เมนูที่ทำจากพืชผักสมุนไพรข้างบ้านเป็นอะไรที่สบายกระเป๋ามาก ๆ แถมปลอดสารพิษด้วยและในวันนี้เราจะมาดูวิธีการนำ หัวครก (ยาร่วง) หรือมะม่วงหิมพานต์ มาใช้ในการรับประทาน ตามมาดูกันได้เลยนะคะทุกคน Let go! หัวครก (ยาร่วง) หรือมะม่วงหิมพานต์ ค่อนข้างมีหลากหลายชื่อเรียกตามพื้นถิ่นนั้น ๆ นอกจากจะมีหลายชื่อแล้วคุณประโยชน์ของหัวครกก็มีมากมายเช่นกันนะคะ สามารถนำมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ แต่ก็แอบแฝงอันตรายเล็กน้อย ฉะนั้นต้องพิถีพิถันในการทำ 1.ขั้นแรกต้องไปหาวัตถุดิบกันก่อน (เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ต้นกับใบเราจะเรียกว่ายาร่วง ส่วนผลจะเรียกว่าลูกหัวครกนะคะ) เจอต้นยาร่วงแล้วให้สังเกตว่ามีลูกหัวครกที่พอจะนำไปประกอบอาหารได้หรือไม่โดยเลือกแบบที่กำลังจะสุกพอดี ๆ อาจจะเอาลูกหัวครกที่อ่อน ๆ อยู่มาด้วยประมาณ 1-2 ลูก เพื่อใช้ช่วยดึงรสชาติของเมนูให้เข้มข้นยิ่งขึ้น อาจจะทำให้มีรสชาติที่ฝาดอยู่บ้างแต่รับรองว่าอร่อยเด็ดอย่างมีเอกลักษณ์ 2. ขั้นตอนเคล็ดลับการทำลูกหัวครก ส่วนที่เป็นผลให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วนำไปล้างด้วยน้ำส้มสายชู เพื่อกำจัดยางของผลออก ส่วนตัวเม็ดบนหัวโม่งให้ผ่าออกมาด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะยางตรงเปลือกนี้เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ถ้าสัมผัสโดนร่างกายจะทำให้เกิดอาการพุพองได้ ทางที่ดีควรจุมมือลงในน้ำส้มสายชูก่อนการทำนะคะหรือจะสวมใส่ถุงมือก็ได้ แล้วแกะเอาส่วนที่เป็นเม็ดสีขาวออกมา ล้างน้ำให้สะอาด 3. สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายชนิดทั้งเม็ดและผล ตามความชอบส่วนบุคคล โดยส่วนของเม็ดนั้นส่วนตัวทางเรานำมาใส่ในต้มส้มไก่เพื่อเพิ่มความมันและช่วยให้มีรสชาติที่กลมกล่อมขึ้น ส่วนผลนำมาแกงส้มกับปลาสะลาแย มันช่วยชูรสชาติแกงส้มได้อย่างดีเลยล่ะคะ เนื้อไม่เละ ดับคาวได้ดีอีกด้วย คุณประโยชน์ของหัวครก (ยาร่วง) หรือมะม่วงหิมพานต์ มีมากมายหลายประการ เช่น ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย มีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีสูง ช่วยขับสารพิษในร่างกาย หากรับประทานบ่อย ๆ จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เป็นต้น ภาพประกอบบทความโดย : @เพียงความ_ว่างเปล่า (ผู้เขียน)