“ขอไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในแหล่งธรรมชาติ ป่าเขาที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง มีน้ำตกสวย ป่าไม้สูงใหญ่ อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์ป่าน่ารัก หาดูได้ง่าย ๆ ” ถ้าคุณคิดถึงประโยคดังกล่าวก็ต้องไป “โตนงาช้าง” หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พวกเราเดินทางโดยรถบัส เริ่มเดินทางจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปตามถนนเพชรเกษม หาดใหญ่ - รัตภูมิ ถึงกิโลเมตรที่ 13 แยกซ้ายเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง 13 กิโลเมตร รถบัสยังคงวิ่งไปเรื่อย ๆ ภาพที่ปรากฏข้างหน้าคือภาพภูเขาสูงใหญ่ ทุ่งนาสองข้างทางค่อย ๆ หายไป สวนยางเริ่มเข้ามาแทนที่ อีกสักพักรถก็วิ่งผ่านที่ราบช่องเขาเลียบลำห้วย สองข้างทางกลับกลายเป็นป่าไม้เล็ก ๆ ดูร่มรื่นดี และในที่สุดรถก็ผ่านป้อมยามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง พวกเราตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะนั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเราใกล้ถึงที่หมายแล้วล่ะ จากนั้นรถก็วิ่งตรงต่อไปอีก 400 เมตร จนสุดถนนก็เข้าที่จอดรถ รวมระยะทางจากหาดใหญ่ถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างเป็นระยะทางกว่า 26 กิโลเมตร เมื่อล้อรถหยุดหมุนและจอดนิ่งอยู่กับที่บริเวณลานจอดรถ เราทุกคนก็ไม่รอช้า รีบสะพายกล้องถ่ายรูปพร้อมของจำเป็นลงจากรถเพื่อเดินไปชมธรรมชาติอันแสนสวยงามที่รออยู่ตรงหน้า มองดูรอบ ๆ ก็พบว่าตัวเราอยู่กลางวงล้อมในอ้อมแขนของภูเขาแล้วหรือนี่ มองขึ้นไป ยอดเขาพรรณไม้สารพัดถูกจัดอย่างเป็นระเบียบระบบ ติดตั้งอัดแน่นเต็มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่หน้าผาชัน จากนั้นพวกเราก็เดินมุ่งหน้าไปที่สะพานคอนกรีต มองไปที่ท้องห้วยก็เห็นหินดำสนิทเป็นพื้นที่ให้สายน้ำสีใสไหลผ่านกระแทกเป็นฟองขาว น้ำตกจุดนี้มีชื่อว่า “โตนบ้า” คงจะเป็นเพราะสายน้ำที่วิ่งตกจากขอบผานั้นต้องวิ่งผ่านช่องหินแยกแตกด้วยความแรง ความเร็ว อาการเร่งแรงสุดขีดนี้คงเป็นที่มาของชื่อน้ำตก แต่น้ำตกนี้สวยงามผิดกับชื่อ คนที่เดินเข้ามาจากชั้นล่างจะเห็นน้ำตกอยู่มุมขวา ป่าดงดิบชื้นอยู่มุมซ้าย ถ่ายภาพออกมาสวยงามมาก เราพากันเดินขึ้นไปตามผนังลำห้วย เพื่อจะขึ้นสู่ทางเดินด้านบนที่มีกลุ่มไม้ยางสูงใหญ่ แสงแดดรำไรส่องลงพื้น ฝูงลิงกระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนาน เสียงนกร้องเพลงเรียกคู่ ไพเราะยิ่งนัก เดินดูฝูงลิงและฟังเสียงร้องเพลงของนกไปจนเห็นแผ่นป้ายบอกชื่อและระยะทางของน้ำตกทั้ง 7 ชั้น โดยเรียงลำดับจากชั้นแรกไปจนถึงชั้นสุดท้าย คือ ชั้นแรก โตนบ้า ชั้นที่ 2 โตนปลิว ชั้นที่ 3 โตนงาช้าง ชั้นที่ 4 โตนดำ ชั้นที่ 5 โตนน้ำปล่อย ชั้นที่ 6 โตนฤๅษีคอยบ่อ และชั้นที่ 7 โตนเหม็ดชุน โอ้โห...สบายมากเลย พวกเราเริ่มเห็นความสำเร็จของการท่องชมน้ำตกที่สวยงามแห่งนี้ จุดหมายเบื้องหน้าของเรา คือ “โตนปลิว” เดินไปไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังลั่นมาเลย มองแต่ไกลเห็นสายน้ำเริงระบำรำเต้นบนลาดผาชัน แต่เอียงเป็นขั้นบันไดขนาดยักษ์สองขั้น ยังมีแรงพลังกระแทกมากพอที่จะสามารถขุดหินดินดานเบื้องล่างให้เป็นแอ่งน้ำกว้างใหญ่ คนที่มาถึงตรงนี้แล้วมักจะอดใจไม่อยู่ ลงไปเต้นเล่นน้ำกันเป็นแถว ส่วนดิฉันขอแชะสักรูปสองรูปละกันนะ จะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำที่สวยงาม เสียดายจัง...เวลาสนุกใกล้จะหมดแล้ว เมื่อมองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาสี่โมงกว่า ๆ เวลาช่างผ่านไปเร็วนัก ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว พวกเราต่างก็เดินเรียงแถวลงจากน้ำตกโตนปลิวเพื่อไปขึ้นรถกลับ แต่ระหว่างทางเหลือบไปเห็นอาหารสีสันสะดุดตาพร้อมกลิ่นยั่วน้ำลาย จึงตัดสินใจรีบวิ่งเข้าไปเลือกชิมและซื้ออาหารติดไม้ติดมือมารับประทานบนรถอย่างเอร็ดอร่อย ถือได้ว่าการมาโตนงาช้างในครั้งนี้ได้จบลงด้วยความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะมาตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ ดิฉันขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะสามารถเดินทางมาได้ทุกวัน และเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8:00 น. - 17:00 น. แถมยังไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าชมอีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่าคุ้มเกินคุ้มเลยล่ะ ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน