การอ่านบทกวี เป็นความสุขอย่างหนึ่งของนักอ่านที่ชอบหนังสือบันเทิงคดีแนววรรณกรรมสร้างสรรค์บทประพันธ์ เพราะอำนาจภาษาของคำคล้องจองที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงความสละสลวยทางภาษาไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่า บทร้อยกรองนี้ คือ มรดกทางภาษาที่งดงามและมีความเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก หนึ่งในหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน จากการวิจัยของ สกว. ในรอบ 40 ปี ระบุว่า ขอบฟ้าขลิบทอง กวีนิพนธ์ของอุชเชนี เป็นหนึ่งในหนังสือดีที่ควรยกย่อง ขอบฟ้าขลิบทอง เป็นบทร้อยกรองที่อุชเชนี ซึ่งเป็นนามปากกาของท่านอาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา ได้เขียนไว้ในขณะทำงานเป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัย โดยในหนังสือบทกวีนั้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวชีวิตประจำวัน ที่อุชเชนี มองชีวิตและสังคม ผ่านสายตาของกวี แล้วเขียนบอกเล่าเป็นบทกวีนิพนธ์ โดยบทกวีที่ได้รับการยกย่องว่า แสดงถึงความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ระบุสิทธิของประชาชน คือ บทกวีมิ่งมิตร โดยขอยกบางส่วนของบทกวีนี้ มาบอกเล่า มิ่งมิตร เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่นที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืนที่จะชื่นใจหลายกับสายลมที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าวที่จะยิ้มกับดาวพราวผสมที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรมที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน ฯลฯ ในบทกวีมิ่งมิตรนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นบทกวีการเมืองรางวัลพานแว่นฟ้า รัฐสภา ต้นแบบ เพราะอุชเชนี ได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของเรื่องสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิตอยู่ในบทกวี ที่ทำให้ผู้อ่านได้ตระหนักในสิ่งนี้ ความสวยงามทางภาษาในบทกวีขอบฟ้าขลิบทองของอุชเชนี เป็นที่ยอมรับในแวดวงวรรณกรรม เพราะคำศัพท์และความหมายในบทกวีต่างให้ความสะเทือนอารมณ์ต่อผู้อ่าน โดยเฉพาะหนอนหนังสืออย่างผู้เขียน ซึ่งชอบอ่านบทกวีเป็นพิเศษ ก็จะพกพาหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งคราวเพื่อหยิบจับขึ้นมาอ่าน เมื่ออ่านไป ก็จินตนาการตามไป ก็เพลิดเพลินได้สุนทรีย์การอ่านบทกวีนอกจากได้ความคิด จินตนาการแล้ว ทำให้ผู้อ่านเกิดการตีความ เพื่อถอดรหัสความคิดในบทกวีที่ผู้แต่งได้ขีดเขียนเอาไว้ ทั้งยังทำให้เกิดการสะสมคลังศัพท์ ซึ่งมีความสำคัญต่อภาษาเขียนและภาษาพูดของผู้ที่จะต้องใช้ภาษาในการทำงานประจำอย่างผู้เขียน ที่มีอาชีพเป็นผู้สอน ประโยชน์ของการอ่านบทกวีเล่มนี้ สามารถนำไปใช้เป็นเนื้อหาในบทเรียนให้นักศึกษาได้อ่านวิเคราะห์ และฝึกแต่งบทร้อยกรอง ในวิชาวรรณกรรมได้ หากจะถามความประทับใจของผู้เขียนต่อหนังสือเล่มนี้ บอกได้เลยว่า เป็นหนึ่งในหนังสือบทกวี ที่ใช้เป็นแนวทางในการฝึกหัดแต่งบทกวีตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งกลายเป็นผู้สอนในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้สะสมผลงานบทกวีเป็นรูปเล่มของตนเองอีก 1 เล่มด้วย เพราะแรงบันดาลใจจากการได้อ่านหนังสือดี ๆ จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเขียนบทกวีด้วย เพราะที่สุดแล้วของการอ่าน คือ ความสุนทรีย์ที่เกิดเป็นอารมณ์ความสุขและสมาธิจากการอ่าน ยิ่งได้อ่านหนังสือบทกวีด้วยแล้ว จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในอรรถรสทางภาษาที่แตกต่างจากการอ่านงานเขียนบทร้อยแก้วทั่วไป แม้จะมีกลุ่มนักอ่านหนังสือบทกวีไม่มากนัก แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่า บทกวี ยังคงมีเสน่ห์และยังคงเป็นเอกลักษณ์ทางภาษาที่แสดงตัวตนของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี กวีนิพนธ์ ขอบฟ้าขลิบทอง ของอุชเชนี จึงเป็นหนังสือบทกวีที่ผู้เขียนแนะนำให้ผู้อ่านที่รักการสะสมคลังศัพท์ ชอบการคิด การตีความและจินตนาการ ได้ทดลองอ่านเล่มนี้ ซึ่งเชื่อว่า ท่านจะหลงรัก อุชเชนี ผู้หญิงที่เขียนบทกวีด้วยภาษาทีเปรียบดังดอกไม้ให้ชื่นชม เครดิตเรื่องและทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียน เครดิตภาพพื้นปกบทความ โดยผู้เขียนช่องทางสั่งซื้อหนังสือ chulabook.com / se-ed.com