สวัสดีคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่านค่ะ นางสาวปลาตีนเชื่อว่า คุณผู้อ่านส่วนใหญ่ต้องชื่นชอบการรับประทานผลไม้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้นำเข้า หรือผลไม้พื้นบ้าน ล้วนมีคุณประโยชน์ทั้งสิ้น ถ้าพูดถึงผลไม้ที่มีชื่อประหลาด พอ ๆ กับรูปร่างหน้าตาของมัน คนส่วนใหญ่ต้องร้อง “ยี้” แน่ ๆ แต่หารู้ไม่ว่า นั้นคือสุดยอดของดี เป็นผลไม้พื้นบ้านที่หากินยาก ใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าเจ้าผลไม้หน้าตาประหลาดเป็นอย่างไร ขอเชิญทุกท่านมาร่วมอ่านบทความตอน มากินลูกคางคก กับเราไหม วันนี้ฉันมีนัดกับเพื่อน ๆ ไปกินส้มตำในหมู่บ้านเชิงเขา ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นร้านของพี่สาวเพื่อน เมื่อไปถึงพบว่าร้านส้มตำมีโต๊ะรับประทานอาหาร 1 โต๊ะใหญ่ สำหรับนั่งได้ 6 คน บรรยากาศร้านเป็นแบบบ้านสวน มีพืชผักสวนครัว และต้นไม้ต่าง ๆ ล้อมรอบ คนส่วนใหญ่นิยมซื้อกลับไปกินที่บ้าน พวกเราสั่งส้มตำปูม้า ลาบไก่ ยำทะเล มากิน พอกินอิ่มเรียบร้อย ด้วยความที่ฉันเป็นคนชอบต้นไม้อยู่แล้ว จึงเดินสำรวจรอบ ๆ ร้าน ดูพืชผัก ตามแปลงต่าง ๆ จนเดินไปลึกเกือบถึงหลังร้าน ฉันร้องกรี๊ดด้วยความดีใจเลย เพราะฉันไปเจอต้นคางคก หรือมะขามคางคก ต้นคางคก มีชื่อวิทยาศาสตร์ Cynometra cauliflora L. เป็นไม้ในวงศ์ Leguminosae มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า นำนำ มะเปรียง บูรานัม ลูกอาย ลูกอัมพวา หล่ำหล่ำ มังคะ แต่คนภาคใต้นิยมเรียกว่า ลูกคางคก เป็นพันธุ์ไม้หายาก ใกล้สูญพันธ์ มีปลูกมากแถบบริเวณประเทศมาเลเซีย จนถึงภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา และพัทลุง ลำต้น เป็นไม้พุ่ม ไม่สูงมากนัก เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลออกเทา ๆ ใบ มีลักษณะเป็นรูปไข่ เป็นใบคู่แยกออกกันคล้ายปีกของผีเสื้อ ดอก ออกเป็นช่อมีสีขาวอมชมพู ผล มีรูปร่างคล้ายไต ลักษณะแบน ผิวขรุขระคล้ายลูกคางคก เมื่อผิวของผลเป็นสีน้ำตาลออกเหลือง ๆ หน่อย สามารถเก็บผลมารับประทานได้ โดยจะออกผลเป็นกระจุกบริเวณลำต้นคล้ายต้นตะลิงปลิง รสชาติหวานอมเปรี้ยวอร่อยมาก ๆ ค่ะ สรรพคุณแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน ส่วนเปลือกของต้นแก้โรคมะเร็งได้ ปัจจุบันลูกคางคกหารับประทานได้ยากแล้วค่ะ เนื่องจากคนนิยมปลูกไม้เศรษฐกิจ อย่างทุเรียน ลองกอง และมังคุดแทน ฉันจึงขอเม็ดคางคกจากร้านส้มตำไปปลูกเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ต่อไป เรื่องและภาพโดย......นางสาวปลาตีน