“เบอร์อามัส” ว่าวทอง มลายู แห่งวังสายบุรี“หากว่าฉันตายไป ว่าวเบอร์อามัส ฉันยังอยู่ ไม่เป็นไรแต่ถ้าไม่มีคนมาสืบทอด ภูมิปัญญา ก็จะหายไป ฉันเสียใจ” ช่าวทำว่าว กล่าวป้ายหน้าบ้านสองป้ายเห็นแล้วต้องอึ้ง คือชื่อของพ่อลูก ที่ทางศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศมอบให้ เพื่อเชิดชูคุณพ่อ แวฮามิ วานิ เป็นครูศิลป์ของแผ่นดิน และลูกชาย ไวโรจน์ วานิ เป็นทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี ๒๕๖๐ ประเภทงานเครื่องกระดาษ (ว่าวเบอร์อามัส)ความรู้สึกฉันตอนนี้ คือภาคภูมิใจและอยากรู้ว่าวที่ชื่อ “เบอร์อามัส” มีที่มาที่ไปอย่างไรทายาทผู้สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นเล่าว่า “ว่าวเบอร์อามัส” หรือที่รู้จักในนาม “ว่าวทองแห่งมลายู” เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมายาวนาน เป็นเอกลักษณ์ของชาวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ดินแดนแห่งมลายูในยุคของ ๗ หัวเมืองใต้ ในอดีตหลังฤดูเก็บเกี่ยว เจ้าเมืองมลายูแต่ละหัวเมือง จะมีพิธีกรรมขึ้นว่าวเบอร์มะห์ (Bermah) หรือเบอร์อามัน (Beramas) หรือในภาษามลายูกลางเรียกว่า “ว่าวเบอร์อือมัส” (Beremas) เมื่อขึ้นว่าวเบอร์อามัสแล้ว ราษฎรจึงจะเล่นว่าวได้ และก่อนที่เจ้าเมืองจะขึ้นว่าวเบอร์อามัสนั้น เจ้าเมืองต้องทำพิธีปิดทองที่หัวว่าวก่อน จึงเป็นที่มาของว่าวเบอร์อามัส เพราะคำว่า “อามัส” หรือ อือมัส แปลว่า “ทอง” นั่นเองการขึ้นว่าวเบอร์อามัสมีเป้าประสงค์สำหรับทำนายหรือพยากรณ์ ดิน ฟ้า อากาศ สำหรับการทำนา หรือการเกษตรอื่นๆ ในปีหน้าว่าจะเป็นเช่นไร ผู้รู้จะทำหน้าที่ทำนายโดยสังเกตจากสายลม นำข้อมูลที่ได้จากการทำนายมากำหนดตารางการทำนา ว่าควรปักดำหรือไถในเวลาไหนจึงเหมาะสมที่สุดผู้ที่จะสร้างสรรค์ว่าวเบอร์อามัสได้นั้นต้องเป็นผู้มีทักษะความชำนาญมากกว่าว่าวชนิดอื่นๆ เพราะต้องใช้ไม้ไผ่ขึ้นโครงมากถึง ๒๐–๒๙ ซี่ ส่วนรูปลวดลายในว่าวนั้นจะใช้พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นใบพลู ใบไม้สีทอง ดอกชบา เป็นต้นโต๊ะแว ครูศิลป์ของแผ่นดินแวฮามิ วามิ สืบทอดการทำว่าวจากช่างหลวงสายบุรี เขาชำนาญการขึ้นโครงร่างว่าวตามแบบดั้งเดิม และปัจจุบันเหลือเพียงครอบครัวเดียวที่ยังคงสืบสานการทำว่ายทองมลายู“เราต้องหวงแหน รักษาภูมิปัญญานี้ให้ลูกหลาย ไม่ให้เหลือเพียงแค่นาม แต่กลับไม่ได้สัมผัสและเห็นรูปร่างที่แท้จริงของว่าวเบอร์อามัสแห่งวังสายบุรี”การได้รับรางวัลครูศิลป์แห่งแผ่นดินเป็นความภูมิใจอย่างที่สุดที่สามารถสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ “เรียกได้ว่าเป็นว่าวต้นตำรับเลยก็ว่าได้” และยังเคยได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันว่าวสยามมนต์เสน่ห์ชายแดนใต้ จังหวัดยะลา 3 ปีซ้อน“มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราทำในทุ่งนา มันก็จบในทุ่งนา แต่สำหรับผมนั้น ว่าวเบอร์อามัสจะต้องมีคนรู้จักอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่แค่ในทุ่งนาสายบุรี” ไวโรจน์ วานิ บอกกับเราปรัชญาในภูมิปัญญาโครงที่เข้มแข็งกับลายที่อ่อนโยนและอ่อนช้อยแนวคิดปรัชญาของศาสนาและหลักการดำเนินชีวิตเป็นสิ่งเพิ่มคุณค่าให้แก่ว่าวเบอร์อามัสในการสร้างสรรค์ว่าวจะต้องมีจุดศูนย์กลาง – หมายถึงมนุษย์ทุกคนมีที่มาจากที่เดียวกัน แหล่งกำเนิดเดียวกันทุกๆ ลายของว่าวต้องมีกรอบ – เปรียบเสมือนกรอบของศาสนา กรอบการใช้ชีวิตที่ถูกต้องใบไม้ในลายว่าวเป็นใบไม้ชนิดเดียวกัน แต่ทรงไม่เหมือนกัน – สื่อถึงมนุษย์สร้างขึ้นมีความแตกต่าง แต่ไม่เบียดเบียนกัน และมีความเคารพในความต่างซึ่งกันและกันใบไม้ทุกใบจะไม่ทิ่มแทงกัน – สื่อถึงมนุษย์ไม่ควรเป็นศัตรูกัน ไม่ทำร้ายกันว่าวเบอร์อามัสจึงเป็นว่าวที่แฝงหลักปรัชญา ที่หากไม่ศึกษาอย่างถ่องแท้ก็อาจไม่รู้ ก่อนหน้านี้เรามองแค่ความสวยงามของว่าว หารู้ไม่ว่าแฝงความหมายปรัชญาการดำเนินชีวิตให้มนุษย์ได้ยึดถือปฏิบัติเป็นปกติสุขในสังคมที่มีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ และวัฒนธรรม ผ่านไม้ไผ่กับกระดาษ“ลวดลายที่ปรากฏบนว่าวคือความละเอียดอ่อนความละเมียดละไม ใส่ใจทุกรายละเอียด บรรจงแกะกระดาษสี ทีละชั้นๆ ใช้สมาธิบวกกับเทคนิคพิเศษ ความชำนาญการของช่างผ่านการฝึกฝน และสั่งสมประสบการณ์ที่ยาวนาน”