Golf กีฬาที่ห่างไกลกันมากในความรู้สึกของผู้เขียน ขอสารภาพเลยค่ะว่าผู้เขียนไม่คิดที่จะสนใจด้วยซ้ำ แต่ในวันนี้ความคิดเหล่านั้นได้หายไป เมื่อลูกศิษย์ตัวน้อยของผู้เขียน ซึ่งเป็นนักเรียน Home School ได้กลายมาเป็นนักกอล์ฟรุ่นจิ๋ว จนกระทั่งได้มีโอกาสไปถ่ายภาพลูกศิษย์ซ้อมออกรอบ เหตุผลเพราะผู้เขียนชอบถ่ายภาพอยู่แล้ว จึงอยากจะถ่ายภาพเด็กน้อยลูกศิษย์ของตัวเองเก็บไว้ในอัลบั้มบ้าง ทุกอย่างจะมาเมื่อถึงเวลา ใครจะไปคิดว่าภาพที่ถ่ายไว้ในวันนั้น จะได้นำมาใช้ประกอบในการเขียนบทความของตัวเอง เมื่อถึงหัวข้อ “กีฬา” ไปไม่ถูกเลยค่ะ เพราะโดยส่วนตัวผู้เขียนไม่ใช่คนที่ชอบเล่นกีฬาเลย หัวข้อ “กีฬา” ผู้เขียนจึงปล่อยให้ผ่านไปหลายๆครั้ง จนกระทั่งวันนี้ บังเอิญนั่งดูภาพลูกศิษย์ตัวน้อยที่ตัวเองได้ถ่ายไว้ ไอเดียเกิดขึ้นทันทีเลยค่ะ จากที่สมองมึนงง คิดไม่ออกในส่วนของ "กีฬา" วันนี้ผู้เขียนจึงอยากจะแนะให้ทุกท่านได้รู้จักนักกอล์ฟรุ่นจิ๋ววัยเพียง 5 ขวบกว่า ๆ เด็กน้อย Home School หรือน้องเวณิชย์ ซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้องของคุณพ่อเอและคุณแม่เดียร์ ผู้เขียนได้โทรศัพท์หาผู้ปกครองของน้องเวณิชย์ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรียนกอล์ฟของน้อง ผู้เขียนขออนุญาตหยิบยกบทสัมภาษณ์คุณพ่อของน้องมาแบ่งปันนะคะ เหตุที่ผลให้น้องเวณิชย์เรียนกอล์ฟ เนื่องจากทางครอบครัวให้น้องเวณิชย์เรียน Home School ทำให้น้องมีเวลาว่างค่อนข้างเยอะจึงให้น้องไปเรียนกีฬาหลาย ๆ อย่าง เช่น ว่ายน้ำ เทนนิส และกอล์ฟ จนกระทั่งน้องเวณิชย์ค้นพบตัวเองว่าชอบที่จะเล่นกอล์ฟ ซึ่งก็ตรงกับในความคิดของคุณพ่อที่มีมุมมองว่า กีฬากอล์ฟ สามารถทำเป็นอาชีพได้ ทางครอบครัวจึงให้การสนับสนุนในการที่จะให้น้องเรียนกอล์ฟ ซึ่งได้เริ่มเรียนอย่างจริงจังเมื่อตอนประมาณ 4 ขวบ 10 เดือน ประโยชน์จากการเล่นกอล์ฟที่ส่งเสริมต่อการพัฒนาศักยภาพของน้องเวณิชย์ คุณพ่อบอกว่าประโยชน์จากการเล่นกอล์ฟที่มีส่งผลในการพัฒนาน้องเวณิชย์ที่เห็นได้ชัด คือ 1. เรื่องของความเป็นระเบียบวินัยที่ชัดเจน 2. เรื่องความแข็งแรงทางด้านร่างกาย มีสุขภาพที่ดีขึ้น 3. เรื่องของสมาธิ น้องมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น 4. มีความพยายามมีความตั้งใจในการที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการเรียนด้วย ความคาดหวังของผู้ปกครองเกี่ยวกับการเป็นนักกอล์ฟของน้องเวณิชย์ คุณพ่อเอให้ข้อมูลว่า ตั้งเป้าไว้ว่าน้องเวณิชย์น่าจะไปถึงระดับแชมป์เยาวชนของประเทศไทยได้โดยไม่ยาก เพราะปัจจุบันในรุ่นของน้องจัดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ และได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปีหน้า คือปี พ.ศ. 2564 ให้เป็นแชมป์เยาวชนในรุ่นของน้อง ส่วนตัวน้องจะได้หรือไมได้ ทางบ้านไม่ได้คาดหวังมากว่าจะต้องได้ตามที่ตั้งไว้ ให้เป็นไปตามธรรมชาติและความสามารถของน้องเอง ซึ่งในตอนนี้คุณพ่อมองว่า น้องมีความพร้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาตัวเองค่อนข้างมาก เพราะ 1. ด้วยสภาพร่างกายและสรีระของน้องที่ค่อนข้างเหมาะสมกับการเล่นกอลฟ์ 2. ความสะดวกในการซ้อม เนื่องจากสนามกอล์ฟอยู่หลังบ้านและครูที่มาสอน เป็นครูที่มีความเชียวชาญและมีประสบการณ์ในกีฬากอล์ฟ 3. ค่าใช้จ่ายในการเรียนกอล์ฟไม่ได้สูงมาก ซึ่งทางโปรคิดค่าเรียนเพียงเดือนละ 3,000 บาท 4. ทางผู้ปกครองให้การสนับสนุนในการช่วยพัฒนาและปรับปรุงสนามกอลฟ์ ซึ่งเดิมเป็นสนามไดร์ฟอย่างเดียวไม่สามารถออกรอบได้ กิจวัตรประจำวันของน้องเวณิชย์ คุณพ่อเอ และคุณแม่เดียร์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกวัตรประจำวันของน้องเวณิชย์ มาว่า น้องจะตื่นนอนประมาณ 8.30 น. แล้วไปเรียนกอล์ฟ 9.00-12.00 น. ทุกวันอังคารและวันพฤหัส เวลา 12.30-16.00 น. ก็จะไปเรียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เรียนกับผู้เขียน) ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ช่วงบ่ายๆ ก็จะเรียน จินตคณิต และช่วงเย็นจะเรียนกอล์ฟต่อประมาณ ทุ่มกว่าๆ ถึง 2 ทุ่ม แต่ช่วงนี้หยุดเรียนกอล์ฟช่วงเย็น เปลี่ยนเป็นไปวิ่งรอบสนามแทน 5-6 รอบ และมี Sis-up Skot Jump และปั่นจักรยานกลางอากาศ เพื่อฝึกกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง คุณแม่เดียร์บอกว่าเวลาตีกอล์ฟฐานจะได้นิ่ง และน้องจะเข้านอนประมาณ 3 ทุ่ม คุณพ่อเอให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เขียนมาว่า ตอนนี้ให้น้องเวณิชย์งดเล่นโทรศัพท์ เพราะคุณพ่อพบว่าการเล่นโทรศัพท์มีผลต่อการเรียนกอล์ฟ สมาธิสั้นลง น้องเวณิชย์งดเล่นมาประมาณครึ่งเดือนแล้ว พบว่าสมาธิดีขึ้นมาก จากที่ได้พูดคุยกับคุณพ่อเอและคุณแม่เดียร์ ผู้เขียนมีความประทับใจในแนวความคิดในการเลี้ยงลูกของครอบครัวนี้มาก เวลาน้องไปเรียนกอล์ฟ คุณพ่อเอและคุณแม่เดียร์จะไปด้วยทุกครั้ง ทำให้มองเห็นถึงความอบอุ่นของครอบครัวที่น่ารักอีกครอบครัวหนึ่ง และที่สำคัญน้องเวณิชย์เป็นเด็กที่น่ารักมาก มีสัมมาคารวะ รู้จักไหว้อย่างสวยงาม รู้จักรับฟังเหตุผล นี่แหละค่ะ คือสิ่งที่สังคมเราต้องการอย่างมากในทุกวันนี้ ในฐานะครู ผู้เขียนพบว่าเด็กๆหลายคนควรได้รับการปลูกฝังในเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้น คำว่า เด็กรุ่นใหม่ ที่ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ส่ายหัว หรือ ถอดใจ เวลาที่เจอ หรือถอนหายใจแรงๆ แล้ว พูดว่า...เฮ้อ ! เด็กสมัยนี้ ในวันข้างหน้าเราอาจจะได้เห็นนักกอล์ฟรุ่นจิ๋วคนนี้ ผ่านสื่อทีวีในนามของนักกอล์ฟเยาวชนทีมชาติไทย ที่ชื่อ “เวณิชย์” ก็ได้ใครจะไปรู้ใช่มั๊ยคะ ผู้เขียนขอขอบคุณครอบครัวน้องเวณิชย์มากนะคะในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในครั้งนี้ ในโอกาสหน้าคงจะได้มีโอกาส เขียนเรื่องของ เด็กน้อย Home School นำมาแบ่งปันให้ท่านผู้อ่านได้มองเห็นมุมมองอีกแบบในการเลี้ยงลูกในทิศทางของคำว่า Home School ขอบคุณ คุณแม่เดียร์มากค่ะ สำหรับภาพน่ารัก ๆ