พ.ร.บ.การศึกษา 2542 เน้นการจัดกระบวนการเรียนการสอนให้เป็นแบบ Child Center ซึ่งจะมีรายละเอียดอยู่ใน “มาตราที่ 22 การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ” ส่งผลให้ระบบการศึกษาของไทยเราปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนมากขึ้น แผนการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนจะต้องเน้น Child Center เพื่อให้สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ของโรงเรียนและ พ.ร.บ.การศึกษา 2542กระบวนการเรียนการสอนแบบ Child Center จึงได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย มีการจัดประชุมผู้ปกครองเพื่ออธิบายให้เข้าใจในระบบการเรียนการสอนแบบ Child Center และเน้นการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มากขึ้น เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเอง รู้จักปราชญ์ชาวบ้านมากขึ้นผู้ปกครองหลาย ๆ ท่านได้ให้ความสำคัญในการกระบวนการเรียนการสอนแบบ Child Center จึงได้ให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนในการช่วยเสริมกิจกรรมให้กับลูกในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือ ปิดเทอม อย่างเช่นครอบครัวของน้องเกรซ เด็กนักเรียนวัย ป.5 ที่ได้มีโอกาสไปเรียนงานปั้นกับ อาจารย์ผดุงเกียรติ รัตนศรี ซึ่งถือว่าเป็นยอดนักปั้นแห่งจังหวัดสงขลาท่านอาจารย์ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็น ศิลปินดีเด่นจังหวัดสงขลา ประจำปี 2559 สาขาช่างฝีมือ โดยได้รับคัดเลือกจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา อาจารย์ผดุงเกียรติ รัตนศรี ใช้ชื่อโรงงานว่า พอตเตอร์ เฮ้าส์ ซึ่งหมายถึง บ้านของนักปั้น ซึ่งตั้งอยู่ บ้านเลขที่ 71 ซ.เครืองาม (ชุมชนควนสันติ) ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลางานเครื่องปั้นดินเผา ของอาจารย์ผดุง จะเป็นงานที่ส่งออกทั่วโลกมา กลุ่มลูกค้ามีทั้งรีสอร์ต โรงแรม ร้านอาหาร โดยรูปแบบจะมีทั้งแบบดินเผาแดงด้าน เผาเคลือบ ประติมากรรมของตกแต่ง จานชามภาชนะเครื่องใช้ และถ้วยกาแฟหลากสีสัน เนื่องจากคุณเอฟ คุณพ่อของน้องเกรซ รู้จักกับอาจารย์ผดุงมาตั้งแต่สมัยปี พ.ศ. 2547 จึงค่อนข้างมีความสนิมสนมกันและเล็งเห็นถึงความสำคัญของงานปั้นดินเผาเซรามิกของอาจารย์ผดุง และมีอยากจะให้น้องเกรซได้ฝึกสมาธิ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากห้องเรียน ได้เรียนรู้วิธีปั้น และขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผา อีกทั้งเป็นการปลูกฝังให้เกิดแนวคิดในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพราะปัจจุบันการปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมกำลังจะหายไปจากสังคมไทย และในปัจจุบันส่วนใหญ่งานปั้นดินเผาก็จะนำเข้ามาจากจีนเป็นส่วนใหญ่ก่อนเรียนปั้น จะมีในส่วนของการกล่าวคำไหว้ครู ขอบารมีครูอาจารย์ให้การเรียนประสบความสำเร็จ ซึ่งถือเป็นประเพณีที่พึงปฏิบัติในการเรียนศาสตร์ต่าง ๆ ของไทยการปั้นดิน...เริ่มต้นด้วยการเอามือจุ่มน้ำให้เปียกเพื่อใช้ในการประคอง ขึ้นรูป ซึ่งทางอาจารย์ผดุงได้เตรียมดินไว้ให้แล้วการขึ้นรูปจะทำโดยการหมุนแป้นไม้ให้เกิดแรงเหวี่ยง แล้วใช้มือรีดดินเพื่อขึ้นรูปเป็นภาชนะตามที่ต้องการ ในการขึ้นรูปนอกจากจะต้องใช้สมาธิแล้ว การนั่งและตำแหน่งการวางแขน ก็จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อการขึ้นรูป ด้วย หลังจากขึ้นรูปตามที่ต้องการแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการตกแต่งลวดลายตามขอบภาชนะตามใจชอบหากคุณผู้อ่านสนใจที่จะพาบุตรหลานไปเรียนปั้นกับยอดนักปั้นแห่งเมืองสงขลา สามารถติดต่อล่วงหน้าได้เลยค่ะ ที่หมายเลข 074-234768 ที่ พอตเตอร์ เฮ้าส์ มีการจัด Work Shop อบรมการปั้นให้กับนักเรียนนักศึกษา ทั่วประเทศด้วยค่ะ รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่สนใจที่จะเรียนรู้เพื่อต่อยอดในธุรกิจของตัวเอง งานปั้น เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้สึกและจินตนาการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก นอกจากเป็นการฝึกสมาธิแล้วยังได้รู้จักการฝึกทักษะกระบวนการคิดให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ในการสร้างงานให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง และที่สำคัญคือในเรื่องของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เราทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์ได้ค่ะเครดิตภาพ โดย https://web.facebook.com/khanaroj.ritrojjanakul