ใครที่เคยชมศึกฟุตบอลยูโร 88 คงจะจดจำได้ถึงความมหัศจรรย์ของกองทัพอัศวินสีส้ม ฟลายอิ้งดัตช์แมน ภายใต้การคุมทีมของท่านนายพลลูกหนัง ไรนุส มิเชลส์ ที่นำทีมชาติฮอลแลนด์คว้าแชมป์ยูโร 1988 และได้รับการยกย่องว่าเป็นทีมยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลทีมหนึ่งในโลกลูกหนังกันเลยทีเดียว โดยผู้เล่นทีมชาติฮอลแลนด์ชุดนั้นประกอบด้วยผู้เล่นคนสำคัญอย่างเช่น 3 ทหารเสือ รุด กุลลิท,แฟรงค์ ไรจ์การ์ดและแวน บาสเท่น นอกจากนี้ยังมีกองหลังสุดแกร่งจอมสังหารลูกนิ่ง อย่าง โรนัลด์ คูมันน์ ซึ่งปัจจุบันได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติฮอลแลนด์ชุดใหญ่ หลังจากที่ทีมชาติฮอลแลนด์คว้าแชมป์ยูโร 1988เป็นต้นมา พวกเขาก็ไม่สมหวังได้แชมป์ฟุตบอลในรายการใหญ่อีกเลย อย่างดีที่สุดก็เป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยพ่ายต่อทีม"กระทิงดุ" ทีมชาติสเปนไปแบบหวุดหวิด 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ทีมอัศวินสีส้ม ฟลายอิ้งดัตช์แมน พลาดหวังจากการเป็นแชมป์โลกทั้ง 3 ครั้งคือฟุตบอลโลก ปี 1974,1978 และ 2010 เรียกว่าเป็นได้แค่ "พระรอง" ครองรองแชมป์เท่านั้น แม้ว่าจะโชว์ฟอร์มเล่นเป็น "พระเอก" มาตลอดทุกรอบแต่ก็มาตกม้าตายพ่ายนัดชิงทุกครั้งไป ทีมชาติฮอลแลนด์คว้าแชมป์ยูโร 1988 วงการฟุตบอลของประเทศฮอลแลนด์ หรือ เนเธอร์แลนด์ ชื่อประเทศอย่างเป็นทางการในช่วงหลังถือว่าอยู่ในช่วงขาลงอย่างมาก นับแต่พวกเขาได้อันดับที่ 3 ในฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ทีมชาติฮอลแลนด์ก็ตกต่ำถึงขนาดตกรอบคัดเลือกไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลรายการใหญ่ทั้งฟุตบอลยูโร 2016 และฟุตบอลโลกปี 2018 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการฟุตบอลของชาติด้วยการสร้างทีมชาติขึ้นใหม่และโละนักเตะทีมชาติรุ่นเก่า ๆ ออกจากทีมไป รวมทั้งแต่งตั้ง โรนัลด์ คูมันน์ อดีตผู้เล่นชุดแชมป์ยูโร 1988 เข้ามาคุมทีมต่อจาก แดนนี่ บลินด์ ที่อำลาตำแหน่งไปหลังไม่สามารถพาทีมผ่านไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียได้สำเร็จ โรนัลด์ คูมันน์ จึงเข้ามาช่วยกู้ชาติและเป็นผู้แบกความคาดหวังของชาวดัตช์ทั้งประเทศที่อยากจะเห็นทีมชาติฮอลแลนด์สมหวังคว้าแชมป์ยูโร 2020 ครั้งนี้ให้ได้ การเข้ามาของโรนัลด์ คูมันน์ ทำให้ทีมอัศวินสีส้มมีความเปลี่ยนแปลงมากมายโดยเฉพาะการเห็นดาวรุ่งหน้าใหม่ขึ้นมาแจ้งเกิดหลายรายรวมถึงสไตล์การเล่นที่สวยงามตามแบบฉบับของ "อัศวินสีส้ม" ทำให้พวกเขาได้กลับมาแข่งขันในฟุตบอลยูโร 2020 อีกครั้งหลังจากตกรอบคัดเลือกไปในปี 2016 และในปี 2019 ทีมอัศวินสีส้มยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลยูฟ่าเนชันส์ลีก 2019 ด้วยการเอาชนะได้ทั้งทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อย่างทีมตราไก้่ ฝรั่งเศส,ทีมอินทรีเหล็ก เยอรมนี และทีมสิงโตคำราม อังกฤษ แม้ว่าสุดท้ายจะได้แค่รองแชมป์(อีกแล้ว) โดยพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศต่อทีมแชมป์ยูโร 2016 และเจ้าภาพอย่างทีมโปรตุเกสไป 0-1 ถึงแม้ว่า ศึกฟุตบอลยูฟ่าเนชันส์ลีก 2019 จะเป็นเกมอุ่นเครื่องก็ตาม แต่เราได้เห็นว่าทีม อัศวินสีส้ม ฟลายอิ้งดัตช์แมน พร้อมจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งในฟุตบอลยุโรป โรนัลด์ คูมันน์ กุนซือทีมชาติฮอลแลนด์ ผู้แบกความคาดหวังของคนทั้งชาติที่อยากจะสมหวังคว้าแชมป์ยูโร 2020 ครั้งนี้ให้ได้ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 11 มิถุนายน ถึง 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 เหตุที่มีการเลื่อนแข่งขันปี 2020 เนื่องจากเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทีมชาติฮอลแลนด์ อยู่ในกลุ่มซี มีทีมร่วมกลุ่มคือทีมชาติยูเครน,ออสเตรีย และอีก 1 ทีมที่ชนะการเตะพลย์ออฟ สาย ดี ได้แก่ทีมชาติจอร์เจีย, เบลารุส, มาซิโดเนีย,และโคโซโว โดยทีมอัศวินสีส้มจะมีความได้เปรียบเพราะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพในกลุ่มนี้จะได้เล่นที่สนามอัมสเตอร์ดัม อารีน่าของตนเองทุกนัดที่ลงสนามในรอบแบ่งกลุ่ม บทความครั้งนี้ ขอนำมาส่องดูขุมกำลังของทีมอัศวินสีส้ม ฟลายอิ้งดัตช์แมน ภายใต้การคุมทีมของ โรนัลด์ คูมันน์ ดูกันว่าพอจะพาทีมชาติฮอลแลนด์พบกับความสมหวังคว้าแชมป์ยูโร 2020 ได้หรือไม่ เรามาติดตามกัน เริ่มจากตำแน่งนายทวารมือ 1 ของทีมชาติฮอลแลนด์ในยุคของโรนัลด์ คูมันน์ กุนซือทีมชาติฮอลแลนด์ ยังคงเป็น ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ประตูจอมเซฟจากทีมบาเลนเซีย ในลาลีกาลีกของสเปน ว่ากันว่าเขาจะเป็นนายประตูที่เข้ามาสืบสานตำนานต่อจาก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายประตูทีมชาติผู้ยิ่งใหญ่ที่อำลาทีมไป แต่เมื่อเขาย้ายไปเล่นในกับทีมบาร์เซโลน่า ทีมยํกษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกาลีกของสเปน เขาได้แต่นั่งเป็นตัวสำรองของ มาร์ค อังเดร แทร์ สเตเก้น นายประตูทีมชาติเยอรมนีจนแทบจะหมดอนาคตไป เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่กับทีมบาเลนเซีย ทำให้เขาได้กลับมาแจ้งเกิดใหม่อีกครั้ง ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ประตูจอมเซฟมือ 1 ของทีมชาติฮอลแลนด์ เชื่อว่า ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น น่าจะได้รับความไว้วางใจจาก โรนัลด์ คูมันน์ ให้เป็นประตูมือ 1 ของทีมชาติฮอลแลนด์ต่อไป แม้ว่าเขาจะมีประตูมือดีอีกคนในทีมชาติที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญคือ ทิม ครูล นายประตูจอมเซฟจุดโทษจากทีมนอริช ซิตี้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่เมื่อเทียบฟอร์มโดยรวมแล้ว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น มีความคงเส้นคงวาในการเล่นทีมชาติมากกว่าทิม ครูล นอกนั้นน่าจะเป็นนายประตูตัวสำรองเพื่อเสริมทีม อย่างเช่น เจอโรน โซเอต์ และมาร์โก บิโซต์ เฟอร์กิล ฟานไดจ์ค์ กัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน แผงกองหลังถือได้ว่าทีมอัศวินสีส้ม ฟลายอิ้งดัตช์แมน มีคู่กองหลังตัวกลางที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่าง เฟอร์กิล ฟานไดจ์ค์ กองหลังตัวแกร่งจากทีมลิเวอร์พูล ได้ชื่อว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบันและ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กองหลังจากทีมยูเวนตุส เขาเป็นกองหลังดาวรุ่งที่มีความเพียบพร้อมในการเป็นกองหลังระดับโลก แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในสมัยที่เป็นกัปตันทีมอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้รับรางวัลโกลเด้นบอย ปี 2018 ของยูฟ่า ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมยูเวนตัสในอิตาลี ซึ่งทั้ง 2 คนนี้เป็นตัวหลักของทีมในแผงกองหลังอัศวินสีสัมแน่นอน ดังนั้นหายห่วงสำหรับแผงกองหลังทีมอัศวินสีส้ม แถมยังมีตัวกองหลังที่เป็นอะไหล่ชั้นดีในทีมชาติที่พร้อมเป็นตัวจริงไม่ว่าจะเป็น สเตฟาน เดอ ฟราย เซ็นเตอร์แบ็คจากทีมอินเตอร์ มิลานและนาธาน อาเก้ จากทีมบอร์นมัธ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กองหลังดาวรุ่งของทีมชาติฮอลแลนด์ สำหรับแบ็คขวาและซ้ายของทีมอัศวินสีส้มก็มียอดนักเตะอย่าง ดาลี่ย์ บลินด์ จากทีมอาแจ็กซ์ซึ่งเป็นเด็กเก่าทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ที่เล่นได้ทั้งแบ็คและเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ยังมีเดนเซล ดุมไฟรส์ แบ็กดาวรุ่งจากทีมพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ทั้ง 2 คนนี้น่าจะได้รับความไว้วางใจจากโรนัลด์ คูมันด์ ให้ได้ติดท่ีมไปเตะยูโร 2020 แน่นอนหากไม่มีการบาดเจ็บ นอกจากนั้นกองหลังที่น่าจะได้รับเลือกไปติดทีมชุด ยูโร 2020 น่าจะมีชื่อนักเตะเหล่านี้ คือ โจเอล เวลท์แมน (อาแจ็กซ์),เคนนี่ เตเต้ (โอลิมปิก ลียง) และพาทริค ฟาน อานโฮลท์ (คริสตัล พาเลซ) ดูแล้วแผงหลังค่อนข้างปึ๊กมากสำหรับทีมอัศวินสีส้มชุดนี้ ยิ่งมีโรนัลด์ คูมันน์ อดีตกองหลังระดับตำนานคุมทีมชาติอีกด้วย รับรองผู้เล่นชุดนี้ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์จากคูมันน์ ทำให้ยิ่งแข็งแกร่ง ยากมากสำหรับการที่ทีมคู่แข่งจะเจาะเข้าไปยิงประตูได้ง่าย ๆ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม กองกลางตัวหลักของทีมอัศวินสีส้ม เรามาดูขุมกำลังในแผงกองกลางทีมอัศวินสีส้มกันบ้าง คนที่เป็นหัวใจในแผงกองกลางของทีมคือ จอร์จินโญ่ ไวจ์ นัลดุม กองกลางจากทีมลิเวอร์พูล ที่แฟนหงส์แดงตั้งฉายาไว้ว่า "ซีดุม" เพราะจอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มีลีลาการเล่นที่พริ้วไหวคล้ายซีดาน กองกลางจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสนั้นเอง เขาเป็นกองกลางตัวหลักของทีมอัศวินสีส้มและได้รับมอบหมายให้เป็นผู้คุมเกมแดนกลางของทีม มีซีดุมคุมกลางหายห่วงสำหรับอัศวินสีส้ม และเขายังจับคู่เล่นได้ดีกับเฟรงกี้ เดอ ยอง มิดฟิลด์สารพัดประโยชน์จากทีมบาร์เซโลน่า เขาสามารถเล่นประสานกับไวจ์นัลดุมได้อย่างดีทำให้แดนกลางของทีมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งเกมรับ และเกมรุก นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นกองกลางชั้นดีจากทีมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ดอนนี่ ฟาน เดอ บีก กองกลางตัวเก่งจากทีมอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม,มาร์เท่น เดอ รูน (อตาลันต้า), ดาวี่ พร็อปเปอร์ (ไบร์ทตัน), ปาโบล โรซาริโอ (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น),ทอนนี่ วิลเฮน่า (เฟเยนูร์ด) และเควิน สตรูทมัน กองกลางตัวเก่งจากทีมหมาป่า โรม่าที่น่าจะมีชื่อติดทีมไปลุยศึกฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อส่องขุมกำลังแผงกองกลางของทีม โรนัลด์ คูมันน์มีตัวกองกลางดี ๆ ให้เลือกใช้มากมาย แต่ผู้เล่นคนไหนจะได้รับความไว้วางใจได้เป็นผู้เล่น 1 ใน 23 คนก็คงจะดูกันต่อไป เมมฟิส เดอปาย กองหน้าตัวความหวังของอัศวินสีส้ม มาดูแผงกองหน้าของทีมอัศวินสีส้ม ซึ่งสำหรับผู้เขียนแล้วมองว่า กองหน้าชุดนี้เทียบไม่ได้กับผู้เล่นกองหน้าระดับโลกของอัศวินสีส้มในอดีตเช่น มาร์โก้ ฟาน บาสเท่น, เดนนิส เบิร์กแค้มป์,แพทริค ไคลเวิร์ต,รุด ฟาน นิสเตอรอย และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เมืื่อเที่ยบกับกองหน้ารุุ่นพี่ในทีมชาติแล้ว กองหน้าในชุดปัจจุบันถือว่าห่างชั้นมาก กองหน้าของทีมอัศวินสีส้มชุดนี้ทีมีความโดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็น เมมฟิส เดอปาย กองหน้าจากทีมโอลิมปิค ลียง ซึี่งเคยมาตกต่ำกับทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดอยู่หนึ่งฤด๔กาล แต่พอย้ายทีมอยู่ลียง กลับกลายเป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของทัพอัศวินสีส้มไปเลย เพราะ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในรอบคัดเลือก โดยเมมฟิส เดอปายยิงไปถึง 6 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 7 ประตู แต่มามีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บเอ็นเข่าอย่างรุนแรงทำให้พักไปหลายเดือน แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อหายเจ็บแล้ว ฟุตบอลยูโร 2020 ในช่วงปีหน้าต้องมีชื่อติดทีมชาติไปเล่นแน่ ดังนั้นเมื่อมองผ่าน เมมฟิส เดอปาย แล้วผู้เล่นกองหน้าคนอื่น ๆที่โรนัลด์ คูมันน์ เรียกติดทีมชาติในช่วงหลัง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ควินซี่ โปรเมส กองหน้าจากทีมอาแจ็กซ์ ที่ย้ายไปเล่นได้ดีกับทีมเซบีย่า สเปนในฤดูกาลที่ผ่านมา สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น กองหน้าจากทีมไก่เดือยทอง สเปอร์ส หรือจะเป็น ลุค เดอ ยอง กองหน้าทีมเซบีย่า สเปน เรียกว่ายังไม่ประทับใจในการเล่นทีมชาติฮอลแลนด์ กลับเป็น ไรอัน บาเบิล กองหน้าตัวเก๋าวัย 33 ปีจากทีมอาแจ็กซ์ซึ่งเป็นอดีตปีกจากลิเวอร์พูลที่โชว์ฟอร์มดีจนได้กลับมากลายเป็นตัวหลักในทีมชาติอีกครั้งภายใต้การคุมทีมของคูมันน์ซะอย่างงั้น ดังนั้นจะไปฝากความหวังกับพี่บาเบลคงจะไม่ได้เต็มร้อยเพราะอายุมากแล้ว กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติฮอลแลนด์อีกคนที่น่าสนใจคือ จัสติน ไคลเวิร์ต กองหน้าดาวรุ่งวัย 20 ปีจากทีมโรม่าซึ่งเป็นลูกชายของแพทริค ไคลเวิร์ต อดีตกองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ แต่จัสติน ไคลเวิร์ต คงจะเป็นได้เพียงตัวสำรองเพราะต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาฝีเท้ามากขึ้น ไม่รู้ว่าฟุตบอลยูโร 2020 นี้จะมีชื่อ จัสติน ไคลเวิร์ต ไปร่วมทีมหรือไม่ แต่สำหรับความคิดของผู้เขียนแล้ว น่าจะให้โอกาสดาวรุ่งคนนี้ติดทีมไป ใครจะไปรู้เด็กคนนี้มีของ อาจจะเป็นตัวสำรองนำแชมป์แบบปี 1988 ตอนนั้นกองหน้าเบอร์ 9 ตัวจริงของทีมคือ จอห์น บอสแมน เล่นไม่ดีต้องเปลี่ยนเป็นกองหน้าตัวสำรองเบอร์ 12 อย่าง มาร์โก้ ฟาน บาสเท่น และเขาก็แจ้งเกิดไปดาวซัลโวและพาทีมคว้าแชมป์ไป ดังนั้น จัสติน ไคลเวิร์ต ก็น่าจะพร้อมขึ้นมาเป็นตัวสำรองนำชัยให้ทีมได้เช่นกัน และทั้งหมดนี้เป็นขุมกำลังของทีมอัศวินสีส้มในยุคของโรนัลด์ คูมันน์ กุนซือทีมชาติฮอลแลนด์ ผู้แบกความคาดหวังของคนทั้งชาติในฟุตบอลยูโร 2020 หนนี้ ทีมอัศวินสีส้มจะได้สมหวังคว้าแชมป์ หรือผิดหวังอีกครา ต้องคอยเชียร์กันต่อไป ขอขอบคุณภาพทุกภาพที่ลงในบาทความนี้ โดย https://sport.trueid.net เครดิตภาพปกโดย https://sport.trueid.net/detail/yMr2XeNApr3 (ภาพประกอบรูปที่ 1 , 2, 3,4,5,6 และ 7)