ความฮือฮาของผู้คนในคืนลอยกระทงที่ผ่านมาริมสายน้ำปัตตานี ที่ไหลผ่านผ่าใจกลางเมืองบริเวณหอนาฬิกาสามวัฒนธรรม เชิงสะพานศักดิ์เสนีย์ กับกระทงที่ส่งเข้าประกวดกระทงประเภทความคิดสร้างสรรค์ ของผู้ส่งเข้าประกวดรายหนึ่งจากหน่วยงานหนึ่ง ที่ผู้คนต่างทึ่งในความคิดการออกแบบการประดิษฐ์-และการทิ้งโจทย์ให้ใคร่ถามหาคำตอบ ไหง-ต้องฮือฮากันล่ะเนี่ย! ขอเผยความจริงให้ทราบว่า ก็เพราะมีกระทงของโรงเรียนเทศบาล 3 บ้านปากน้ำ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี ที่ส่งเข้าประกวดมีรูปลักษณ์ร่วมสมัยเข้ากับเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นสะท้อนจิตสำนึกด้านการให้ความตระหนักในมิติ “การทิ้งขยะให้เกลื่อนกลาดของความมักง่ายของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์นั่นเอง” จนเกิดเรื่องราวหนึ่งที่ “พะยูน” จากน่านน้ำทะเลฝั่งอันดามัน ต้องสังเวยชีวิตเพราะไปกินเศษขยะ เศษพลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่ทะเล เอาล่ะ ความฮือฮาของกระทงรูปลักษณ์ที่เรียกว่ากู๊ดไอเดียร์เช่นนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ผู้เขียนจึงตามหาเจ้าของไอเดียร์นี้ จนทราบมาว่า ผู้ที่คิดค้นและประดิษฐ์คือ ครูชนม์ชัย แซ่ลิ่ม เป็นครูชำนาญการพิเศษ จากโรงเรียนเทศบาล 3 บ้านปากน้ำ ที่มีดีกรีของการเป็นครูสอนวิชาศิลปะ และเคยมีผลงานสร้างสรรค์งานด้านศิลปะแขนงนี้ ด้วยการันตีรางวัลมาหลายรายการมาแล้ว ครูชนม์ชัย แซ่ลิ่ม : เจ้าของไอเดียร์กระทงสุสานมาเรียม&ยามิล ทำไมเกิดไอเดียร์นี้ นี่คือคำถามแรกที่ผู้เขียนยิงคำถามต่อครูชนม์ชัย “กระทงที่ทำมานี้ เกิดขึ้นจากแรงคำถามและการพูดคุยของเด็กนักเรียนที่สอน ว่าพวกเขาเคยบอกว่าสงสารปลาพะยูน ที่ตายเมื่อวันก่อนที่ดูจากข่าวในโทรทัศน์และจากสื่ออื่น ๆ พวกเขาตั้งคำถามว่า พะยูนเป็นปลาหรือ ทำไมหน้าตาไม่เหมือนปลาล่ะครู” นี่คือคำตอบเปิดประเด็นของการปิ้งไอเดียร์ของครูชนม์ชัย หรือที่พวกพวกเพื่อนฝูงเรียกชื่อเล่นว่า “ครูช้าง” “พี่ครับ หลังจากนั้นผมก็อธิบายข้อสงสัยของนักเรียนว่าพะยูน ไม่ได้เป็นปลาอย่างที่เราเข้าใจน่ะ พะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีชีวิตอยู่ในท้องทะเล” ครูช้างขยายผลคำถามต่อผู้เขียน ครูชนม์ชัยฯ กับกระทงต้นคิด จากนั้นนักเรียนเริ่มรุกคำถามให้ครูชนม์ชัย “แล้วทำไมพะยูนจึงกินพวกพลาสติกจนตายล่ะครู” เรื่องราวในบทเรียนเพื่อจุดประกายสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรื่องของปัญหาขยะล้นเมือง ขยะทำลายระบบนิเวศน์จึงถูกครูช้างนำมาโยงใยในบูรณาการการสอน การอภิปรายกลุ่มให้กับบรรดาศิษย์ของตนเอง เพื่อให้เห็นความสำคัญ ความตระหนักในการร่วมรักษ์สิ่งแวดล้อม จนเชื่อมโยงไปสู่การเก็บขยะ หรือวัสดุพลาสติกมาเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นประโยชน์ และนี่คือเป็นต้นคิดที่มาสู่การประดิษฐ์กระทงจากวัสดุขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นจากห้องเรียน มาขยายผลเพื่อส่งเข้าประกวดกระทงประเภทความคิดสร้างสรรค์ในครั้งนี้ และใช้ชื่อกระทงว่า “สุสานรัก มาเรียม & ยามิล” เพียงเพื่อรำลึกถึงสองพะยูนที่สังเวยชีวิตจากน้ำมือมนุษย์ใจบาปนั่นเอง กระทงที่ผู้คนฮือฮาในคืนลอยกระทง “สงสารมาเรียมและยามิลน่ะคะที่ต้องมาตาย” เด็กน้อยคนหนึ่งที่เกาะกุมมือแม่ยืนดูกระทงเอ่ยขึ้นท่ามแสงจันทร์ทอระจ่างพร่างเหนือฟ้าปัตตานี นี่คือที่มาของความฮือฮาในคืนเพ็ญวันลอยกระทง ริมสายน้ำใจกลางเมืองปัตตานีคืนนั้น! Anusorn Ninuan – เรื่อง-ภาพ