อื่นๆ

เรียนทางไกล ที่ไม่ใช่แค่นั่งอยู่หน้าจอ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรียนทางไกล ที่ไม่ใช่แค่นั่งอยู่หน้าจอ

ตอนนี้ผู้อ่านทุกคนคงกักตัวเองอยู่ภายในที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งเฝ้าติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิดถึงมาตรการการเปิดเมือง ซึ่งน่าจะมีการทยอยเปิดในบางเมืองตามความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม เราทุกคนคงจะไม่สามารถไว้วางใจทุกอย่างได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างที่เราทราบกันว่าในสถานการณ์นี้เราอย่า "การ์ดตก" เพราะไม่เช่นนั้นจำนวนคนติดเชื้ออาจจะตีกลับมาพุ่งสูงมากขึ้นอย่างกับสิงคโปร์ที่ตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ ดังนั้นเมื่อทุกอย่างอาจจะยังไม่ลงตัวหรือวางใจได้ สิ่งที่เราทำได้ก็คือการปฏิบัติตัวตามที่ภาครัฐแนะนำอย่างเคร่งครัด

1ในภาคการศึกษาเอง ตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จากการแพร่กระจายของไวรัส ทำให้สถานศึกษาทุกที่ต้องปิดชั่วคราว และหันไปใช้ระบบการศึกษาทางไกลแทน อาจารย์ที่ปรึกษาของผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องปรับตัวอย่างมากเช่นกันในการเปลี่ยนรูปแบบการสอนจากการสอนในห้องเรียน ต้องกลายมาเป็นการสอนทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต แต่การสอนทางไกลอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เช่นกัน มันไม่ใช่แค่การให้ผู้สอนและผู้เรียนมานั่งประชุมกันผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะมันได้สร้างความอึดอัดกับผู้สอนและผู้เรียนเช่นกัน

Advertisement

Advertisement

2จากที่อาจารย์ของผู้เขียนเล่ามา สิ่งที่อาจารย์ผมต้องพบเมื่อทำการสอนออนไลน์ก็คือความไม่พร้อมของช่วงเวลาที่ทำการสอน ลองจินตนาการว่าคุณต้องสอนในชั้นเรียนที่ปกติมีผู้เข้าเรียนกว่าร้อยชีวิต ถ้าในสถานการณ์ปกตินั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหากับการสอนนักเรียนจำนวนมากเช่นนี้ แต่พอทุกสิ่งมันถูกปรับเปลี่ยนลงมาสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้น เรื่องที่ปกติอาจจะเป็นเรื่องง่าย ๆ มันกลับกลายเป็นเรื่องยากเลยทันที สิ่งที่พบคือ

  • ไม่ใช่ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เท่าเทียมกัน

อย่างแรกคือ ความหน่วงและความเร็วของสัญญาณคือปัญหาที่เห็นชัดเมื่อชั่วโมงเรียนได้เริ่มขึ้น หนักสุดคือสัญญาณหลุดทำให้นักเรียนบางส่วนไม่สามารถตามเนื้อหาได้ทัน หากเปลี่ยนการสอนเป็นรูปแบบวิดีโอก็จะมีข้อกำจัดในเรื่องการโต้ตอบระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนที่ไม่สามารถเกิดได้อย่างทันท่วงที และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาในการเรียนการสอนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถปรับตัวได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในกรณีผู้สอนที่อายุมากที่การปรับตัวมาสอนรูปแบบนี้เป็นสิ่งที่ยากลำบาก

Advertisement

Advertisement

3

  • ความมีสมาธิที่ลดน้อยลงของผู้เรียน

เกิดจากการถูกหันเหความสนใจไปยังสิ่งอื่น (Distraction) ที่นอกเหนือจากจากเรียน  ทำให้ประสิทธิภาพของการเรียนที่ลดน้อยลง จนกลายเป็นว่าผู้เรียนต้องใช้พลังงานที่มากกว่าปกติเพื่อเอาใจจดจ่อกับสิ่งที่เรียน และมันกลายเป็นความเหนื่อยล้าสะสมในแต่ละวันหลังจบแต่ละวิชา

4

  • ปัญหาการวิธีประเมินความรู้หลังจากการเรียน

การส่งงานและการสอบนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างนั้นจำเป็นต้องทำในรูปแบบออนไลน์ แม้การส่งงานและตรวจงานเป็นสิ่งที่ว่าแล้ว แต่ก็ไม่เท่ากับการจัดสอบที่ควบคุมได้ยากยิ่งกว่า อาจารย์ผู้สอนหรือทางสถานศึกษาเลยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดสอบเป็นรูปแบบการสอบปลายเปิด ซึ่งก็ยากที่จะป้องกันการลอกข้อสอบระหว่างการสอบ ทำให้การประเมินหลังจากการสอบอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปได้ยาก

Advertisement

Advertisement

5ท้ายสุดนี้ผู้เขียนเองอยากจะบอกว่า การปรับเปลี่ยนมาเป็นการเรียนการสอนออนไลน์ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่แค่มีคอมพิวเตอร์กับกล้องก็จบ แต่มันต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นระบบ มีแนวทางอย่างชัดเจนในแง่ของประสิทธิภาพของการเรียนที่ต้องเท่าเทียมกับการสอนในห้องเรียนปกติ รวมทั้งการออกแบบระบบการสอบที่ต้องควบคุมให้ได้ จุดนี้เป็นจุดที่ผู้เกี่ยวข้องในระบบการศึกษาจำเป็นต้องเข้ามาดูแล โดยเฉพาะในอนาคตที่การเรียนการสอนทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตอาจจะกลายเป็นสิ่งปกติใหม่ (New normal) การปรับเปลี่ยนแบบพอไปที อาจจะไม่เพียงพอต่อการศึกษาของไทยในระยะยาว


ภาพปก/ ภาพประกอบ 1/ ภาพประกอบ 2/ ภาพประกอบ 3/ ภาพประกอบ 4/ ภาพประกอบ 5

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์