อื่นๆ

แว่วเสียงแห่งท้องทะเล

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
แว่วเสียงแห่งท้องทะเล

แว่วเสียงแห่งท้องทะเล

ขอบคุณภาพจาก dimitrisvetsikas1969 โดย pixabayขอบคุณภาพจาก dimitrisvetsikas1969 โดย pixabay

เล่ากันว่าเมื่อคนเราหลงไหลสิ่งใด จะพยายามเข้าใกล้หรือตามหาสิ่งนั้นจนกว่าจะเจอและผมเองก็คงเป็นหนึ่งในนั้นปัจจุบันผมทำงานเป็นผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวและอาชีพที่น่าสนใจในประเทศ เพราะจะได้ลงพื้นที่และเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ กระทั่งสามารถเขียนข่าวสารใหม่ ๆ ที่น่าสนใจในแต่ละวันออกมาได้อย่างครบถ้วน จนวันนึงผมได้สกู๊ปพิเศษให้ไปทำข่าวเกี่ยวกับชาวประมงที่ออกล่องเรือหาปลาในตอนกลางคืน แรกเริ่มผมยังคงลังเลใจอยู่บ้างแต่ก็ตอบตกลง เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนตัวผมนั้นชื่นชอบทะเลมากไม่ว่าเป็นจะกลางวันหรือกลางคืนผมก็ชื่นชอบมัน  จากนั้นผมได้ก็ได้ลงใต้ไปยังจังหวัดที่ต้องทำงานและผมก็ทำการขออนุญาตเจ้าของเรือคุยตกลงกันเรื่องข่าวที่จะถูกเขียนลง

Advertisement

Advertisement

ขอบคุณภาพจาก photo-graphe โดย pixabayขอบคุณภาพจาก photo-graphe โดย pixabay

สามวันให้หลัง ผมมายังที่หมายในตอนกลางคืนตามเวลานัดพอดี ก่อนจะขึ้นไปยังเรือของชาวประมงที่กำลังเตรียมเคลื่อนออกจากฝั่ง
ทันทีที่ขึ้นไปทุกคนมีความเป็นมิตรและให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง ทำให้ผมพอใจมากที่การพักแรมในเรือครั้งนี้จะต้องไปได้ดีแต่ก็ยังมีเรื่องให้ต้องกังวลเล็กน้อย ก่อนผมจะเข้าไปยังห้องเก็บพักในเรือ ได้มีชายคนหนึ่งบอกกับผมว่า "ระวังเสียงไว้ให้ดี ถ้าได้ยินให้ปิดหูหรือทำเป็นไม่ได้ยินไป" แล้วก็ตบบ่าผมเบาๆ ผมเองก็มึนงงกับสิ่งที่เขาพูด จนถึงเวลาค่อนดึกผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จะข่มตาหลับก็หลับไม่ลง จนต้องเดินออกมาด้านนอกเพื่อสูดอากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ผมกับได้ยินเสียงประหลาดแว่วมาจากในทะเลลึกที่ไกลจากฝั่ง มันคล้ายกับเสียงเพลงแต่ก็ไม่ใช่ภาษาต่างประเทศหรือทั้งภาษามนุษย์สื่อสาร มันเป็นรูปแบบของเสียงสัตว์เรียกหากันยามหาคู่ เท่าที่ฟังเสียงดูนั้นทั้งกังวานและนิ่มนวล ชวนให้หลงไหลไปกับมันราวกับว่ามีสิ่งดึงดูด

Advertisement

Advertisement

ขอบคุณภาพจาก Kristendawn โดย pixabayขอบคุณภาพจาก Kristendawn โดย pixabay

ผมเอะใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเสียงนี่อาจจะเป็นเสียงเดียวกับที่คนๆนั้นเตือนผมหรือเปล่า จนผมได้เห็นกับตาว่าต้นตอที่มาของเสียงที่มันติดค้างอยู่ในหัวของผมคืออะไร ถัดไปไม่ถึงสิบเมตรนับจากที่ผมยืนอยู่ โดยที่มันก็ยังคงปล่อยเสียงร้องและว่ายวนทวนกระแสอยู่นาน มันก็พุ่งขึ้นมาจากใต้ทะเล ทั้งครีบและหางที่มีเกร็ดสะท้อนกับแสงดวงจันทร์มันสวยจนผมไม่อาจละสายตาเผลอจ้องมันจนตาไม่กระพริบ และมันเองก็จ้องผมแบบไม่กระพริบตาเช่นกัน สิ่งแรกที่ผมคิดนั่นไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ ถึงแม้จะมีท่อนบนเป็นหญิงสาวที่สวยสดงดงามจนใครเห็นต้องเหลียวหลังตาม แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ หลังจากจ้องตากับสัตว์ประหลาดคล้ายนางเงือกแต่ดูน่ากลัวกว่าไปหลายขุม เพราะลำตัวของมันมีทั้งหนามและครีบที่แหลมคมประดับไว้อย่างกับอาวุธร้ายที่พร้อมจะปลิดชีวิต

Advertisement

Advertisement

ขอบคุณภาพจาก Free-Photos โดย pixabayขอบคุณภาพจาก Free-Photos โดย pixabay

จนกระทั่งตอนนี้แขนขาของผมเริ่มชาไร้ซึ่งการขยับ ราวกับถูกทำให้หยุดนิ่ง ก่อนเจ้าสัตว์ประหลาดที่เปล่งเสียงร้องอันไพเราะนั่นจะปีนขึ้นมาบนขอบเรือ ในใจผมภาวนาให้มีใครมาเห็นก่อนที่จะถูกกิน มันเอียงคอมองผมมาอย่างชั่งใจก่อนจะเปลี่ยนจากใบหน้าหญิงสาวที่เห็นคราวแรกเป็นสัตว์ประหลาดดุร้ายน่ากลัว พร้อมอ้าปากค้างจนน้ำลายข้นหนืดย้อยผ่านฟันซี่ยาวและเขี้ยวคมที่ซ้อนเรียงกันอยู่เป็นแนวให้เห็น แต่ก่อนที่ผมจะถูกดับลมหายใจก็นับว่ายังโชคดี ที่ชายคนนั้นที่เตือนสติผมครั้งแรกเกี่ยวกับเสียงมรณะนี่เข้ามาช่วยได้ทันเวลา เขาคว้าเอาหอกแหลมที่วางอยู่ในเรือขึ้นมาและแทงเข้าที่อกซ้ายของมัน จนเลือดนั่นทะลักและกระเด็นเปรอะไปทั่วใบหน้าของผม ไม่เว้นแม้แต่ผืนน้ำที่แตกกระจายเป็นวงกว้างเมื่อร่างของมันค่อยๆจมดิ่งลึกลงไป กระทั่งทะเลถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉานในที่สุด


แม้ว่าจะผ่านคืนนั้นมาจนถึงรุ่งเช้าแล้ว ผมก็กลับเข้าฝั่งมาพร้อมกับอาการป่วย และได้พูดคุยกับทุกคนบนเรือเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเขาตกใจมากเมื่อผมเล่าจบ สีหน้าทุกคนดูเป็นห่วงผมจากใจ จนผมได้รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนั่นก็แทบทำเอาตกใจ ทุกคนในหมู่บ้านเล่ากันว่ามันจะขึ้นมาปีละหนเพื่อดักจับมนุษย์ผู้ชายไปอยู่กับมัน และถูกทรมานจนทำให้กลายเป็นหินและมีชีวิตอยู่เพื่อได้ยินเสียงเพลงที่มันร้องจนต้องตกอยู่ภวังค์ของมันไปตลอดกาล

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์