สวัสดีเพื่อน ๆ นักอ่านทุกคน ในสถานะการณ์ขณะนี้ทำให้ต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน หลายคนคงหาอะไรทำแก้เบื่อเพื่อรอเวลาให้ทุกอย่างกลับสู่สถานะการณ์ปกติ นักเดินทางอย่างเราก็เช่นกัน ไม่สามารถออกเดินทางตามใจคิดได้ แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงทำได้เพียงเปิด Youtube ดูรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในใจคิดว่าหากทุกอย่างดีขึ้นเราจะได้ออกผจญภัยอีกครั้ง มารู้ตัวอีกทีก็ไม่มีอะไรจะให้ดูแล้ว แต่นั้นก็ไม่ได้หมายถึงจุดจบซะทีเดียว ด้วยความที่อยู่นิ่งไม่ได้ก็เริ่มรื้อหนังสือออกจากลังทีละเล่ม จนพบกับหนังสือที่อ่านจบไปแล้วหลายรอบแต่ก็เหมือนไม่จบ เมื่อจับหนังสือเหล่านั้นอีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนการเดินทางของเรากำลังเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับนักอ่านหลายคน จะเข้าใจสิ่งนี้เป็นอย่างดี มีหนังสือจำนวนไม่น้อยที่สามารถพาเราออกเดินทางอีกครั้ง วันนี้เราเลยอยากจะแนะนำหนังสือดี ๆ ให้เพื่อน ๆ นักอ่านได้เดินทางไปพร้อมกัน1.โตเกียวไม่มีขา (นิ้วกลม) หนังสือเล่มนี้น่าสนใจไม่น้อย แค่ชื่อหนังสือก็ต้อง "เอ๊ะ!!" แล้วละ "โตเกียวคือใคร พิการหรือเปล่า" อย่าพึ่งคิดลึกถึงขนาดนั้น หลังจากอ่านบทความนี้จบต้องรีบไปจับจองหนังสือเล่มนี้ไว้ในมือแล้วแหละ หนังสือเล่มนี้บอกเลยว่าควรค่าแก่การเปิดอ่าน เป็นแรงผลักดันให้หนุ่มๆ สาวๆ กล้าที่จะก้าวออกจากสนามหน้าบ้าน แล้วก้าวออกไปสู่โลกที่กว้างกว่า การเดินทางคือจุดเริ่มต้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในทุกๆ วันเราต้องออกเดินทางไม่มากก็น้อย ไม่ใกล้ก็ไกล เพียงแค่เราให้โอกาสกับตัวเอง เหมือนนักเขียนคนเก่งของเรา "นิ้วกลม" ที่พักปลายปากกาแล้วกระโดนขึ้นรถไฟสายโตเกียว พาเพื่อนๆ สู่โลกการผจญภัยในแบบของนิ้วกลม กับการเดินทาง 9 วันที่แสนพิเศษเหมือนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในทริปครั้งนี้ เราได้เห็นโตเกียวในอีกมุมหนึ่งที่เราอาจไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้น เรื่องราวความประทับใจได้ถูกถ่ายทอดจากปลายปากกาลงหน้าหนังสือและสร้างเรื่องราวการเดินทางในโตเกียวสู้ผู้อ่านอย่างน่าหลงไหล บอกเลยว่าสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กระหายการเดินทางก็รับหนังสือเล่มนี้ไปไว้ในอ้อมอกอ้อมใจสักเล่ม เชื่อว่าเพื่อนๆ จะไม่ผิดหวัง Reality can destroy the dream; why shouldn't the dream destroy reality? -George Moore-2.อาจารย์ในร้านคุกกี้ (นิ้วกลม) เล่มต่อไป แค่ชื่อเรื่องก็ชวนจิตนการไปถึงร้านกาแฟกับความหอมของกลิ่นคุกกี้ที่พึ่งอบเสร็จชวนให้หลงไหล สำหรับสาวๆ อย่างเราคงจะแฮปปี้สุดๆ แต่พูดแบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่าคุณผู้ชายทั้งหลายจะอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ได้นะจ๊ะ หนังสือเล่มนี้บอกเลยว่าเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยเพราะได้รวบรวมเหล่าอาจารย์ที่แสนจะมหัศจรรย์มาไว้เรียบร้อยแล้ว เคยมีคนพูดว่า "การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด" มันอาจจะจริงก็ได้ถ้าเพื่อนๆ ได้ลองอ่านหนังสือ "อาจารย์ในร้านคุกกี้" หนังสือเล่มนี้ทำให้เราเข้าใจมุมมองต่างๆ และมองเห็นโลกอีกใบที่เราไม่เคยเห็น เรียนรู้ในสิ่งที่เราเคยมองข้าม หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนชีวิตเพื่อนๆ เปลี่ยนการใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นบทเรียน นั้นอาจแปลว่าเราอาจสร้างตำราชีวิตของตัวเองขึ้นมาได้เป็นหลายพันเล่ม หรืออาจมากกว่านั้น หนังสือเล่มนี้อาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าลิ้มลอง ถ้าเพื่อนๆ ต้องการหาแรงบันดาลใจอาจจะอยู่รอบตัวก็ได้ เหมือนที่ "นิ้วกลม" ได้เปลี่ยนโลกที่หมองหม่นให้สดใสลงในหนังสือเล่มนี้โลกนี้ไม่มีปัญหาและศัตรู มีแต่ครูกับบทเรียน -อาจารย์ในร้านคุกกี้ P.21- 3. ณ (นิ้วกลม) หนังสือเล่มนี้ชื่อสั้นๆ แต่ล้านความหมาย เป็นหนังสือที่จะพาเพื่อน ๆ ไปสู้สถานที่ในความทรงจำ เชื่อว่าเพื่อน ๆ ทุกคนต้องมีความทรงจำกับสถานที่ที่เคยไปไม่มากก็น้อย สถานที่เหล่านั้นย่อมมีเรื่องราวทีเราได้สร้างขึ้นไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็ตาม ล้วนแล้วมีเรื่องราวในตัวของมันเอง หนังสือเล่มนี้ก็เช่นกัน เป็นหนังสือที่ทำให้เราได้สร้างความทรงจำดี ๆ จากสถานที่แห่งหนึ่งสู่ที่แห่งหนึ่ง "ณ" เป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ต่างๆ ที่เราได้ผ่านไปทั้งตั้งใจหรืออาจไม่ตั้งก็ตาม ซึ่งทุกสถานที่ได้บันทึกเรื่องๆ ต่างลงในความทรงจำของเรา ยิ่งสถานที่ใดมีอิทธิพลกับเรามากเราก็อาจจะจดจำมันได้อย่างแม่นยำ นักเชียนเองก็ได้ถ่ายทอดความทรงจำอันสวยงามลงในหนังสือเล่มนี้เพื่อเราได้กลับมามองสถานที่ต่างๆ เหล่านั้นให้ต่างไปจากเดิมก็ได้ เพียงเพื่อนๆ ลองหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านในสถานที่แห่งความทรงจำก็อาจทำให้หนังสือเล่มนี้สนุกขึ้นก็เป็นได้หลายครั้งสถานที่ปัจจุบันพากลับไปยังอดีต หลายครั้งที่มันพาให้คิดไปถึงนาคต -ณ-4.Eat that Frog!! กินกบตัวนั้นซะ!! (ไบรอัน เทรซี่) มาถึงตรงนี้กลับตัวก็ไม่ได้ ต้องเดินต่อไปให้ถึง นี่เป็นหนังสืออีกเล่มที่เราอยากแนะนำเพื่อน ๆ แต่เชื่อว่าหลายคนเห็นชื่อหนังสือแล้วแทบจะไม่อยากหยิบชึ้นมาอ่าน ซึ่งนั้นเป็นความคิดที่ตรงข้ามกับความเป็นจริง ยิ่งชื่อแปลกเราก็ยิ่งอยากจะหยิบมันขึ้นมาอ่านเพราะคำถามที่เกิดขึ้นในหัว "ทำไมต้องกินกบ?" หนังสือขายดีระดับโลกที่มียอดขายทะลุ 1.6 ล้านเล่ม คงไม่ได้สอนวิธีการกินกบแบบธรรมดาแน่ ๆ แล้วเราจะรอช้าอยู่ทำไม นักเดินทางอย่างเรามักตื่นเต้นกับสถานที่ใหม่ ๆ เสมอ การได้สัมผัสอะไรใหม่ก็เป็นสิ่งท้าทายอย่างหนึ่ง "กินกบตัวนั้นซะ!" เป็นหนังสือกระตุ้นต่อมอยากรู้อย่างมากจึงไม่สามารถห้ามใจไม่ให้อ่านได้จริง ๆ ไบรอัน เทรซี นักเขียนหนังสือเล่มนี้เปรียบงานยาก ๆ เหมือน "กบ" ที่หลายคนเบือนหน้าหนี โดยไม่รู้เลยว่าถ้า "กินกบ" ตัวนั้นเข้าไปหน้าที่การงานและชีวิตก็ดีขึ้นอย่างมหาศาล ยิ่งตัวใหญ่ชีวิตก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น เขาจึงแนะนำวิธีค้นหา และลงมือกินกบตัวที่ใหญ่ที่สุด เพื่อน ๆ จะได้เรียนรู้ 21 เคล็ดลับการบริหารเวลาที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าไปกินกบกันเถอะ!!กบตัวนั้นของคุณคืออะไรล่ะ รีบค้นหามันให้เจอ แล้วกินมันเข้าไปซะ!! -ไบรอัน เทรซี- 5.กาลครั้งหนึ่งสอนให้รู้ว่า (นิ้วกลม) เล่มสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด จะพาเพื่อนๆ เดินทางไปสู่โลกของนิทานที่เต็มไปด้วยข้อคิด ถ้าย้อนกลับไปตอนเด็ก ๆ นิทานก่อนนอนที่แฝงข้อคิดคงหนีไม่พ้นนิทานอีสป แต่เมื่อโตขึ้นโลกที่เราต่างเดินทางข้ามผ่านวันเวลามานั้นทุกคนล้วนแต่สร้างนิทานของตัวเองทั้งนั้น "กาลครั้งหนึ่งสอนให้รู้ว่า" เป็นนิทานกลอนที่แฝงไปด้วยข้อคิดและสัจจะธรรมของโลก เราได้เรียนรู้จากการเติบโตของตนเอง สังคม และโลกไปพร้อมๆ กัน เห็นมุมมองที่น่าอัศจรรย์ผ่านบทกลอน และรูปภาพ ทำให้เราอาจกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งก็ได้ เด็กที่ต้องการนิทานกล่อมนอน เพื่อหวังว่าจะตื่นมาพบกับโลกเป็นจริงที่ไม่โหดร้าย คงเป็นหนังสืออีกเล่มที่อยากจะเชียร์ให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกันดู...ในดินแดนมหัศจรรย์ที่มีพระเอก นางเอก ปีศาจ เวทมนต์ เกิดการต่อสู้ฟันฝ่ากระทั้งธรรมะปราบอธรรมสำเร็จ... นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่อย่าจะพาเพื่อน ๆ เดินทางไปด้วยกัน อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในสถานะการณ์ไม่สู้ดีนัก แต่สำหรับนักเดินทางแล้ว คงไม่มีอะไรมาขวางทางระหว่างท่องเที่ยวได้หรอก ไม่ว่าทางจะลำบากเพียงไร นักเดินทางอย่างเรามักเห็นสิ่งเหล่านั้นคือเรื่องตื่นเต้น เราหวังว่าหนังสือทั้ง 5 เล่มนี้จะพาเพื่อน ๆ ทุกคนเดินทางไปสู่โลกอีกด้านหนึ่งได้อย่าสมบูรณ์ แล้วเราจะกลับมาแบ่งปันหนังสือพร้อมกับเดินทางไปด้วยกันอีกอิสระ ยังมีอยู่ตลอดไป ตราบเจ้ายังบินไปไม่ถึงขอบกรง -กาลครั้งหนึ่งสอนให้รู้ว่า P.47-