สวัสดีคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่านค่ะ วันนี้นางสาวปลาตีนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างจังหวัด และไปเจอเข้ากับของดีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คุณผู้อ่านอยากรู้กันไหมคะ ว่าปลาตีนไปเจออะไรมา ถ้าอยากรู้ขอเชิญติดตามอ่านบทความ ชำมะเลียง เคียงใคร ได้เลยค่ะ ฉันได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อไปถึงสิ่งแรกที่พบคือบ้านที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่นานาพันธุ์ และมีทุ่งนาล้อมรอบบริเวณบ้าน เนื่องจากชาวบ้านบริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นชาวนา วิวข้างหลังเป็นเทือกเขาขนาดใหญ่พาดผ่านรอบ ๆ หมู่บ้าน มองดูแล้วเหมือนหมู่บ้านที่อยู่ในขุนเขาเลย ฉันชอบบรรยากาศของที่นี่มาก พลันสายตาของฉันสะดุดเข้ากับต้นไม้ต้นหนึ่ง ที่มีผลคล้ายลูกหว้า แต่มีขนาดใหญ่กว่า กำลังออกผลดกเต็มต้น สีของผลตัดกับใบอย่างเด่นชัด มองแล้วสวยงามมาก เพื่อนบอกว่านั่นคือ ต้นชำมะเลียง ต้นชำมะเลียง มีชื่อวิทยาศาสตร์ Lepisanthes fruiticosa (Roxb.) Leenh. เป็นพืชวงศ์ SAPINDANCEAE ซึ่งมีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะพืชเป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก ใบเป็นรูปวงรี หรือรูปไข่ ดอกจะออกในช่วงเวลาประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนธันวาคม ลักษณะดอกเป็นช่อย้อยสีขาวครีม ลักษณะผลเป็นรูปวงรียาว ๆ มีสีม่วงแดง ๆ เมื่อผลสุกได้ที่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ ผลของชำมะเลียงมีรสหวานฝาด ๆ ก่อนรับประทานควรใช้นิ้วคลึงผล เพราะจะทำให้ลดรสฝาดลงได้ บางบ้านนิยมปลูกชำมะเลียงเป็นไม้ประดับ เพราะใบมีสีเขียวเข้มข้นตลอดทั้งปี เมื่อเริ่มผลิใบใหม่ ๆ จะเป็นสีเขียวแกมเหลืองอ่อนสดใสมาก สรรพคุณของชำมะเลียง มีมากมาย อาทิ ผล นิยมมาใช้รักษาอาการท้องเสียในเด็ก ราก แก้เลือดกำเดาไหล รักษาอาการร้อนใน ใบอ่อน นำมาเป็นผักเหนาะลวกจิ้มกินกับน้ำพริก เพื่อนบอกฉันว่าต้นชำมะเลียงหาดูยากแล้ว คนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยปลูก เพราะผลชำมะเลียงไม่ได้หวานฉ่ำ คนจึงไม่นิยมรับประทานซักเท่าไหร่นัก ในหมู่บ้านมีแค่บ้านของเพื่อน กับบ้านญาติของเพื่อนเท่านั้น เพราะคนส่วนใหญ่นิยมไปปลูกไม้เศรษฐกิจอย่างมะม่วง เนื่องจากผลผลิตของมะม่วงมีมูลค่ามากกว่าชำมะเลียง เพื่อนจึงเสริมความรู้เพิ่มเติมให้ฉันว่า เธอรู้ไหม สาเหตุที่บ้านฉันต้องปลูกต้นชำมะเลียง เพราะเป็นแหล่งยาสมุนไพรชั้นดีในการรักษาอาการท้องเสีย ซึ่งเวลาคนในครอบครัวท้องเสียจะไม่ซื้อยาแผนปัจจุบันมารับประทาน แต่เลือกทำน้ำชำมะเลียงดื่มแก้ท้องเสียแทน ซึ่งเพื่อนดื่มมาตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงปัจจุบัน เป็นสูตรต้นตำรับของคุณย่า เพื่อนใจดีบอกสูตรให้ฉันด้วย เพียงแค่นำผลชำมะเลียงสุก 1 ถ้วย เติมน้ำต้มสุก 2 ถ้วย แล้วขยำให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกรองใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดง 1/3 ถ้วยและเกลือ 1 ช้อนชา คนให้เข้ากันก็จะได้น้ำชำมะเลียงมาดื่มแก้ท้องเสียแล้ว ให้ดื่มวันละ 1 แก้ว เท่านั้นค่ะ เป็นความโชคดีของฉันจริง ๆ ที่ได้เห็นต้นไม้ ซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน พอกลับถึงบ้านเลยรีบจดบันทึกข้อมูลของต้นชำมะเลียงลงในสมุดบันทึกต้นไม้ เพราะฉันเป็นคนรักต้นไม้มาก แล้วคุณผู้อ่านหล่ะคะ รักต้นไม้กันไหม ? เรื่องและภาพโดย........นางสาวปลาตีน