เนื่องในการฉลองวันประกาศอิสรภาพประเทศอิสราเอล(Independence Day) หรือ ยม ฮาทซมาอุท (Yom Ha'atzmaut - יום העצמאות) เมื่อวันที่ 29 เม.ย ที่ผ่านมา (หากนับตามปฎิทินแบบยิวจะเป็น ตรงกับวันที่ 5 เดือนอิยาร์ (Iyar)ปี 5708 หรือนับตามปฏิทินสากลตรงกับวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.1948) ปีนี้ประเทศอิสราเอลครบรอบ 72 ปีแล้ว โดยในวันนั้นเมื่อ 72 ปีก่อน เดวิด เบน-กูเรียน (David Ben-Gurion) นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศอิสราเอล (State of Israel) ได้ประกาศอิสรภาพ โดยชาวยิวจากทั่วโลกได้สถาปนาประเทศใหม่สำหรับชาวยิวขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ เพื่อรวบรวมชาวยิวที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกมาอยู่รวมกันในดินแดนพันธสัญญาที่พวกเขาเชื่อว่าพระยาห์เวห์ทรงประทานให้สำเร็จตามถ้อยคำการเผยพระวจนะของผู้เผยพระวจนะเอเสเคียล บันทึกไว้ในพระคริสธรรมครัมภร์(Holy Bible) เอเศเคียล 36:24 “เพราะว่าเราจะเอาเจ้าออกมาจากท่ามกลาง ประชาชาติและรวบรวมเจ้ามาจากทุกประเทศ และนำเจ้าเข้ามาในแผ่นดินของเจ้าเอง” ดังนั้นจึงเป็นการเริ่มต้นเกิดประเทศอิสราเอลอีกครั้งนับแต่ถูกอาณาจักรโรมันโจมตีและทำลายพระวิหารไปในปี ค.ศ.70 พวกเขากระจัดกระจายไปทั่วโลก บทความครั้งนี้ ผมขอแบ่งปันเรื่องเล่าจากการเดินทางที่ผมเคยไปประเทศอิสราเอลมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน คือ ในปี 2012 และ ปี 2015 โดยใช้ชื่อบทความว่า "ตามรอยประวัติศาสตร์ ชนชาติอิสราเอล" เป็นการแบ่งปันจากสมุดบันทึกการเดินทางของผมที่จดไว้ในการเดินทางไปที่นั่น โดยตอนที่ 1-5 เป็นการไปครั้งแรกช่วงวันที่ 28 ส.ค.- 5 ก.ย. 2012 และตอนที่ 6-10 ป็นการไปครั้งที่ 2 วันที่ 1- 8 พ.ย. 2015 อิสราเอล ประเทศที่มีความน่าสนใจในด้านประวัติศาสตร์ ผมขอแบ่งปันในตอนแรกก่อน และตอนต่อๆ ไปจะมาแบ่งปันในโอกาสหน้าครับ ตามรอยประวัติศาสตร์ ชนชาติอิสราเอล ตอนที่ 1 เมือวันที่ 28 ส.ค. 2012 ผมและคณะได้ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 00.10 น.โดยสายการบินเอลอัล (EL-AL)สายการบินแห่งชาติของอิสราเอล การเดินทางต้องใช้เวลานานกว่า 11ชม. ในช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน ผมมีโอกาสได้รับประทานอาหารอิสราเอลครั้งแรกบนเครื่อง รสชาติแปลกดีพอที่จะรับประทานได้ ทั้งนี้เพราะภรรยาของผมมีประสบการณ์กับอาหารที่นั่นมาแล้ว ครั้งนี้เราจึงเตรียมตัวนำเครื่องปรุงประเภทซอสปรุงรสต่างๆ รวมถึงเสบียงอาหารไทยไปด้วย เรียกว่าครั้งนี้ "จัดเต็ม" กลัวจะผอมกลับมาก็ว่าได้ เราเดินทางไปถึงสนามบินเบนกูเรียล (Ben Gurion -ชื่อของนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอล) ที่กรุงเทลาวีฟโดยสวัสดิภาพ เมืองชิโลห์ เมืองแห่งความประทับใจ พอเดินทางมาถึงเราได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทซาร์เอลทัวร์ พาเราขึ้นรถบัสเพื่อที่จะเดินทางไปยังเมืองชิโลห์(Shiloh) เมื่อกล่าวถึงเมืองชิโลห์ เมื่อศึกษาจากพระคริสธรรมครัมภร์(Holy Bible) จะพบว่า เมืองชิโลห์เป็นเมืองเก่าแก่ เมืองชิโลห์เป็นสถานที่ที่หีบพันธสัญญาที่พระเจ้าประทานให้ชนชาติอิสราเอลตั้งอยู่กว่า 400 ปี ในสมัยผู้เผยพระวจนะเอลี ประชาชนขึ้นไปถวายเครื่องบูชาที่ชิโลห์ปีละครั้ง ในเมืองนี้ นางฮันนาห์ได้มาอธิษฐานขอให้มีบุตร เนื่องจากนางเป็นหมัน และต่อมานางก็มีบุตรชายจึงตั้งชื่อว่า "ซามูเอล"(แปลว่าพระเจ้าทรงฟัง เพราะนางได้ทูลขอจากพระเจ้า) นางจึงได้ถวายซามูเอลให้ปรนนิบัติพระเจ้าอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าที่เมืองชิโลห์แห่งนี้ ตามธรรมเนียมของคนที่มาในเมืองนี้ ครอบครัวที่ไม่มีบุตรก็จะมาอธิษฐานเพื่อขอให้มีบุตรและก็มักจะได้รับคำตอบจากพระยาห์เวห์ คริสตจักรโบราณที่เมืองชิโลห์ สิ่งที่เป็นความปรารถนาของผมและภรรยาคือ การแต่งงานกันมาหลายปีและยังไม่มีลูก เราจึงได้อธิษฐานต่อพระเจ้าที่เมืองชิโลห์แห่งนี้ และขอบพระคุณพระเจ้า เมื่อเรากลับมาจากประเทศอิสราเอลใสนครั้งนั้นพระเจ้าตอบคำอธิษฐานและผมและภรรยาได้มีลูกสาวในปี 2013 และครอบครัวของเราจึงตั้งชื่อลูกสาวเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระพรที่ได้รับการการไปเมืองนี้ว่า เด็กหญิง "ชิโลห์พร" (แปลว่าพระพรจากเมืองชิโลห์) ชื่อเล่นว่า "ชิโลห์" คำว่า "ชิโลห์" ยังหมายถึง "สันติสุข" คล้ายกับคำว่า "ชาโลม" ที่คนยิวจะอวยพรแก่กัน และยังมีความหมายถึงพระนามของพระเจ้าที่จะนับสันติภาพและการอวยพรมาสู่ประชาชาติ ตามพระธรรมปฐมกาลในบทที่ 49 ข้อที่ 10 กล่าวไว้ว่า "คทาจะไม่ขาดไปจากยูดาห์ ทั้งไม้ถือของผู้ปกครองจะไม่ขาดไปจากหว่างเท้าของเขา จนกว่า "ชีโลห์" จะมา และชนชาติทั้งหลายจะเชื่อฟังเขา"น้องชิโลห์พร ปัจจุบันอายุ 6 ขวบแล้ว นี่คือพระพรที่ได้รับเมื่อไปประเทศอิสราเอล นั่นเป็นประสบการณ์แรกที่ครอบครัวของผมได้รับพระพรจากการไปประเทศอิสราเอล ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่อยาจะเล่าสู่กันฟังติดตามได้ในตอนที่ 2 ต่อไปครับ (หมายเหตุ ขอบคุณภาพปกโดย Walkerssk จาก Pixabay และภาพในบทความถ่ายโดยผู้เขียน)