จากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้ภูเก็ตกลายเป็นเกาะร้างมานานถึง 10 เดือนเต็ม และอาจต่อเนื่องไปอีกนาน ไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีรายได้ คนต่างจังหวัดทยอยกลับภูมิลำเนา ส่วนคนภูเก็ตเจอสภาวะที่ไม่สามารถหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้ พยายามหาหนทางอื่น โดยส่วนใหญ่มุ่งไปที่การขายสินค้าประเภทปัจจัย 4 ก่อน แต่ต้องเจอภาวะคนขายมากกว่าคนซื้อ แทนที่จะขายได้กลับเป็นเพิ่มภาระหนี้ขึ้นอีก แต่คนภูเก็ตโชคดีตรงที่ทรัพยากรทางทะเลของเรา สามารถนำมาเลี้ยงปากท้องได้ แต่ก็ไม่สามารถทำเงินได้ เพราะทุกคนเลือกที่จะไปหากินเองมากกว่าซื้อ ถ้ามองมุมนี้ทุกคนคงคิดว่า “ก็มีกินนะ ไม่ได้อดนี่” แต่ทุกท่านคงไม่ลืมว่าสมัยนี้คนเป็นหนี้กันเยอะ ไม่ว่าจะหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรเครดิต ซึ่งหนี้เหล่านี้ต้องใช้เงินในการชดใช้ เมื่อไม่มีเงินก็ใช้หนี้ไม่ได้ ทำให้กลัวถูกยึดบ้าง กลัวคดีความบ้าง ทุกคนเจอปัญหานี้เหมือนกัน แต่ผู้เขียนขอเสนอแนวคิด และให้กำลังใจหลาย ๆ คนที่กำลังท้อ และไม่รู้จะทำอย่างไร อยากให้ “ทำใจยอมรับและปล่อยวาง” ซึ่งอย่างน้อยมันจะช่วยให้เราเดินต่อได้ในช่วงวิกฤตนี้ ที่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะจบ หลายคนอาจตั้งคำถามว่า “ทำอย่างไรหล่ะ” หรือ “แค่พูดก็ง่ายสิ” ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าจริง ผู้เขียนเองตอนที่ได้ยินคำนี้ ก็ตอบออกไปเลยว่า “ทำไม่ได้ ทำอย่างไรหล่ะ มันไม่ง่ายเลยนะ” ตอบไปทั้งน้ำตาเลยตอนนั้น รู้สึกว่าตนเองไม่มีทางไปแล้ว ไปไม่ไหวแล้ว ทุกอย่างรอบตัวประดังเข้ามาจนรู้สึกเหมือนทุกอย่างมันหมดทางแล้ว แต่พ่อของผู้เขียนเดินเข้ามาลูบหัวและพูด “เราก็แค่กลับไปตรงจุดเริ่มต้นอีกครั้งก็ได้นิ” ท่านบอกว่า “เกาะภูเก็ตเลี้ยงปากท้องเรามาตั้งแต่ยังไม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังจนโด่งดัง และถึงตอนนี้ที่กลับไปเป็นเหมือนสมัยก่อนที่ยังไม่มีอะไร เค้าก็ยังไม่ทิ้งเรา แล้วทำไมเราถึงไม่เดินกลับไปพร้อมเค้า ไปเป็นเหมือนตอนนั้นหล่ะ กลับไปหาเช้ากินค่ำ กลับไปปลูกผัก หาปู หาปลาเหมือนเดิม ใช้เท่าที่จำเป็น หนี้สินที่มีเมื่อเราประคองไม่ได้ก็แค่ปล่อยไป สักวันเราก็จะกลับมาสร้างได้อีกครั้ง เหมือนที่เคยทำได้มาแล้วครั้งหนึ่ง” ทั้งยังพูดต่อว่า “ทุกอย่างไม่ยากเท่าใจเรา ก็แค่ต้องรู้จักปล่อยวางไม่คิดว่านี่ของเรา นั่นของเรา ไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเรากับใคร ไม่ต้องสนใจว่าใครจะมองเราอย่างไร การที่คนเราเดินกลับหลังอาจไม่ใช่สิ่งที่ควรทำนัก แต่ในบางครั้งถ้าทางที่เดินมันตัน ก็แค่กลับไปเดินใหม่ อาจจะช้าแต่เราก็ยังอยู่ คนข้างกายเราก็ยังพร้อมจะเดิน และเป็นกำลังใจให้เรา ต่อให้ต้องเดินกลับไปอีกกี่ครั้ง เราก็ยังกลับมาได้ใหม่ทุกครั้ง ถ้าเรายังมีชีวิตและลมหายใจอยู่” ณ ตอนนั้นก็กลับมาคิดว่าที่ทำทุกอย่างเพื่ออะไร เพื่อใคร พอคิดได้ก็พยายามทำอย่างที่พ่อบอก ซึ่งวันนี้ยังอาจทำได้ไม่ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็สบายใจ และมีความสุขมากขึ้น พร้อมรับทุกสถานการณ์หลังจากนี้และต่อไป ทั้งนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอปัญหาเดียวกันนี้นะคะ ถ้าเรายังอยู่แค่นั้นก็ดีที่สุดแล้วสำหรับชีวิตเรา และคนที่เรารัก ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน