ไลฟ์แฮ็ก

จุดเริ่มต้นหายนะ!!!...ทางการเงินของใครหลายคน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
จุดเริ่มต้นหายนะ!!!...ทางการเงินของใครหลายคน

จุดเริ่มต้นหายนะทางการเงินของใครหลายคน ก็คือ การไม่จดบันทึกรายรับรายจ่าย = ประมาทในการใช้ชีวิตขั้นร้ายแรง

เคยมีคนหัวเราะเยาะแอดทันที ที่รู้ว่าแอดจดรายรับ-รายจ่าย

เขาบอกว่า "จดทำไม ในเมื่อค่าใช้จ่ายทุกเดือน เป็นรายจ่ายที่แน่นอนอยู่แล้ว "

แอดบอก "จะได้รู้ว่าเงินแต่ละบาทเราจ่ายอะไรไปบ้าง"

เขาตอบ "แค่บาทสองบาทไม่ต้องจดก็ได้มั้ง"  แล้วเขาก็หัวเราะเยาะแอดต่อ

ภาพโดย Michal Jarmoluk จาก Pixabay เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Michal Jarmoluk จาก Pixabay

โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า เงินบาทสองบาท  ที่เขาละเลย แอดเคยจดแล้วมาบวกรวมกัน  หลายบาทเลยนะ เป็นร้อยเป็นพันบาท แต่หลายคนกลับมองข้ามไป  เพราะคิดว่าไม่สำคัญ สุดท้ายมานั่งงงว่าเงินหายไปไหนหมด จำไม่ได้ว่าจ่ายอะไรไป และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หลายคนซื้อของฟุ่มเฟือย และไม่มีเงินเก็บ!

เปรียบเสมือนเรือ ถ้ามีรูรั่วนิดหน่อย  แต่เราไม่รู้ว่ารั่วตรงไหน เรามองไม่เห็น  พอมีหลายรู้มากเข้า สุดท้ายน้ำเข้า เรือก็จมลง บางคนรู้ตัวทัน  เปรียบดั่งว่ายน้ำเป็น ก็ขึ้นฝั่งได้ รอดไป  แต่บางคนรู้ตัวช้า เปรียบดั่งว่ายน้ำไม่เป็น  สุดท้ายต้องจมตาย

Advertisement

Advertisement

ตั้งแต่แอดจด แอดลดการซื้อของฟุ่มเฟือยได้เยอะเลยค่ะ แต่ก่อนเป็นคนที่ช้อปของออนไลน์บ่อยมาก  ทั้งเพจ หรือกลุ่มเสื้อผ้าที่เข้าไปซื้ออีกเหมือนโรคจิต ต้องช้อปปิ้งแก้เครียด  หรือ โรคทางจิตชนิดหนึ่ง ที่เรียกกันว่า Shopaholic นั่นแหละ

ภาพโดย TeroVesalainen จาก Pixabay เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย TeroVesalainen จาก Pixabay

พอแอดจดทุกบาททุกสตางค์ ทุกสิ้นเดือน  จะเอาปากกาไฮไลท์ที่เป็นสี ๆ  มามาร์คข้อความ  รายการที่ฟุ่มเฟือย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ของกิ๊ฟช้อป  แม้กระทั่งของกินที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็นับว่าฟุ่มเฟือย ถ้าซื้อบ่อย ๆ  และมากจนเกินไป  เช่น น้ำ อัดลม อมยิ้ม ไอศกรีม ไส้กรอก  มันเป็นของหวาน มีสารกันบูดบ้างล่ะ  มีสารบอแรกซ์บ้าง มันไม่ดีต่อร่างกาย  แอดก็ได้รู้ตัว และลดทาน อาหารพวกนี้น้อยลง

ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ พอได้เห็นข้อความรายการที่เราไฮไลท์ไว้ และมาบวกรวมกัน เป็นเงินมากโขเลยนะ  จนน่าตกใจมาก รู้สึกผิดและโกรธตัวเองมากเลย ทำไมซื้อของฟุ่มเฟือย ไร้สาระได้มากขนาดนี้  จนพ่อแม่ก็ดุเตือนบ่อย ๆ  ให้เก็บเงินบ้างนะ อย่าสั่งแต่ของออนไลน์ ถ้าไม่รู้จะเอาเงินไปไว้ไหน ก็เอามาให้พ่อกับแม่ ฝากพ่อแม่ไว้จะดีกว่า

Advertisement

Advertisement

พอเราเห็นมีหลายรายการไฮไลท์ข้อความเยอะ เราก็อยากเอาชนะตัวเอง ด้วยการบอกว่าฉันจะทำให้รายการฟุ่มเฟือยเหล่านี้หมดไปให้ได้โดยไม่มีรายการซื้อของฟุ่มเฟือยให้ฉันมานั่งไฮไลท์อีกเลย  สุดท้ายเวลาผ่านไป แอดก็ทำสำเร็จ  แอดตัดสินใจลบแอปซื้อของออนไลน์ต่าง ๆ ออกหมดเลย  ออกจากกลุ่มขายเสื้อผ้า และกดเลิกติดตามเพจ บางเพจชอบส่งข้อความมาอัปเดตสินค้าใหม่  ในไลน์ด้วยเช่นกันแอดก็บล็อกเลย  เพื่อนในเฟซบุ๊กคนไหน ชอบแชร์โปรโมชั่นบ่อยเกินไป แบบถี่ ๆ ยิบเลยแทบทุกวัน   ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แอดก็แค่กดเลิกติดตามทำสิ่งเหล่านี้ เพื่อกันตัวเองไม่ให้เกิดกิเลส  จนเผลอเข้าไปซื้อของฟุ่มเฟือยอีก

ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay

ลดการเดินห้างน้อยลง ไปเดินสวนสาธารณะ  ตลาดนัดแทน เพราะในห้างของเซลล์ 1 แถม 1 ลดราคามันเยอะ จะดูดเงินในกระเป๋าเราไปจนหมด  เพราะคิดได้ว่าเสื้อผ้าใส่ก็ซักได้  ใส่ซ้ำแต่ซักแล้ว ก็ไม่ตายนี่  แขนมีสองข้าง จะสะพายกระเป๋ามากมายไปทำไมกันนักหนา

Advertisement

Advertisement

หน้าที่ของเขา คือ ใส่ของแค่นั้นเอง  เท้าก็มีแค่คู่เดียว จะมีรองเท้ามากมาย  หลายคู่ไปทำไมกัน แค่ใส่อยู่บ้าน  ใส่เที่ยว ใส่ออกกำลังกาย 2-3 คู่ก็พอแล้ว  หลายครั้งที่คิดว่าไปเดินเล่นเฉย ๆ กลับได้ของติดไม้ติดมือกลับมาทุกที

ก่อนจะไปห้างจะจดรายการที่ต้องซื้อก่อนทุกครั้ง เช่น นมตรา..กี่แพ็ค ซอสมะเขือเทศ น้ำเปล่ายกแพ็ค น้ำมันพืช ฯลฯ จดรายการให้ละเอียดเรียบร้อย พอถึงห้างซื้อตามรายการเท่านั้น เสร็จเดินไปจ่ายเงินกลับบ้านเลย

หนังสือก็เหมือนกัน แอดชอบอ่านมาก และการซื้อมากไป ก็นับเป็นของฟุ่มเฟือยได้เช่นกัน หากเงินที่เราซื้อเกินงบ จนไปกระทบกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่น  แอดจึงใช้วิธีศึกษาดูรีวิว หนังสือจากหลาย ๆ  ที่ เล่มไหนดี เล่มไหน คนอ่าน เซฟรูปเก็บไว้  แล้วกำหนดงบ ว่าจะซื้อไม่เกินกี่บาท ห้ามเกิน เพื่อสร้างวินัยตัวเอง  พอไปถึงร้านหนังสือ ก็เปิดรูปขึ้นมาดู เจอก็จ่ายเงิน ไม่เจอก็ให้พนักงานหาให้ เสร็จจ่ายเงินออกจากร้านเลย  หรือไปดูที่ห้องสมุดประชาชนก่อนว่าเล่มที่เราอยากอ่านมีให้ยืมอ่านบ้างไหม?

ภาพโดย Steve Bidmead จาก Pixabay เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Steve Bidmead จาก Pixabay

ถ้ามือมันจะลั่นมาก อยู่ไม่สุข ก็โอนซื้อสลากออมสินดิจิทัลแทน กองทุนรวมที่ศึกษาดีแล้ว  หรือใครจะออมทอง ฝากประจำ ออมหุ้น หรือบริจาคให้มูลนิธิที่มีใบเสร็จ เป็นการทำบุญแถมไว้ใช้ลดหย่อนภาษีไปในตัวด้วยค่ะ อย่างไรเงินก็ไม่หาย มีเงินเก็บ ได้ลุ้นรางวัลใหญ่ และสร้างเงินล้านในอนาคตได้  ดีกว่ามือลั่นโอนซื้อของช้อปปิ้งกว่าไหน ๆ  แล้วพอมาเก็บบ้าน จัดบ้านทีเห็นของที่เคยซื้อเพราะอยากได้มาก ๆ  แต่พอได้มาแล้ว ก็งั้น ๆ  สุขแป๊บเดียว สุดท้ายไม่ได้ใช้ ก็ตั้งแช่ไว้  เห็นแล้วเจ็บใจ รู้สึกผิดทุกที เหมือนเอาเงินไปทิ้งเฉย ๆ แต่ตอนนี้เลิกได้ถาวรแล้ว ต้องใช้เวลานะ

Shopaholic เสพติดการช้อปปิ้ง เป็นโรคทางจิตที่ต้องรักษา อย่าคิดว่าปกติ ไม่ปกติค่ะ  ต้องรักษา  เพราะไม่อย่างนั้น ต่อให้มีเท่าไหร่ ก็หาทางใช้หมดอยู่ดี ความต้องการของคนเราอาจไม่มีที่สิ้นสุดก็จริง แต่เราเลือกได้ค่ะ ว่าต้องการแค่ไหน ที่จะพอดีกับชีวิตเรา และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอย่างแท้จริง  เพราะความสุขที่แท้จริง ต้องไม่ใช้เงินซื้อ  ถ้าใช้เงินซื้อตลอด นั่นแค่สุขชั่วคราว  ไม่ใช่สุขถาวรค่ะ

❌ฟุ่มเฟือย คือ ไม่มีประโยชน์ต่อชีวิต ไม่มีก็ไม่ตาย ไม่มีก็อยู่ได้ค่ะ  ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองมาก ๆ  นะคะ  อย่าคิดเข้าข้างตัวเองเด็ดขาดว่าสิ่งนี้ไม่ได้ฟุ่มเฟือยสักหน่อย  มิฉะนั้นต่อให้เราจดทั้งปีทั้งชาติ  ก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาได้เลยค่ะ  ถ้าเรายังไม่ซื่อสัตย์กับตัวเอง ฟุ่มเฟือย คือ ฟุ่มเฟือย ห้ามคิดเข้าข้างตัวเองเด็ดขาดค่ะ❌

===================================

Blockdit : https://www.blockdit.com/neemmy.bk

เครดิตรูปภาพหน้าปก : ภาพโดย Andrew Khoroshavin จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์