สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านนะคะ วันนี้คุณมาพร้อมกับแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรแหล่งใหม่ที่อยู่คู่กับชุมชนชาวปาดังเบซาร์ นั่นก็คือ สวนลุงใหญ่ คนวังเปลว นั่นเองค่ะ ที่นี่นะคะยินดีต้อนรับและให้ความรู้แก่ผู้มาเยือนอย่างเต็มที่เลยค่ะ เราลองไปดูกันเลยค่ะว่าจะน่ารักขนาดไหน สวนลุงใหญ่เป็นเกษตรแบบผสมผสานค่ะ คือปลูกหลาย ๆ อย่างรวมด้วยกันในสวนเดียว ที่นี่เน้นเกษตรอินทรีย์ คือใช้ปุ๋ยธรรมชาติ และผลิตเองจากธรรมชาติ เน้นผลผลิตที่มีคุณภาพดี นี่คือ ลุงใหญ่ ค่ะ ลุงใหญ่เล่าว่าเมื่อก่อนไม่ขยันทำงาน ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ภายหลังพลิกผันตัวเองมาเป็ยเกษตรกรที่ให้ความรู้แก่ชุมชน และเน้นผลิตผลไม้ และพืชผักที่มีคุณภาพ ลุงใหญ่ขายตะไคร้ต้นละ 1 บาท ขายมังคุดกิโลละ 60 บาท ขายลองกองกิโลละ 80 บาท และอื่น ๆ อีกมากมายตามฤดูกาล ซึ่งวิธีในการขายจะไม่ให้ลูกค้าเลือกเอง เพราะจะทำให้ช้ำได้ แต่ลูกค้าจะได้ผลไม้สด ๆ อร่อย ๆ จากมือลุงใหญ่อย่างแน่นอน พวกเราเรียนรู้การทำขนมโคจากลุงใหญ่ ซึ่งวิธีการทำคือผสมแป้ง ใช้น้ำตาลมะพร้าวชิ้นเล็ก ๆ เป็นไส้ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ต้มลงในน้ำเดือด รอให้ขนมลอยขึ้นมา จะถือว่าสุก แล้วเอาไปคลุกกับมะพร้าวอ่อน ก็เป็นอันได้ขนมโคแสนอร่อยแล้วค่ะ อุปกรณ์การทำขนมของพวกเราค่าาาา หลังจากรับประทานขนมโคฝีมือตัวเองแล้ว ก็ล้างไม้ล้างมือไปเรียนรู้วิธีการทำปุ๋ยกันต่อค่ะ วิธีการทำปุ๋ยที่ลุงใหญ่เรียกว่า สูตรคนขี้เกียจ ก็ง่ายมากเลยค่ะ แค่ผสมหัวเชื้อจุลินทรีย์กับน้ำ แล้วเอามารดบนเศษต้นไม้ใบหญ้า แล้วใส่มูลวัว มูลแพะ หรือมูลไก่ แล้วให้รดน้ำจุลินทรีย์ซ้ำอีกที ปิดท้ายด้วยเอาใบมะพร้าวแห้งมาปิดทับไว้ รอสามเดือนก็นำไปใช้แล้วค่ะ ง่ายมากเลยใช่ไหมคะ วันที่พวกเราไป ใช้ปุ๋ยแพะนะคะ หลังจากนั้นพวกเราก็ขับรถพ่วงชมสวนของลุงใหญ่ค่ะ ซึ่งมีพืชผักผลไม้เยอะมากกกก ลุงใหญ่ตัดมะพร้าวให้มาทานกันสด ๆ ด้วยนะคะ หวานมาก ๆ ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เป็นไงบ้างคะ ธรรมชาติสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมคะ หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชม ที่สวนลุงใหญ่ได้นะคะ หรือติดต่อเข้าไปที่เฟซบุ๊ก สวนลุงใหญ่ คนหวังเปลว ได้เลยค่ะ รับรองว่าลุงใหญ่ใจดี และให้ความรู้ไปเต็ม ๆ เลยค่ะ ไว้คราวหน้าเรามาเจอกันอีกนะคะ -///-ป.ล. ภาพทั้งหมดเพื่อนของคุณเป็นคนถ่ายนะคะ วันนั้นคุณแทบจะไม่ได้จับโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บถาพเลย และคนที่นั่งอยู่บนมะพร้าวคือคุณเองค่าาาขอบคุณภาพถ่ายโดย เพื่อนของผู้เขียน ค่ะ