เป็นหนังสือที่ทำให้ความทุกข์ค่อย ๆ หายไป ช่วยให้โกรธคนอื่นน้อยลง บางคนชินกับความทุกข์ทางใจเป็นมาตลอดชีวิตและไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทุกข์อยู่ บางคนทุกข์มากจนทำให้คนรอบข้างรู้สึกอึดอัด การเข้าใจเรื่องของ Mindset จะช่วยได้ ก็เพราะว่าเมื่อเราเข้าใจในตัวเองมากขึ้น รู้เป้าหมายในชีวิตของเราว่าเป้าหมายของเราคืออะไร เราต้องการอะไร โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรที่เหมือนคนอื่น การมีเป้าหมายในชีวิตมันจะทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น**เครดิตรูปภาพโดย : https://pixabay.com/no/photos/landskap-endre-klima-natur-4684217/ ในหนังสือเล่มนี้จะมีคำที่ต้องรู้อยู่ 2 คำที่อธิบายคำว่า Mindset ได้เข้าใจมากขึ้นได้แก่ 1. Growth Mindset คือกรอบความคิดที่สามารถพัฒนาได้ คนที่เชื่อว่าคนเราพัฒนาได้ เก่งขึ้นได้ ชีวิตไม่ได้มีปัญหา มีแต่เรื่องท้าทาย คุณสมบัติของคนประเภทนี้จะคิดอยู่เสมอว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ กล้ารับคำติชมเพื่อที่จะพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น คนประเภทนี้แม้ว่าจะเจอความความล้มเหลวสักแต่ไหน แต่จะไม่คิดว่าความล้มเหลวเป็นตัวชี้ชะตาชีวิตของเขา เพราะเขารู้ว่ายังมีอีกหลายวิธีที่ที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้ **เครดิตรูปภาพโดย : https://pixabay.com/no/photos/landskap-road-natt-himmelen-star-4701725/ 2. Fixed Mindset คือกรอบคิดแบบตายตัว เป็นคนที่เชื่อว่าตัวเองพัฒนาไม่ได้หรอก เกิดมายังไงสภาพชีวิตเป็นยังไง ความสามารถเป็นยังไง ก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไปเพราะว่าเขาได้ตีกรอบชีวิตของตัวเองไว้แล้ว คนที่เป็น Fixed Mindset ต้องพิสูจน์ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ชอบตัดสินคนอื่นแต่กลัวคนอื่นมาตัดสินตัวเขาด้วย คุณสมบัติของคนประเภทนี้จะคิดอยู่เสมอว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ความพยายามเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ไม่กล้ารับคำติชมรับไม่ได้หากมีคนมาตำหนิ ชอบกังวลว่าคนอื่นจะมองไม่ดีจำทำให้ไม่กล้าทำอะไรเลย คติของคนที่มี Fixed Mindset “เลือกความสำเร็จระยะสั้น มากกว่าการเติบโต”**เครดิตรูปภาพโดย : https://pixabay.com/no/photos/river-vann-bevegelse-steiner-4700162/ ผลเสียของการที่เราไม่เข้าใจในตนเอง 1. ทำให้รู้สึกขาดตลอดเวลา 2. การทนอยู่กับสิ่งที่ไม่ใช่ 3. บางคนต้องเหนื่อยกับการพิสูจน์ตนเอง ต้องสร้างตัวตนอยู่ตลอดเวลา 4. บางคนนำตัวเองออกไปจากคนรอบข้างโดยการที่ไปนั่งสมาธิ 5. การรู้สึกไม่มีความเป็นอิสระ หลังจากที่แอดได้อ่านจนจบ แอดได้รู้ว่ากรอบความคิดที่สามารถพัฒนาได้และกรอบความคิดแบบตายตัวนั้นเป็นแบบไหนแต่สำหรับแอดคิดไม่ยากเลย แอดเลือกที่จะพัฒนาตัวเอง ต่อให้เราไม่เก่งแต่ถ้าเราพยายามพัฒนาตัวเอง มีความคิดที่ดีทุกอย่างจะดีเอง แอดอยากให้ทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้มันดีจริง ๆ ไปหามาอ่านกันนะคะ ผู้เขียน : Carol S. Dweck (แครอล เอส ดเว็ค), Ph.D. ผู้แปล : พรรณี ชูจิรวงศ์ สำนักพิมพ์: วีเลิร์น (We Learn) #Reviwe #ByBow **เครดิตรูปปกโดย : B'Bow