนั่งแพ ไปเที่ยวถ้ำกัน ภาพโดยผู้เขียน ถ้ำแห่งนี้ก็จะนั่งเรือจากที่พักเข้าไปไกลพอสมควร ลงเรือแล้วต้องเดินเท้าเข้าไป ทางก็จะชันและลื่น แนะนำว่าต้องใส่รองเท้าผ้าใบไปค่ะ เดินไปสักพักก็จะไปถึงที่ต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าไปอีก ก็ไปรอต่อคิวนั่งแพอีกเช่นเคย เนื่องจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ เมื่อไปถึงปากถ้ำก็ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกนิด ทางแพจะรอรับเราให้เราจำคนลากแพให้ได้ แต่เค้าจะรู้อยู่ว่าต้องคอยรับใคร เพราะลงแพตรงไหนก็ขึ้นตรงที่เดิมภาพประกอบจากผู้เขียน ภายในถ้าจะมีหินงอกหินย้อย สวยงามมาก ๆ ที่มีลักษณะเป็นเหมือนผ่าม่านก็มี ไกด์บอกว่าหลังม่านเป็นห้องนอนเทวดา ก็ขำ ๆ กันไประหว่างเดินชมถ้าจะได้ไม่เงียบเหงาภาพประกอบโดยผู้เขียน เวลาเดินชมก็ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็นั่งแพ และนั่งเรือกลับมาที่พัก อาบน้ำล้างตัว ว่ายน้ำเล่น พายเรือเล่น หน้าห้องพัก รอเวลาอาหารเย็นประมาณ 18.00 น. หลังรับประทานอาหารเสร็จ ก็แยกย้ายกันพักผ่อน ตอนเช้าเวลาอาหารเช้า 07.00 น. และเตรียมเก็บของเดินทางกลับ ป้าจินเลือกทัวร์ 2 วัน 1 คืน ในเขื่อนเชี่ยวหลาน หลังจากนั่งเรือออกจากเขื่อนแล้วก็ไปเที่ยวต่อตามสถานที่ต่าง ๆ ไว้ครั้งหน้าป้าจินจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ การเดินทาง แล้วแต่ใครสะดวกนั่งรถ หรือนั่งเครื่องบิน เพราะทางรีสอร์ทที่นี่ส่วนใหญ่ จะเป็นแบบเหมาแพ็คเกจ รถรับ-ส่ง สนามบิน พร้อมเรือโดยสาร รวมที่พักและอาหาร สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลการเดินทางได้จากเพจการท่องเที่ยวหรือจากรีวิวของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ หากใครมีเวลา อยากหาที่พักผ่อนแบบสงบเงียบ เป็นส่วนตัว แนะนำที่นี่เลยค่ะ กุ้ยหลินเมืองไทย เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี