วันนี้มีโอกาสดี ที่จะได้พาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับวัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชื่อ วัดนิคมธรรมาราม ตั้งอยู่ที่ ตำบลมะขามเตี้ย ทางที่จะไปศาลแขวงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งวัดนี้ เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า วัดหัวเขา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบพระเก่าแก่หลังกุฏิ จำนวนหนึ่ง น่าจะมีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งคาดว่าอดีตเจ้าอาวาสเป็นผู้สร้างและ ฝังไว้ตามบริเวณต่าง ๆ ภายในวัด เมื่อเข้ามาในวัดสิ่งที่เห็นโดดเด่นเป็นสิริมงคล ทางด้านซ้ายมี พระสังกัจจายน์ องค์ใหญ่ แม้แต่มองจากด้านนอกวัดก็ยังเห็นองค์ท่านสีทองอร่าม ซึ่งเป็นพระอรหันต์แห่งความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ ทางด้านขวาเป็น พระสีวลี สูงตระหง่านองค์สีทองอร่ามเฉกเช่นเดียวกับองค์พระสังกัจจายน์ที่ มองจากถนนเข้ามาในวัดก็ยังเห็นพระพุทธรูปทั้งสองพระองค์สง่าเป็นบุญตาแก่ผู้ที่ผ่านไปมา ซึ่งเชื่อว่าหากผู้ใดบูชาองค์พระสีวลี ผู้นั้นจะไม่ขัดสน ไม่อับจนเงินทองไหลมาเทมา แต่ก็ต้องทำงาน หมั่นทำบุญบริจาคทานด้วยเช่นเดียวกันตรงนี้เราขอไม่ลำดับการไหว้ที่ถูกต้องนะคะ เพราะเราก็ไหว้ตามความสะดวก เมื่อไหว้พระสีวลีเรียบร้อย วัดนิคมธรรมารามจะตั้งอยู่บนเนินเขา เรียกได้ว่าทางค่อนข้างลาดชันบางจุด แต่ไม่มากค่ะสบาย ๆ ทางขึ้นไปไหว้หลวงปู่ทวดและพระพุทธประจำวันเกิด แอบมาเกาให้น้องเหมียวเบา ๆ ต่อจากนั้นเราก็มาสักการะ หลวงพ่อสมบุญ ฐิตฉนุโท อดีตเจ้าอาวาสผู้สร้างวัดนิคมธรรมาราม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494 โดยได้รับการแต่งตั้้งและประกาศให้เป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2522 ซึ่งภายในศาลาแห่งนี้ ได้เป็นที่ประดิษฐานสังขารของหลวงพ่อภายในโลงแก้ว โดยที่สังขารท่านไม่เน่าเปื่อยแม้จะผ่านกาลเวลา มานานเท่าใดและนี่คืออีกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดที่เราอยากจะ เชิญชวนทุก ๆ คนมากราบไหว้ขอพระ นั่นคือ ศาลพ่อตาทิศช้าง บริเวณศาลแห่งนี้ ตั้งอยู่มุมโค้งของภูเขา ผู้ที่ขับขี่รถทุกประเภทที่ผ่านเส้นทางนี้ ตรงทางโค้งจะมี ศาลพ่อตาทิศช้างและศาลแม่งูเหลือมตั้งอยู่ ซึ่งจะต้องมีการบีบแตรขอทาง หรือขอพรกันเกือบทุกคัน ซึ่งตัวเราเองแม้บ้านจะอยู่ไกลจากวัดนี้พอสมควรแต่ก็ยังมีโอกาสมาขอพรกับพ่อตาทิศช้าง และแม่งูเหลือมอยู่เสมอ และได้รับพรสมปรารถนาหลายต่อหลายครั้ง ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ละกันนะคะในส่วนของตำนาน ศาลพ่อตาทิศช้างนั้น เราไม่มีข้อมูลแต่อย่างใด ทราบแต่เพียงว่า ท่านศักดิ์สิทธิ์มากขอพรที่ดีก็ย่อมได้ และเหตุที่เรียกว่าพ่อตาทิศช้างนั้นก็น่าจะมาจากมีก้อนหินลักษณะคล้ายช้างหันหน้าออกไปยังถนนสายสุราษฎร์-นาสาร เหมือนจะคุ้มครองลูกหลานให้ขับรถแคล้วคลาดปลอดภัย ผู้ที่ได้สมพรแล้วก็นำช้างหรือสิ่งของใด ๆ มาถวายตามที่บอกกล่าวไว้ เยอะมากด้านข้าง ๆ จะเป็น ศาลแม่งูเหลือม มีซากของงูเหลือมสีขาวขนาดใหญ่มากถูกดองอยู่ในตู้กระจก และซากงูเห่าขนาดใหญ่ด้านหน้า ซึ่งเชื่อว่าเป็นงูเจ้าที่ ที่อยู่ ณ บริเวณนั้น บอกได้เลยว่าขนาดใหญ่มากจริง ๆ ตรงทางขึ้นจะมีจุดให้เราทำบุญ สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมอะไรมา แต่หากไม่สะดวกก็สิบนิ้วพนมก้มไหว้ได้ค่ะ บริเวณภายในวัดจะมี ศาลาการเปรียญ 2 ศาลาหลังใหญ่ และมี 1 อุโบสถด้านหลังของวัดสิ่งที่เราเพิ่งจะเห็น ทั้งที่ไปวัด ไปไหว้พระมาหลายครั้งแล้วนั้นก็คือ บริเวณที่จัด แสดงรูปปั้น เปรตและคนที่ปีนต้นงิ้ว แสดงถึงกฎแห่งกรรมจากผลของการกระทำ บรรยากาศตรงจุดนั้นคือ แตกต่างจากตรงที่มีพระมีสิ่งศักดิ์อย่างสิ้นเชิง เพราะด้วยบรรยากาศโดยรอบ ทำให้เราตระหนักได้ว่า นี่แค่บรรยากาศบนโลกมนุษย์ยังดูน่ากลัวขนาดนี้ ในอีกมิตินึงผู้ที่ได้รับผลของกรรมนั้นซ้ำ ๆ จะน่ากลัวขนาดไหน ไปคนเดียว ตรงนี้รู้สึกบรรยากาศแปลกไปเลย ไปที่วัดเราอยากแนะนำเพื่อน ๆ นะคะ ว่าหาขนมติดไม้ติดมือไปฝากน้อง ๆ ตาดำในวัดที่มีอยู่หลายตัวทีเดียว นอกจากเราจะได้ใจเจ้าถิ่นแล้ว เรายังได้การคุ้มครองจากบอดี้การ์ดสี่ขา เหล่านี้ด้วย นี่เป็นเคล็ดลับในการในใจสู้หมาของเรา เพราะที่วัดส่วนใหญ่จะเป็นศูนย์รวมของสี่ขาทั้งหมาทั้งแมว นอกจากเราจะไม่โดนหมาหมู่มารุมเห่าใส่แล้ว เรายังได้ชื่นใจเวลา พวกเขาเหล่านั้นส่ายหางใส่ เวลาเห็นเรา ให้ทานแก่สัตว์ เราเองก็สุขใจจบการทัวร์วัดนิคมธรรมาราม แห่งนี้ ทางเราเองอยากจะแนะนำเพื่อน ๆ ให้ลองหาเวลาไปไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้ดู วัดค่อนข้างกว้างขวาง ร่มรื่น ได้ไหว้พระ ขอพรได้ค่ะ แถมเราได้พักจิตพักใจ เข้าหาความสงบภายในวัดได้ เหมื่อนเราได้มีเวลาสักนิดในการสำรวจจิตใจของเรา ให้เราได้หลุดจากสังคม จากความวุ่นวาย ได้อยู่กับตัวเองสักชั่วครู่เวลาหนึ่งภาพถ่ายโดยนามปากกา ชาลี ดีใจ