เดือนธรรมแห่งรอมฎอน เป็นเดือนที่ถูกระบุตามฮิจเราะห์ศักราชของชาวมุสลิม ซึ่งปี 2563 ตามปฏิทินพุทธศักราช ก็ตรงกับฮิจเราะห์ศักราชที่ 1441 ของอิสลาม เดือนรอมฎอนจึงถือเป็นเดือนหนึ่งที่ชาวมุสลิมจะถูกบัญญัติไว้ว่าต้องมีการบำเพ็ญธรรมคือการถือศีลอด นั่นหมายถึงการงดอาหาร ดื่มและเพียรปฏิบัติจริยวัตร งดอาหารตั้งแต่ห้วงช่วงก่อนอรุณรุ่งจนกระทั่งถึงราว 18.30 น.ของทุกๆวัน ร่วม 1 เดือน ตลาดรอมฎอนกลางเมืองปัตตานี: ภาพโดย ผู้เขียน การถือศีลอด จึงจำต้องได้รับอาหารในช่วงที่ละศีลอด(หรือการเปิดบวช) ด้วยอาหารที่มีคุณภาพอาหารที่สามารถบำรุงร่างกายได้ ซึ่งประดาแม่บ้านก็มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารค่อนข้างจะเป็นพิเศษในเดือนนี้ นอกจากบรรดาแม่บ้านจะปรุงเองแล้ว ในเดือนนี้จะมีตลาดจำหน่ายอาหารเกิดขึ้นมาอย่างคึกคักในทุกช่วงของเดือนรอมฎอน เพื่อบริการแก่ผู้ที่จับจ่ายซื้อหา สำหรับปีนี้ดูเหมือนว่าตลาดอาหารรอมฎอนค่อนข้างที่จะไม่ค่อยคึกคักเหมือนปีผ่านๆมา ด้วยเพราะอยู่ในห้วงเกิดวิกฤติเชื้อโรคร้ายแพร่กระจายของโควิดไนน์ทีน ที่ถาโถมมาบนโลกใบนี้ และไม่เว้นแม้แต่ ตลาดอาหารรอมฎอนของเมืองปัตตานี ที่ผู้เขียนจะขอมีภาพบรรยากาศมานำเสนอต่อจากนี้ ย่านซื้อขายอาหารเดือนรอมฎอนของปัตตานี : ภาพโดย ผู้เขียน จั่วหัวเรื่องไว้ว่า 3 ตลาดอาหาร “รอมฎอน” ใจกลางเมืองปัตตานี ท่ามเกราะป้องกันเข้มโควิดไนน์ทีน จะขอนำมายังตลาดอาหารหลักๆ ของเมืองที่มีการจำหน่ายอาหารของคาวของหวานจากประดาพ่อค้าแม่ขาย ซึ่งเป็นตลาดที่เริ่มเปิดจำหน่ายตั้งแต่ช่วงยามบ่ายไปจนกระทั่งราว 18.30น.ของทุกวัน ตลาดแรก-คือตลาดย่านตลาดสดของเทศบาลเมืองปัตตานี ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับมัสยิดกลางปัตตานี ในตลาดแห่งนี้จะมีการการจัดปรับกางเต็นท์เป็นระเบียบเรียบร้อย เว้นระยะห่างตามหลักการป้องกันโรคระบาด มีการตรวจวัดอุณหภูมิ การบริการการล้างมือ แก่ผู้มาจับจ่ายอย่างเข้มข้นเข้มงวด บรรดาพ่อค้าแม่ขายส่วนใหญ่จะเป็นแม่ค้าที่เคยขายประจำในทุกปีของช่วงรอมฎอนที่บริเวณตลาดรอมฎอน “ย่านจะบังติกอ” ที่มาปีนี้งดใช้บริการพื้นที่ส่วนนั้น ด้วยเพราะมีความคับแคบ การจับจ่ายไม่ค่อยสะดวก และอาจแออัดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคได้ง่าย ด้านหน้าตลาดสดเยื้องตรงข้ามมัสยิดกลางปัตตานี : ภาพโดย ผู้เขียน เจ้าหน้าที่คอยให้ความสะดวกแก่ผู้มาจับ่จ่ายตลาด : ภาพโดย ผู้เขียน ตรวจวัดอุณภูมิก่อนเข้าไปยังตลาด : ภาพโดย ผู้เขียน ผู้มาจับจ่ายตลาดต้องล้างมือชำระทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนเข้าตลาด : ภาพโดย ผู้เขียน โรตีแผ่นอาหารยอดฮิต แผ่นละ 10 บาท : ภาพโดย ผู้เขียน ขนมไข่เต่าชุดละ 20 บาท : ภาพโดย ผู้เขียน ไก่หมุนเจ้าอร่อย : ภาพโดย ผู้เขียน บรรดาแกงอาหารตำรับพื้นถิ่นที่หลากหลาย : ภาพโดย ผู้เขียน ตลาดถัดมา ตลาดแหล่งที่ 2 คือตลาดย่านโต้รุ่ง ซึ่งเป็นตลาดประจำของเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ปกติตลาดแห่งนี้ก็จะมีแม่ค้าเจ้าประจำอยู่แล้ว มาปีนี้ช่วงเดือนรอมฎอน ตลาดแห่งนี้ก็จะคึกคักกว่าปีผ่านๆมา อีกอย่างบรรดาพ่อค้าแม่ขายก็จะมีการจำหน่ายอาหารหวานคาวเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ ทางเทศบาลเมืองปัตตานี ก็ได้จัดระเบียบการเข้าใช้บริการตลาดด้วยการมีเจ้าหน้าที่ คอยตรวจวัดอุณหภูมิ มีบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ มีการกำหนดทางเข้าออกอย่างชัดเจน ทั้งบรรดาแม่ค้าและผู้จับจ่ายต่างก็ให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัยกันทุกคน แกงรสชาติจัดจ้าน : ภาพโดย ผู้เขียน กะซงกับขนมหวานหลากหลาย : ภาพโดย ผู้เขียน ปลาฆอและ : ภาพโดย ผู้เขียน ป้ายไวนิลกับมาตรการของผู้บริการและผู้บริโภค โดยสำนักงานเทศบาลเมืองปัตตานี : ภาพโดย ผู้เขียน ตลาดต่อมาตลาดที่ 3 คือตลาดรอมฎอนย่านถนนสายปากน้ำ ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนสายปากน้ำเส้นทางจะไปสนามกีฬากลางเส้นทางจะไปริมทะเลรูสะมิแล ก็จะมีตลาดกลางเต็นท์ขายบนฟุตบาทมีการจัดระเบียบเรียบร้อย เว้นระยะห่างตามหลักการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ได้เช่นกัน ตลาดแห่งนี้ปีนี้ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะเงียบเหงาบ้าง เพราะอยู่ห่างจากใจกลางเมือง แต่เท่าที่สอบถามกับบรรดาแม่ค้าก็บอกว่า ขายดี ไม่ว่าจะเป็น โรตี มะตะบะ แกง ไก่ย่าง ไก่หมุน ปลาย่าง น้ำอ้อย หรือน้ำหวานหลากหลายรวมทั้งผลอินทผลัม ซึ่งเป็นผลไม้ที่มาจากแถบถิ่นทะเลทรายตะวันออกกลาง เป็นผลไม้ที่นิยมกินกันในช่วงเดืนรอมฎอนและถือว่าเป็นผลไม้ที่มีชื่อมาตั้งแต่ครั้งสมัยศาสดาบริโภคทุกครั้งกับการละศีลอดของท่าน ซึ่งอินทผลัมจะถือเป็นผลไม้ที่ขายดีเป็นอันดับ1 ในทุกๆเดือนรอมฎอน มะตะบะ อีกหนึ่งอาหารพื้นถิ่นที่คนชื่นชอบ : ภาพโดย ผู้เขียน โรตีแผ่นใส่ไข่ใส่กล้วย : ภาพโดย ผู้เขียน ข้าวยำอาหารต้นตำรับดั้งเดิมเจ้าอร่อย : ภาพโดย ผู้เขียน นี่คือ สามตลาดอาหารรอมฎอนของเมืองปัตตานี ที่จำหน่ายอาหารของหวานของคาวเพื่อบริการแก่บรรดาพ่อบ้านแม่บ้านที่มาจับจ่ายทุกวันในเดือนรอมฎอน เป็นภาพที่คุ้นชินในห้วงนี้ การถือศีลอดของชาวมุสลิมได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ วันที่ 24 เมษายน2563 และจะไปครบรอบหนึ่งเดือนก็ราววันที่ 23-24 พฤษภาคม 2563 ก็จะเป็นการหมดสิ้นการถือศีลอดในปีนี้ และจะมีการเฉลิมฉลองวันตรุษอิฎิลฟิตรีย์(หรือวันฮารีรายอ) กันต่อไป แดดร่มลมตก ของทุกวันลองตะลอนเลียบเลาะตลาดอาหารรอมฎอน 3 ตลาดของเมืองปัตตานี แล้วรับรองว่าจะพบกับอาหารพื้นถิ่นที่หลากหลายเมนูแปลกๆให้ชื่นชิมลิ้มลอง อย่างมากมายเลยทีเดียวเชียวน่ะ! อนุสรณ์ นินวน/เรื่อง-ภาพ-รายงานจากปัตตานี