อื่นๆ

โรคระบาดที่ฆ่าชีวิตคนได้มากกว่าโควิด

519
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
โรคระบาดที่ฆ่าชีวิตคนได้มากกว่าโควิด

นั่นคือโรค The Black Death หรือกาฬโรค นั่นเอง ในอดีตเนี่ยมันมีโรคที่รุนแรงกว่าโรคโควิดเป็นหลายร้อยเท่าเลย โรค Black Death หรือกาฬโรคเป็นโรคที่ในอดีตเนี่ยสามารถฆ่าผู้คนไปได้มากที่สุดในโลกซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แบคทีเรียตัวนี้นะครับที่ผมบอกเพื่อนไปเมื่อสักครู่เนี่ยมีพาหะนำโรคเป็นสัตว์ที่มีจำพวกฟันแทะเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศจีน สามารถแพร่ในอากาศได้ผ่านการสัมผัสโดยตรง หรืออาหารที่เราเพิ่งรับประทานไป

1

ในอดีตกาฬโรคเคยระบาดอยู่ 3 ครั้งใหญ่ๆ ช่วงที่ 1 ต้นกำเนิดมาจากจีนและแพร่กระจายเข้าสู่กรุงคอนสแตนติโนเปิล จากธัญพืชที่นำมาจากอียิปต์ประกอบกับนครแห่งนี้ เป็นนครที่มีหนูและเห็บหมัดจำนวนมากทำให้เชื้อโรคและสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ช่วงที่กาฬโรคระบาดชาวคอนสแตนติโนเปิลเนี่ยตายไปวันละประมาณถึง 100 คนเลยทีเดียว ถือว่าเยอะมากๆเลยนะสำหรับเวลาแค่วันเดียว และสุดท้าย ประชาชนของคอนสแตนติโนเปิลที่เสียไปทั้งหมดคิดเป็นจำนวน 40 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในเมือง แล้วต่อมาก็โรคได้แพร่กระจายเข้าสู่เมดิเตอร์เรเนียนในปี ค.ศ 588 หรือในปัจจุบันพื้นที่ตรงนั้นก็คือประเทศฝรั่งเศสนั้น

Advertisement

Advertisement

นักวิจัยและประเมินว่ากาฬโรคแห่งจัสติเนียนสามารถฆ่าประชากรทั่วไปได้มากกว่า 100 ล้านคน และทำให้จำนวนประชากรในยุโรปเนี่ยสามารถลดลงไปได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ในช่วงปี ค.ศ. 541 จนถึงปีค.ศ 700

ต่อมาก็เข้าสู่กาฬโรคในช่วงที่สองก็คือช่วงปีคริสต์ศักราชที่ 14 จนถึงปีคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 เนี่ยชาวยุโรปเรียกกาฬโรคนนี่ว่าเป็นการระบาดของโรคครั้งใหญ่ มันเริ่มต้นจากการระบาดทางตอนใต้ของประเทศอินเดียและประเทศจีน ผ่านทางเส้นทางสายไหมกระจายไปทั่วเอเชียยุโรปและแอฟริกา โดยนักวิจัยสันนิษฐานว่า พ่อค้าชาวมองโกลจีนเป็นผู้นำเชื้อมาแพร่ในยุโรป ทำให้เกิดการแพร่เชื้อในยุโรปอย่างต่อเนื่องโดยประเทศอิตาลี มีการระบาดโรคนี้อยู่ตั้งแต่ช่วงปี 1338 จนถึง 1351 และเสียประชากรภายในอิตาลี ไปถึง 2 ใน 3 และต่อมา เชื้อกาฬโรคได้ระบาดไปสู่ประเทศอังกฤษในช่วงปี 1400 คนในยุคนั้นเนี่ยเขาเรียกว่า The Great Practice of London โดยมีการเสียชีวิต 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร 40,000 คน เหลือผู้มีชีวิตรอดเพียงแค่ 600 คน เท่านั้น และต่อมาในช่วงปีคริสตศักราชที่ 17 ชาวยุโรปก็ได้เตรียมการเรียกการระบาดระรอกนี้ว่า The Black Death

Advertisement

Advertisement

2

ในช่วงนั้น ชาวยุโรปที่สูญเสียชีวิตไปจาก The Black Death นี้มีจำนวนถึง 25 ล้านคนเลย

ต่อมาคือช่วงที่ 3 ของ The Black Death คือช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 ก็คือเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งถือเป็นการระบาดครั้งสุดท้ายของโรคนี้

เริ่มต้นจากที่มณฑลยูนนานประเทศจีนในปี ค.ศ 1855 ทำให้โรคนี้แพร่กระจายไปสู่ทั่วทั้งโลก มีคนเสียชีวิตไปมากถึง 12 ล้านคนจากการระบาดของการโรคนี้ในช่วงที่ 3 ซึ่งในขณะนั้น คนทั้งโลกก็ยังไม่รู้นะว่าสาเหตุของการเกิดโรคเกิดมาจากอะไรจนมาในปี ค.ศ 1894 ได้มีแพทย์ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ค้นพบสาเหตุของการเกิดเชื้อแบคทีเรีย bacillus subtilis ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสัตว์ที่มีฟันแทะและเห็บหมัด

ซึ่งทำให้เกิดโรคปอด โรคต่อมน้ำเหลือง และกาฬโรคที่แพร่กระจายในเลือดเลือด สามารถทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 56 วัน หลังจากได้รับเชื้อ

Advertisement

Advertisement

3


ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก

รูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 โดย Free-Photos

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์