ปวดบ่า ปวดข้อมือ ปวดเอว สารพัดที่จะปวด บ่าตึงมาก คอตึงอีก หนักเข้าก็ปวดหัว นั่นงัย office syndrome สาเหตุก็รู้นะคะว่ามากจากอะไรแต่จะให้เลิกก็ยากอีก นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ กดข่าว อ่านข่าวจากมือถือ เล่นเกมส์มือถือ แชร์ข่าวจากมือถือ สาเหตุล้วน ๆ แต่....นั่นคือรายได้ของเรา นั่นคือเงินค่าขนมของเรา ถ้าให้หยุดทำ เพื่อทีจะรักษาอาการของ office syndrome อาการที่จะตามมา คือ อดตาย ฮ่า ๆ เครดิตภาพโดยผู้เขียน การนวด จึงเป็นวิธีบำบัดตัวเองของผู้เขียน นวดมาหลายที่ ไปเที่ยวจังหวัดไหนก็จะหาที่นวดที่นั่นด้วย ไมไ่ด้เสพติดการนวดนะคะแต่ขอให้ได้นวดผ่อนคลายสักนิดก็ยังดีหากมีเวลา จนกระทั่งไปนวดที่โรงพยาบาลหาดใหญ่เพื่อที่จะพาพี่ของผู้เขียนไปนวด เมื่อไปถึงก็ยื่นบัตรตามขั้นตอนเจนกระทั่งเจ้าหน้าที่รับบัตรถามว่า "มานวดธรรมดา หรือ มณีเวช" เราสองคนหันมาสบตากันโดยบังเอิญ ประมาณจะส่งสายตาถามกันว่า "มณีเวช คืออะไร รู้จักรึป่าว" เป็นที่เข้าใจกัน เพราะเราสองคนส่ายหน้าพร้อมกันอีก คือไม่รู้จัก เมื่อเจอของใหม่ "ให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตัวเอง" ผู้เขียนถามข้อมูลคร่าว ๆ จากเจ้าหน้าที่เกี่ยวมณีเวช จึงได้ตัดสินบอกพี่ว่า ไปมณีเวชกัน เครดิตภาพโดยผู้เขียน ได้บัตรคิวมาเรียบร้อยเมื่อถึงคิวเรียกเราสองคนเข้าไปพร้อมกันเลย ในห้องตรวจมีคุณหมอตรวจวัดความดันถามประวัติทั่วไป ถามอาการ ผู่้เขียนมีอาการบ่าตึงที่เด่นชัดที่สุด ส่วนพี่ของผู้เขียนมีอาการปวดบริเวณสะโพก ฟัง ๆ แล้วอาการของพี่จะเยอะกว่า คุณหมอบอกว่าอาการปวดเกิดจากกระดูกข้อที่ 5 ไม่เท่ากันต้องทำมณีเวช และอาการปวดจาก office syndrome ที่ผู้เขียนเป็นอยู่ให้ทำมณีเวชจะช่วยรักษาอาการปวดให้ลดลงได้ คุณหมอได้อธิบายให้เราสองคนเข้าใจเกี่ยวกับ มณีเวช และให้เอกสารกลับไปอ่านเพิ่มเติมที่บ้าน เครดิตภาพโดยผู้เขียน จากที่คุณหมออธิบายเกี่ยวกับมณีเวช พอจะสรุปได้ว่า มณีเวช คือ เรื่องของการปรับสมดุลของร่างกาย เข้าใจง่าย ๆ คือ ให้เลือดลมในร่างกายเดินหมุนเวียนสะดวก และจากเอกสารที่คุณหมอให้มาได้ให้ข้อมูลดังนี้ มณีเวช มีหลักการคือ ให้โครงสร้างของกระดูกในร่างกายมีลักษณะสมดุล เพราะจะทำให้การไหลเวียนเลือด ลม น้ำเหลือง และรบบประสาทสะดวก แต่ถ้าโครงสร้างไม่อยู่ในลักษณะสมดุลการไหลเวียนต่าง ๆ ก็จะบกพร่องตามซึ่งเป็นสาเหตุของการผิดปกติ ไม่สบายของร่างกาย มณีเวช เป็นศาสตร์เกี่ยวกับการจัดสมดุลโครงสร้างของร่างกายที่ท่านเป็นผู้ค้นพบ โดยใช้ผสมผสานวิชาแพทย์แผนไทย จีนและอินเดียมาประยุกต์ต่อยอดและพัฒนาการรักษามาเป็นของไทยเรา (เอกสาร LOVE LIFE BALANCE) ซึ่งคำว่า มณีเวช เกิดจากกลุ่มลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประสิทธิ์ได้รวมกลุ่มกัน คือ พญ.กานดา วัชรสินธุ์, นพ.สมศักดิ์ วัฒนศรี, นพ.รณชัย ตั้งมั่นอนันตกุล, พี่อารีย์ รัตนสิทธิ์ โดยตั้งชื่อกลุ่มครั้งแรกว่า "ชมรมประสิทธิ์มณีเวช" ต่อมาก็เรียกว่าวิชา "มณีเวช" มณี มาจาก นามสกุลของท่านอาจารย์ วิชามณีเวช แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ เป็นวิชาที่สอน เรื่องสมดุลของโครงสร้างร่างกาย แนะนำการใช้ชีวิตอย่างสมดุลเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดโรค การบริหารเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย การจัดกระดูดเพื่อการรักษา มณีเวช ศาสตร์ทางเลือกอีกทางในการช่วยบำบัดตัวเอง ผู้เขียนได้ลองปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำมา อาการบ่าตึงของตัวเองเบาลง อาการปวดของพี่ของผู้เขียนก็ดีขึ้นปวดน้อยลง คุณหมอบอกว่าให้หมั่นทำที่บ้านให้ได้วันละครั้งแต่ต้องทุกวันจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่านวด ฮ่า ๆ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณหมอเลยค่ะ ไว้โอกาสหน้านะคะผู้เขียนจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับการบริหารร่างกายของ "มณีเวช" เครดิตภาพโดยผู้เขียน "หมอจะเก่งแค่ไหน..ก็รักษาไม่หายหรอกครับ ถ้าเราไม่รู้จักดูแลตัวเอง" คำสอนที่ท่านอาจารย์ประสิทธิ์ ได้ถ่ายทอดไว้ให้กับลูกศิษย์ของท่าน ถึงเวลาที่เราต้องหันมาดูแลตัวเองแล้วใช่มั๊ยคะ เครดิตภาพโดยผู้เขียน