ชายหญิงคู่หนึ่งแต่งชุดโบราณร่ายรำอย่างอ่อนช้อย มีจังหวะดนตรีที่เคาะขึ้นเองง่าย ๆ แต่การร่ายรำนั้นอ่อนช้อยราวกับว่ามีดนตรีบรรเลงเพลงอันไพเราะชวนให้ออกลีลาท่าทาง สักพักคนรำจะทำท่าทางเหมือนไม่ใช่ตัวเองและพูดน้ำเสียงแปลกไปจากเดิม แล้วทำท่าทางตึงตังและหยิบกินอาหารแปลก ๆ หรือมีพฤติกรรมผิดไปจากเดิม พิธีกรรมเช่นนี้เรียกว่า “แถน”ขอบคุณภาพจากคุณJitrudee Buntaopisวิถีชีวิตของคนอีสานยังมีความเชื่อเรื่องผีสางอยู่มาก เมื่อครั้งผู้เขียนยังเด็กน้าสาวของผู้เขียนล้มป่วย ไปหาหมอแต่ตรวจไม่พบสิ่งผิดปรกติในร่างกายแต่อย่างใด น้าสาวนอนซมอยู่เป็นเดือน ๆ ยาสมุนไพรยาต้มยาหม้อ หรืออะไรที่เขาว่าดีก็หามาให้กินจนหมดทุกอย่าง แต่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลยแม้แต่น้อยหนทางสุดท้ายคงต้องพึ่งวิธีแบบโบราณดูสักครั้ง หลายปากหลายเสียงบอกว่าต้องเอาแถนมาทำพิธี แถนในความหมายของคนที่นี่ก็คือเทวดาที่จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายหรือช่วยชี้แนวทางให้ว่าจะต้องทำยังไงคนป่วยถึงจะหายป่วยหายไข้ในครั้งนี้นั่นเองในหมู่บ้านของเราไม่มีแถน หรือคนทรงแถนจึงต้องไปตามมาจากบ้านเก่า บ้านเก่าของทางภาคอีสานหมู่บ้านที่ปู่ย่าตายายเคยอยู่มาก่อนแล้วย้ายรกรากมาตั้งหมู่บ้านใหม่ แม้จะอยู่กันมานานแต่ก็ยังไม่ลืมบ้านเก่า เพราะยังมีญาติพี่น้องที่อยู่ที่นั่นอีกมากมาย ต้องหมั่นไปมาหาสู่กันอยู่บ่อย ๆ หรือตามโอกาส และงานบุญต่าง ๆขอบคุณภาพจากคุณJitrudee Buntaopisคนทรงแถนจะมากันเป็นทีมทั้งหมด 5 คน มาถึงก็ตั้งเครื่องไหว้ทำพิธี หลัก ๆ จะมี ไข่ไก่ ข้าวสาร ข้าวตอก เหล้าขาว อาหารคาวหวานตามมีตามเกิด หลอดด้าย ชุดผู้หญิงนิยมเตรียมผ้าผืนที่ดีที่สุดเสื้อผืนที่ใหม่ที่สุด ชุดผู้ชายเป็นเสื้อกับโสร่ง และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือดอกจำปา จำปาก็คือดอกลั่นทมนั่นเอง พูดถึงดอกจำปานี่เป็นชื่อเรียกจากทางฝั่งลาว ทางอุบลฯบ้านของผู้เขียนเอง ก็เรียกจำปาเช่นกันหรือบางถิ่นเรียกดอกแถน คนไทยภาคกลางเรียกลั่นทมหรือลีลาวดีขอบคุณภาพจากhttps://pixabay.com/พิธีการของการรำแถน มักทำกันตอนหัวค่ำ ตะวันโพล้เพล้ ช่วงเวลาแบบนี้ถ้าวันไหนมีรำแถนเด็ก ๆ จะถูกสั่งให้รีบกินข้าวแต่หัววันและให้ขึ้นบ้านนอน ด้วยความกลัวว่าจะถูกลมเพลมพัด เด็กคนไหนที่อ่อนแอจะถูกผีเข้าเอาได้ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเรานี่แหละ ทำให้แอบหนีแม่ไปดูเขาทำพิธี เริ่มต้นพิธีการคือ ชาย หญิงคู่หนึ่งต้องแต่งชุดแบบคนลาวโบราณ จุดธูปแล้วไหว้เจ้าที่เจ้าทางไหว้ผีบ้านผีเรือนแล้วเริ่มร่ายรำด้วยความอ่อนช้อยงดงาม โดยมีทีมที่มาด้วยกันเคาะไม้เป็นจังหวะง่าย ๆ ร่ายรำไปเรื่อย ๆ จนแถนลงมาเข้าทรงท่าทางของคนรำและน้ำเสียงจะเปลี่ยนไปจากเดิม แล้วบอกแก่ญาติ ๆ ของคนป่วยว่าต้องทำยังไงคนป่วยถึงจะหายป่วย หรือบางทีถ้าคนป่วยคนนี้ไม่ได้ถูกผีบ้านผีเรือนหรือสิ่งลี้ลับกระทำคนทรงแถนจะเป็นคนบอกเองว่าให้พาคนป่วยไปหาหมอหรือบอกให้หายามากิน ขั้นตอนหนึ่งที่ดูเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อคือการตั้งไข่ดิบบนหลอดด้ายเล็ก ๆ เท่าหลอดกาแฟ คนทรงจะถามสิ่งที่มองไม่เห็นว่าที่เขาป่วยนี้เพราะผีทำใช่หรือไม่ ถ้าใช่ขอให้ไข่ตั้งอยู่บนนั้น ถ้าไม่ใช่ก็ขอให้ไข่ตกลงมา ขั้นตอนนี้ดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่ออยู่มาก แต่เห็นด้วยตาจึงอด ที่จะเชื่อไม่ได้ ในวันนั้นไข่ของแถนตั้งอยู่บนหลอดด้าย ตรงดิ่งไม่มีทีท่าว่าจะตกลงมาแม้แต่น้อย จึงปักใจเชื่อกันว่าน้าสาวได้ถูกผีเล่นงานเข้าให้แล้วอย่างแน่นอนพิธีนี้ไม่ใช่การขับไล่ผีสาง แต่เป็นการทรงแถนเพื่อหาแนวทางรักษาคนป่วย ถ้าหากคนป่วยไปทำผิดใจผีบ้าน ผีนา ผีปู่ ผีย่า หรือสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นลงโทษคนทรงแถนจะเป็นคนบอกว่าต้องขอขมาลาโทษอย่างไร และเมื่อทำตามที่แถนบอกแล้ว ก็จะหายป่วยไข้กลับมาเป็นใช้ชีวิตได้ปรกติ ดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อหรืองมงายไปนิด แต่เรื่องแบบนี้ถ้าไม่พบเจอหรือไม่เห็นกับตัว ผู้เขียนก็คงไม่กล้านำมาเขียนให้อ่านเช่นกันขอบคุณภาพจากคุณJitrudee Buntaopisความเชื่อเรื่องแถนนั้นเป็นความเชื่อเฉพาะท้องถิ่นนั้น ๆ ผู้เขียนไม่ได้ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าทำแบบนี้แล้วจะต้องหายป่วยหายไข้กันทุกราย แต่ด้วยความที่ไปหาหมอและกินยาก็ทำมาทุกอย่างแล้ว คนป่วยไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น วิธีนี้จึงเป็นวิธีสุดท้ายก็ต้องลองทำดูสักครั้ง ดีกว่าปล่อยให้คนป่วยนอนป่วยอยู่อย่างนั้นขอบคุณภาพจากคุณJitrudee Buntaopisขอบคุณภาพจากhttps://pixabay.com/ขอบคุณภาพปกhttps://pixabay.com/