เมื่อเอ่ยถึง Google หรือ Apple ผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงคุ้นเคยกับสองชื่อนี้เป็นอย่างดี บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก บริษัทผู้เป็นผู้นำของนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกนี้ ผลิตสินค้าออกสู่ท้องตลาดมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือสิ่งที่เรียกได้ว่าจำเป็นต่อชีวิตของมนุษย์ยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือโทรศัพท์มือถือ ทั้งสองค่ายต่างพัฒนาระบบของตนเองขึ้นมา และเราในฐานะผู้บริโภคคงไม่สามารถหลีกหนีการใช้งานทั้งระบบ android และ iOS ไปได้ (หรือยังมีใครใช้ Windows phone อยู่) ทั้งสองเจ้าต่างแข่งขันมาอย่างคู่คี่สูสีกัน เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน แหล่งที่มา: unsplash อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกันก็ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ควรทำในเมื่อมีศัตรูคุกคามเข้ามา การวางดาบและจับมือร่วมแรงร่วมใจต่อกรกับภัยของมนุษยชาติจึงเป็นสิ่งจำเป็น นำมามาสู่ความร่วมมือในการพัฒนาระบบการติดตาม Coronavirus โดยอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันข้อมูลผ่านทาง Bluetooth Low Energy (BLE) ได้ และแอปพลิเคชันจากองค์กรสาธารณสุขที่ผ่านการรับรอง แหล่งที่มา: pixabay ทีนี้เรามาดูสิว่า ระบบนี้มันทำงานอย่างไร เริ่มจากระบบนี้จะใช้การสื่อสารช่วงคลื่นสั้นๆของ Bluetooth เพื่อสร้าง ระบบโครงข่ายติดตามการติดต่อ โดยเก็บข้อมูลจากโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้กันและมีการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งทางภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ และผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้หากภายหลังถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อ Covid-19 ระบบจะทำการแจ้งเตือนประชาชนที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้ว่ามีความเสี่ยงจากการใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ แหล่งที่มา: Google/Apple เบื้องต้นทั้งสองบริษัทจะพัฒนาความสามารถนี้และเปิดให้ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดลงเครื่องในกลางเดือนพฤษภาคม และเมื่อพัฒนาเสร็จสิ้น ระบบนี้จะถูกส่งลงไปยังแกนของระบบปฏิบัติการทั้ง android และ iOS เพื่อให้ผู้ใช้งานใช้ได้ทุกคน การติดตามการติดต่อสัมผัส จะทำในลักษณะติดตามว่าใครที่ถูกผู้ติดเชื้อสัมผัส ซึ่งระบบจะพยายามป้องกันคนเหล่านั้นไม่ให้แพร่เชื้อให้คนอื่นต่อ อย่างไรก็ตามมันก็อาจนำมาสู่การตั้งคำถามถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ยังไงก็ตามระบบที่พัฒนาก็มีความต่างจากระบบ tracking เดิมอย่างเช่นการใช้ข้อมูล GPS ซึ่งระบบใหม่ที่กูเกิลและแอปเปิลพัฒนาจะไม่เก็บข้อมูลที่อยู่ของผู้ใช้ แต่จะเป็นการเก็บข้อมูลของสัญญาณโทรศัพท์ของเครื่องใกล้เคียง ซึ่งหากใครถูกตรวจพบว่าติดเชื้อระบบจะทำการแจ้งให้เจ้าของโทรศัพท์ซึ่งเดินทางผ่านบุคคลนั้นถึงความเสี่ยง ระบบยังมีการส่งข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนระหว่างที่โทรศัพท์มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล อย่างไรก็ตามระบบก็ยังมีจุดด้อยอยู่เช่นกัน อย่างเช่นในที่ที่มีคนแออัด การแบ่งปันข้อมูลระหว่างเครื่องไม่สามารถทำงานได้ดี เทคโนโลยีนี้อาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเทียบกับการตรวจติดตามในแบบเดิมที่จะมีการสัมภาษณ์ผู้ติดเชื้อเกี่ยวกับสถานที่ที่อยู่หรือใครที่ใช้เวลาร่วมกัน แต่อย่างน้อยพวกเราคงจะอุ่นใจได้ระดับหนึ่งเมื่อมีเครื่องมือที่จะช่วยติดตามซึ่งคนส่วนใหญ่มีอย่างโทรศัพท์มือถือ ภาพหน้าปก: ภาพโดย ElisaRiva จาก Pixabay https://tinyurl.com/yb47ydru