“ส้มโอทับทิมสยาม” ผลไม้ประจำถิ่น อัญมณีเลื่องชื่อแห่ง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ลักษณะเด่นของเนื้อส้มโอจะมีสีทับทิม ชมพูเข้ม ถึงแดง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง แตกต่างกับส้มโอพันธุ์อื่นอย่างชัดเจน ทั้งรสชาติหวานฉ่ำและสีเนื้อผล ทำให้ปัจจุบันมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั้งใน อ.ปากพนัง แหล่งต้นกำเนิด และพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ เนื่องจาก เป็นที่ต้องการสูงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน สำหรับผลส้มโอนั้น จำหน่ายได้ในราคาสูงถึง 300-400 บาทเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนัก ทั้งยังเป็นที่นิยมในการซื้อเป็นของขวัญของฝาก นอกจากนี้เกษตรกร ยังหารายได้จากกิ่งพันธุ์ส้มโอทับทิมสยาม เนื่องจากมีการปลูกอย่างแพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย การขยายพันธุ์ของส้มโอทับทิมสยามทำได้หลายวิธี ทั้งเพาะเมล็ดและตอนกิ่งพันธุ์ แต่การตอนกิ่งพันธุ์จะเป็นวิธีที่แพร่หลายและได้รับความนิยมที่สุด เนื่องจากไม่กลายพันธุ์และรากงอกเร็ว ส้มโอทับทิมสยามเป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบให้มีน้ำขัง แต่ก็ชอบให้รดน้ำเพราะฉะนั้นจึงไม่ขุดหลุมปลูก แต่จะใช้วิธียกร่อง ระยะการเริ่มเวลาการปลูกจนเริ่มให้ผล อยู่ที่เวลาประมาณ 2-3 ปี สำหรับ 1 ผล น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1.2 - 2.2 กิโลกรัม ต้นที่สมบูรณ์มาก ๆ สามารถให้ผลผลิต ถึงเกือบ 300 ผล ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลและปัจจัยหลายอย่างร่วมด้วย ฤดูฝนเป็นฤดูที่เหมาะสมที่สุด และในเรื่องกำจัดวัชพืชก็สำคัญเนื่องจากจะทำให้เกิดการชะลอตัวของการเติบโต อีกปัจจัยคือดินและการให้ปุ๋ย เนื่องจาก อ.ปากพนัง เป็นที่ลุ่ม และเป็นพื้นที่น้ำกร่อย การขยายพันธุ์ในพื้นที่อื่น ๆ อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลให้เข้ากับสภาพกับแวดล้อมของพื้นที่นั้น ๆ ในปัจจุบัน การปลูกส้มโอทับทิมสยามเป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับเกษตรกร บางรายนั้นเป็นรายได้หลักของครอบครัว จึงมีการตั้งวิสาหกกิจชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพของผลส้มโอให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน เกษตรกรท่านไหนที่อยากประสบความสำเร็จในการปลูกเพื่อสร้างรายได้จากอัญมณีเมืองใต้ สามารถศึกษาข้อมูลและลงมือได้เลยจ้า เพราะในปัจจุบันมีการสนับสนุนและให้ความรู้มากมายจากองค์กรต่าง ๆ เช่น SME Bank หรือแม้แต่กรมพัฒพัฒนาที่ดิน นอกจากรสชาติที่อร่อยถูกปากแล้ว ส้มโอทับทิมสยามยังมีสรรพคุณ ต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากเป็นผลไม้เนื้อสีแดง รู้แบบนี้แล้ว สาว ๆ ที่อยากจะมีหน้าอ่อนเยาว์ ผิวพรรณอ่อนกว่าวัย ห้ามพลาดเลยทีเดียวค่ะ เครดิตภาพทั้งหมด : ผู้ขียน