ช่วงนี้ ถ้าเอ่ยถึงวัตถุดิบ พระเอก นางเอก ในการทำขนมหวานในช่วงเวลานี้ ก็เห็นจะมีแต่ สาคู เท่านั้น หลายท่านคงรู้จักสาคูกันแล้วทั้งนั้น เพราะในตลาดขนมไทย มีหลากหลายเมนู ที่ใช้ทำด้วยสาคู ไม่ว่าจะเป็น สาคูเปียกน้ำกะทิ สาคูเปียกข้าวโพด ตะโก้สาคู สาคูเปียกมะพร้าวอ่อน สาคูบัวลอย สาคูเปียกฟักทอง สาคูเปียกเผือก สาคูเปียกอัญชัน สาคูใส้หมู หรือบางคนเอาไปทำเป็น โจ๊กสาคู ก็มีครับ และยังมีอีกมากมายหลายเมนูด้วยกันที่มีส่วนผสมของสาคู แล้ว สาคูที่เกริ่นมานี้ ที่เราเคยได้ยินชื่อ สาคูมีสองแบบด้วยกัน ต้นสาคู แบบที่ 1 แบบนี้เป็นต้นสาคูที่มีหัว เวลาจะเอามากินต้อนถอนหัวหรือขุดหัวสาคูขึ้นมาล้างแล้วต้ม บางครั้งบางทีก็จะเอามาต้มทำเป็นกาว เหนียวแน่นไม่แพ้กาว Latex เลยทีเดียว ต้นสาคู แบบที่ 2 แบบนี้จะเป็นต้นสูง เป็นปาล์มชนิดหนึ่ง ใบคล้ายมะพร้าว จะมีอยู่มากในพื้นที่ทางภาคใต้ของไทย ลำต้นจะมีแป้งมาก โดยเมื่อปลูกแล้ว ลำต้นจะเริ่มมีแป้งตอนอายุ 4- 8 ปี ก่อนที่จะออกดอกถึงจะได้แป้งมาก ๆ วิธีการผลิตแป้งสาคูนั้น คือ เอาลำต้นมาย่อยเป็นเยื่อเล็ก ๆ แล้วละลายคั้นเอาน้ำ หรือกรองเอาน้ำแป้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอนเป็นเนื้อแป้งอีกที แล้วนำไปตากให้แห้งสนิท จากนั้นจึงนำไปร่อนเพื่อให้เป็นเม็ดสาคูเล็ก ๆ บรรจุถุงที่เราเอามาทำหลากหลายเมนูนั่นเอง วันนี้ผู้เขียน ได้แป้งสาคูต้น หรือ สาคูต้นแท้ ๆ ที่ทำมาจากต้นสาคูแบบที่สอง ที่เราเคยเห็นกันที่เป็นเม็ด ๆ นั่นละครับ แต่สาคูในวันนี้ที่ผู้เขียนได้มาจะเป็นสาคูที่ทำมาจากธรรมชาติจริง ๆ มีที่มาจากจังหวัดพัทลุง น้องที่ทำงานจัดมาให้ จึงคิดเมนูขึ้นมาได้ 1 เมนู คือ "ฟักทอง สาคูต้น แกงบวด" เนื่องจากฟักทองยังมีเหลืออยู่ เมนูนี้ ทำยากหรือง่าย มีวัตถุดิบอะไรกันบ้างมาดูกันครับ วัตถุดิบหลัก ๆ ก็จะมี ง่าย ๆ ดังนี้ 1. เม็ดสาคูต้น 2. ฟักทอง 3. น้ำตาลปี๊ป 4. กะทิ เม็ดสาคูต้นนั้น เราไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ ฟักทองที่ต้องเอามาหั่นเปลือกออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อจะได้สุกง่าย ๆ ใส่จานพักไว้ก่อน ส่วนน้ำตาลนั้นผู้เขียนเลือกใช้ น้ำตาลปี๊บ เหตุผลเดียวเพราะผู้เขียนชอบกลิ่นและรสสัมผัสจะหอมกว่า น้ำตาลทรายขาว เรื่องนี้แล้วแต่จะชอบนะครับ สำหรับขั้นตอนการทำนั้น ง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน ดังนี้ครับ ขั้นตอนที่ 1 เทเม็ดสาคูต้นและน้ำลงในหม้อ รอน้ำอุ่น ๆ เริ่มกวน อย่าใช้ไฟแรงนะครับ เพราะสาคูต้นจะสุกง่ายกว่าสาคูทั่วไป คนไปเรื่อย ๆ จนสาคูเริ่มใกล้สุกแล้วใส่ฟักทองลงไป คนเป็นระยะ ๆ อย่าได้ละสายตาเพราะไม่งั้นสาคูอาจจะใหม้ที่ก้นหม้อได้และอาจจะจับกันเป็นก้อนไม่น่ารับประทาน ขั้นตอนที่ 2 เมื่อฟักทองเริ่มสุก สาคูสุกดีแล้วก็ให้เทน้ำกะทิลงไป ใส่น้ำตาลปี๊บ ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อตัดความเลี่ยนของน้ำตาล และเพิ่มรสชาติของขนมหวานให้มีรสสัมผัสดียิ่งขึ้น เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น พร้อมตักใส่ชามเสิร์ฟ แล้วครับ เพียงเท่านี้ก็ได้กิน "ฟักทอง สาคู แกงบวด" เรียบร้อยแล้ว ง่ายไหมครับ เร็วด้วยเพราะเป็นสาคูต้น จากธรรมชาติแท้ ๆ จะสุกเร็วกว่าสาคูทั่วไปมาก ๆ เวลารับประทาน บางคนก็เอาใส่กินกับน้ำแข็ง เพื่อเพิ่มความเย็น หอม หวาน สดชื่น บางคนก็เอาไปทำ เป็นหวานเย็น คือใส่ถุงพลาสติคใส แช่ช่องแช่แข็ง ให้แข็งเป็นแบบไอติม ก็กินได้อร่อยอีกแบบ ลองดูนะครับ หากใครสนใจ สาคูต้นแท้ ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น อยู่ได้นานเป็นปี กลิ่นหอม เหนียวนุ่ม อร่อย ละมุนลิ้น แม่ค้าใจดี๊ ใจดี เห็นมีโปร 1 กิโลกรัม ส่งฟรีอยูนะครับ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยครับ ร้านสามใบเถา โทร. 080-717 2047, 080-862-6512 Facebook : สาคูต้นแท้พัทลุง By นู๋ฟ้าใส ภาพประกอบที่ 1 ต้นพันธุ์มันสาคู ภาพประกอบที่ 2-10 ภาพโดยผู้เขียน