ในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมาในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเริ่มมีการกักตุนอาหารกันมากขึ้น เพราะกลัวว่าหากเกิดการกระจายของเชื้อไวรัสมากยิ่งขึ้นและสถานการณ์อาจจะแย่ลงกว่านี้หรือมีการเคอร์ฟิว 24 ชม. ขึ้นมาการที่ต้องอดอาหารหรือออกไปหาซื้ออาหารไม่ได้เลยนั้นทำให้เราอาจจะส่งผลเสียต่อเรามากๆ ในการดำรงชีวิต เพราะมนุษย์เราจำเป็นต้องกินเพื่อการดำรงชีวิตเพื่ออยู่รอด !!! แต่ถ้าเกิดในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเกิดขึ้นมาจริงๆ ล่ะในกรณีที่เราต้องอดอาหารเราจะสามารถอดอาหารได้นานถึงกี่วัน ? มาเริ่มที่กรณีการอดอาหารหรือขาดอาหารกันก่อน ปกติมนุษย์เราจะบริโภคอาหารกัน 3 มื้อต่อวันหรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วแต่การบริโภคอาหารของแต่ล่ะส่วนบุคคล มนุษย์เมื่อได้รับสารอาหาร สิ่งแรกที่ร่างกายจะทำคือใช้ Carbohydrates ในการสร้างพลังงานโดยการย่อยให้เป็นนํ้าตาลกลูโคส (นํ้าตาลกลูโคสเป็นสิ่งที่นักกีฬาชอบดื่มหรือผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ เพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไปและการเสียเหงื่อจนอ่อนเพลีย ) เพราะสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้เร็วที่สุดและเป็นแหล่งพลังงานหลักของสิ่งมีชีวิตอีกด้วยครับ ซึ่งคนเรานั้นจะใช้พลังงานหรือนํ้าตาลกลูโคสนั้นหมดในเวลาประมาณ 6 ชม. หลังจากนั้นร่างกายก็จะเริ่มหิวแล้วก็หงุดหงิด ( ถึงเป็นที่มาของคำว่า " โมโหหิว " ) แต่ถึงอย่างนั้นก็อยู่ที่การใช้พลังงานในตอนนั้นของแต่ล่ะคน นี้เลยเป็นเหตุผลในการควรกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อต่อวันก็คือ เช้า เที่ยง เย็น เพื่อเพียงพอต่อวัน และเมื่อเราอดอาหารล่ะร่างกายเราจะอยู่ได้กี่วัน ? ตามหลักทฤษฎีแล้วร่างกายของมนุษย์เรานั้นจะสามารถอดอาหารได้ประมาณสูงสุด 30 วัน นับตั้งแต่ตอนที่เริ่มอดอาหาร ปกติร่างกายจะใช้พลังงานจากนํ้าตาลกลูโคสที่ย่อยมาจากสิ่งที่เราบริโภคเข้าไป แต่ถ้าเราไม่ได้รับประทานอาหารเข้าไปร่างกายจะเอาพลังงานจากนํ้าตาลกลูโคสมาจากไหน คำตอบก็คือ ร่างกายนั้นเองครับ ร่างกายจะดึงกรดไขมันออกมาใช้ ซึ่งในเวลาที่เผาผลาญไขมัน กรดไขมันจะถูกเปลี่ยนให้เป็นที่ Ketones (มีผลทำให้ร่างกายอ่อนแอได้) และไปเกิดขึ้นที่ตับ จากนั้นก็จะส่งเป็นพลังงานไปยังอวัยวะต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ เนื้อเยื้อต่างๆ เพื่อใช้เป็นพลังงาน เมื่อกรดไขมันโดนใช้จนหมด ร่างกายก็จะนำ Protein ซึ่งอยู่ในกล้ามเนื้อ กระดูก เมื่อย่อยเป็นกรด Amino ( ถ้าไม่มีกรด Amino ก็จะไม่มี Protein ) แล้วส่งเข้าสู่กระแสเลือดแล้วเปลี่ยนเป็นนํ้าตาลกลูโคสที่เป็นพลังงานหลักของร่างกายอีกครั้งที่ตับ แต่การนำ Protein มาใช้นั้นย่อมส่งผลกับร่างกายเป็นอย่างมากเพราะ Protein เป็นแหล่งพลังงานสุดท้ายของร่างกายเมื่อถูกนำเอามาใช้ร่างกายก้จะผอมซูบลง กล้ามเนื้อจะลีบ อ่อนแรง ( เหมือนที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนจะชอบพูดว่าถ้าไม่กินข้าวเยอะๆ จะผอมน่ะ ) การอดอาหารจึงเป็นเรื่องที่อันตรายกว่าที่คิดไว้มากๆ และการอดอาหารจนได้รับอันตรายก็สามารถดูได้จากกรณีของคนลดความอ้วนโดยการอดอาหารจนร่างกายรับภาระไม่ไหวจนเป็นลม และบางคนก็เป็นโรคขาดสารอาหารไปเลย ผมจะยกตัวอย่างการอดอาหารของแต่ล่ะตัวอย่างว่าพวกเขาอดอาหารกันไปได้ถึงกี่วัน ?ตัวอย่างที่ 1. มหาตมะคานธี ที่บำเพ็ญตนประท้วงอดอาหารซึ่งการอดอาหารของเขานั้นสามารถอดอาหารได้นานถึง 21 วัน แต่ร่างกายของเขานั้นก็ซูบผอมลงมามากเหมือนกัน เนื่องจากร่างกายใช้โปรตีนที่เป็นแหล่งพลังงานสุดท้ายไปตัวอย่างที่ 2. ชายชาวสก็อตแลนด์วัย 27 ปี ที่ชื่อว่า Angus Barberi ที่อดอาหารไปถึง 382 วัน ( ประมาณ 1 ปี 17 วัน ) ซึ่งทำให้น้ำหนักของเขาที่อยู่ประมาณ 206 กิโลกรัม ลดลงมาถึง 81 กิโลกรัม กรณีของชายคนนี้นั้นมาจากปริมาณไขมันในร่างกายและโปรตีนในร่างกายที่มากมายจนสามารถนำมาใช้ได้นานถึงขนาดนี้ตัวอย่างที่ 3. การอดอาหารจากการติดถ้ำเขานางนอนของเด็กๆ ทีมหมูป่า ซึ่งอดอาหารไปถึง 10 วัน กรณีของเด็กๆ ทีมนี้นั้นร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานสำรองมากเท่าไหร่ เพราะการอยู่ในถ้ำนั้นไม่ได้เจอแสงแดดและลดอาการเสียเหงื่อ และไม่ได้ขยับหรือใช้พลังงานสิ้นเปลืองเท่าไหร่ ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะใช้ชีวิตอยู่ได้กี่วันนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ล่ะบุคคลด้วย ซึ่งต้องใช้การวิเคราะห์หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นนํ้าหนัก ส่วนสูง กล้ามเนื้อ ความแข็งแรงต่างๆ การบริโภคสิ่งต่างๆ ก่อนจะอดอาหาร โรคประจำตัว วัย การอดหาอารนั้นร้ายแรงกว่าที่คิดไว้มากๆ น่ะครับเพราะฉะนั้นการกินอาหารให้ครบ 3 มื้อต่อวันถือเป็นอะไรที่ดีมากๆ บวกกับสภาวะที่โรคระบาดอย่างโควิด - 19 ระบาดอย่างนี้จนทำให้คนซื้อของไปกักตุนกันอย่างมาก ผมจึงมาบอกถึงผลของการไม่ได้อดอาหารนั้นก็ร้ายแรงไม่แพ้ โควิด - 19 เลย ขอบคุณที่มา : https://www.phyathai.com/https://www.lactasoy.com/https://www.catdumb.com/ขอบคุณภาพหน้าปกจาก :Photo by Andrea Piacquadio from Pexels, ขอบคุณภาพประกอบจาก :Photo by Stas Knop from Pexels, Photo by Daria Shevtsova from Pexels Photo by Andrea Piacquadio from Pexels,