นั่งรถไฟชั้น 3 ยะลา-นราธิวาส ก่อนอื่นขอแนะนำก่อนว่าเราอยู่ปัตตานี เคยนั่งรถไฟไปเที่ยวต่างจังหวัดอยู่บ้างแต่จะเป็นการนั่งรถไฟเดินทางระยะไกล เช่น หาดใหญ่ –กรุงเทพ ยะลา-บ้านโป่ง กรุงเทพ-เชียงใหม่ เป็นต้น การเดินทางด้วยรถไฟในจังหวัดใกล้เคียงนั้นยังไม่เคยใช้บริการ เลยขอใช้เวลาช่วงวันหยุดใช้วิถีสโลไลฟ์กันบ้าง เริ่มจากนั่งรถเมล์จากปัตตานีมาลงสถานีรถไฟยะลา เพื่อไปนราธิวาส เรียกได้ว่าเป็นทริป 3 จังหวัดเลยก็ว่าได้ ไม่ได้นั่งรถเมล์นานบรรยากาศยังคงเหมือนเดิมกับรถคันเก่า ๆ คันเดิม นั่งมองวิวข้างทาง ทั้งต้นไม้ ภูเขาระหว่างทางก็สบายใจดี ลืมบอกไปว่าเราขึ้นรถเมล์จากปัตตานีไปยะลาประมาณ 9 โมง ถึงยะลาเวลา 10.40น. คลาดเวลารถไฟออกไปแค่ 10 นาที รอบถัดไปคือ 13.40น. เราก็ซื้อตั๋วรอบถัดไปเป็นที่เรียบร้อย ระหว่างนั่งรอเวลารถไฟมา เรากับน้องก็ไปหาอะไรกินใกล้สถานีรถไฟ และเดินดูของแบบชิว ๆ เพราะเรามีเวลาอีกพอสมควร สถานีรถไฟยะลาถือเป็นสถานีที่ใหญ่พอสมควร มีร้านขายของมากมายบนสถานี ตรงข้ามสถานีจะเป็นตึกสายรุ้ง ซึ่งเป็นไฮท์ไลท์ของการมาเยือนเมืองยะลาเลยก็ว่าได้ ทริปนี้ไปกันสองคนพี่น้อง น้องสาวที่หลงใหลวิถีการเที่ยวธรรมดา ๆ และรักความเป็นธรรมชาติแบบนี้ ทริปนี้จริง ๆ คือการไปเยี่ยมน้องสาวอีกคนที่อยู่ศรีสาคร (อำเภอหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส) ซึ่งน้องบอกให้ลงสถานีละโละ ราคาตั๋ว 9 บาท เนื่องจากคิดว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะถึงปลายทาง เลยพกหนังสือมาอ่านเล่นบนรถไฟเพื่อฆ่าเวลา และเนื่องจากทริปนี้เป็นทริปกะทันหันเราจึงไม่ได้เตรียมการอะไรมาก มาถึงก็เปิดกูเกิลดูว่าระยะทางกี่สถานี ถึงจะถึงสถานีปลายทางของเราและพยายามดูป้ายตลอดเวลา ครั้งแรกมันก็จะแอบตื่นเต้นกลัวเลยบ้างแหละ ผู้โดยสารด้วยรถไฟส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนในพื้นที่ ไม่ค่อยมีคนที่มาเที่ยวแบบเราหรอก ถึงแม้ว่าการโดยสารทางรถไฟจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะเนื่องจากต้องใช้เวลานานกว่าจะถึง แต่สำหรับคนชนบทที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเร่งรีบอย่างคนเมืองก็ไม่ได้เป็นการกระทบการใช้ชีวิตของพวกเขามากนัก กลับกันมันเป็นเหมือนวิถีชีวิตของพวกเขาไปแล้ว การเดินทางโดยรถไฟนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างถูก และบางคนก็ไม่ได้มีรถส่วนตัวที่จะเดินทางกันทั้งครอบครัวได้ รถไฟจึงเป็นยานพาหนะที่ดีที่สุดที่เขาเลือก ระหว่างการนั่งรถไฟเราก็นั่งมองผู้คนและคิดอะไรต่าง ๆ นานา เราตื่นเต้นกับทุกอย่าง กับความธรรมดา เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่ที่เราคุ้นเคยเราก็ว่ามันพิเศษแล้ว เมื่อถึงสถานี “ลาโละ” มองเห็นภูเขาเขียวสวยมาแต่ไกล ชอบมาก นราธิวาสจะมีความเป็นป่า ต้นไม้ภูเขาจะมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับปัตตานี และยะลา ว่าแล้วก็รีบลงจากรถไฟเพราะมีน้องสาวมารอรับ และแน่นอนเรานอนบ้านน้องสาวที่ศรีสาคร 2 คืน จริง ๆ ก็ไม่ได้ไปไหนมากหรอกแค่ขับรถเล่นในสวนยาง ช่วงที่ไปเป็นช่วงใบไม้ผลัดใบ ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยสวนยางพารา ต้นยางที่ไม่มีใบสวยงามมาก ตลอดทางเข้าหมู่บ้านไม่อาจละสายตาได้ วันแรกที่มาถึงไม่ได้ไปเที่ยวไหนเพราะฝนตกพักผ่อนนอนเติมพลังเพราะพรุ่งนี้เราจะต้องออกไปเที่ยว ทริปนี้ไม่ได้วางแผนมาถึงเราก็เสริชหาสถานที่เที่ยวใกล้กับโลเคชั่นที่เราอยู่ ที่น่าสนใจเราก็จดไว้ วันที่สองเช้าวันใหม่นอนเต็มอิ่ม แต่ในก็ยังตก เรายืมรถมอเตอร์ไซต์คันเก่า ๆ สองคันจากญาติเพื่อขับออกมาในเมืองรือเสาะ สถานที่แรก “บึงบัวบากง” ขับหาตาม GPS ปัจจุบันบึงบัวบากงได้รับการปรับปรุงเป็นอ่างเก็บน้ำในเนื้อที่ 150 ไร่โดยเมื่อครั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร ณ วัดทรายทองและบึงบัวอีกครั้งหนึ่ง (7-8 ตุลาคม 2537) และได้ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานปรับปรุงบึงบัวบากงเป็นอ่างเก็บน้ำ เพื่อช่วยราษฎรให้มีน้ำใช้เพาะปลูกในฤดูแล้ง และเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ดินทำกินของราษฎรในฤดูฝนใช้กรมชลประทานได้ดำเนินงาน ตามโครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บึงบัวบากง ทั้งนี้ได้ยกคันดินโดยรอบ และประตูน้ำล้น คูส่งน้ำ (ข้อมูล:ฐานข้อมูลการท่องเที่ยว 5จังหวัดชายแดนใต้ http://www.me-fi.com/tourismdb/halaltourism-imt-gt/data_detail.php?cateLv=1&cateID=21&subid=338&dataID=7635) ที่นี่มีวิวสวยงามตามธรรมชาติ มีสัตว์น้ำนานาชนิดและบัวหลวงบานสะพรั่งตลอดปี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอรือเสาะอีกแห่งหนึ่ง บึงบัวบากง อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดนราธิวาส ประมาณ 56 กิโลเมตร สถานที่ที่ 2 สวนกาญจาภิเษก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม แห่งหนึ่ง เราซื้อกล้วยทอด กือโปะทอด ลูกชิ้นปลาจากข้างทางก่อนทางเข้าสวนสารธารณะ มานั่งกินในสวนกาญจนาภิเษกนี้ เงียบสงบดีไม่ค่อยมีผู้คนเพราะเรามาช่วงเที่ยงบวกกับฝนตก ถ้ามาช่วงเย็นคนจะเยอะมาก จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองรือเสาะ หาร้านเค้กกาแฟนั่งชิว แนะนำร้านนี้เลย Monkey Mango จัดร้านได้หน้ารักมากช่วงที่ไปเป็นช่วงคริสมาสต์ ร้านก็จะประดับตกแต่งธีมคริสมาสต์ แอร์เย็นช่ำมีเมนูเค้ก บราวนี่ บิงซู อาหาร เครื่องดื่มร้อน เย็น ชอบตรงที่มีบริการลูกเกดฟรี ตักลูกเกดมานั่งกินกินได้เลย น่ารักมาก หลังจากนั้นได้เวลาอันสมควรแล้วบ่ายสามโมงเราก็ขับรถกลับที่พักเข้าสู่ศรีสาคร ระหว่างทางสะดุดกับ คลองขุดข้างทาง ดูแปลกตาสวยงามเลยแวะเก็บภาพสักหน่อยจากนั้นก็เดินทางกลับที่พัก วันนั้นทั้งวันฝนตก ๆ หยุด ๆ ทำให้ต้องแวะหยุดข้างทางหลายสถานี แต่ถือว่าสนุกดี เป็นประสบการณ์ที่ดีกับการขับมอเตอไซค์ตะลุยสวนยางในวันที่ฝนตก ได้สูดอากาศดี ๆ มองวิวธรรมชาติสวย ๆ สดชื่น กลางคืนอากาศเย็นมาก (เราไปช่วงต้นเดือนธันวาคม) น้ำที่นี่เย็นมาก เพราะเป็นน้ำจากเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขาเขียวสดใส ได้เจอผู้คนใหม่ ๆ ถือเป็นการมาพักผ่อน สบาย ๆ แบบโนแพลนที่ดีมากจริง ๆ วันที่ 3 เดินทางกลับปัตตานีด้วยรถไฟเช่นเดิม ข้อคิดของการเดินทางในครั้งนี้คือได้รู้ว่าที่ผ่านมาเราตีกรอบการเที่ยววันหยุดว่าจะต้องเป็นที่ที่มีชื่อเสียง ไกล ๆ จริงๆที่ไหน ๆ เราก็สามารถหาความสุขได้ ไปต้องไปไกล แค่เข้าใจ พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ใกล้ตัวเรา เราก็มีความสุขได้แล้ว เป็นการเที่ยวที่ลงทุนน้อยที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ปล.ภาพทุกภาพในรีวิวเป็นภาพที่ถ่ายเองทั้งหมด