เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ผู้เขียนเดินทางไปธุระที่กรุงเทพฯหลายวัน ลากยาวจากกรุงเทพฯต่อลงไปที่งานบุญกฐินที่พัทลุงอีก 6-7 วัน เรียกว่าเกือบทั้งเดือนที่ไม่ได้อยู่ที่เกาะ พี่ก้อยสวัสดี! เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลัง ขณะกำลังกุลีกุจอเตรียมสัมภาระ จะขึ้นจากเรือโดยสารที่นำส่งผู้โดยสารจากฝั่งกระบี่มายังเกาะพีพี ผู้เขียนหันกลับไปเพื่อสนทนากับเจ้าของเสียงนั้น “อ้าวเป็นไงสบายดีมั้ย” “ลงมาทำไม” ผู้เขียนถามสองคำถามในคราวเดียวกัน จึงได้รับคำตอบกลับมาว่ามาแข่งวอลเล่ย์บอล ผู้เขียนถึงกับงงอยู่พักใหญ่ “อะไรว่ะพี่อยู่เกาะแท้ๆ ทำไมพี่ไม่รู้เรื่อง น้องอยู่ฝั่งรู้ก่อนพี่อีก” ผู้เขียนถึงกับสบถคำออกมาไม่ค่อยเพราะเท่าใหร่ หลังจากแยกกับคู่สนทนาแล้ว ผู้เขียนแบกกระเป๋าเดินผ่านหน้าหาดซึ่งเป็นทางกลับที่พัก ก็ได้พบกับทีมงานผู้จัดแข่งขันวอลเลย์บอล “ เฮ้!น้องมาพอดีเลยพี่กำลังจะโทรหามัวแต่วุ่นอยู่หลายวัน” เสียงของเจ้จอยสตรีเหล็กเจ้าแม่แห่งวงการวอลเล่ย์บอลของเกาะพีพี ทักผู้เขียน พร้อมกับส่งเสื้อกีฬาให้หนึ่งตัว “เล่นไหวมั่ยว่ะแข่งพรุ่งนี้นะ” แกถามย้ำ ผู้เขียนตอบแบบไม่มั่นใจเท่าใหร่ว่าลองดู ทีมวอลเล่ย์บอลชายหาด ด้วยความที่ปีนี้ทั้งปีไม่ได้ซ้อมเลย จึงตอบไม่ได้เต็มปากว่าจะเล่นได้ไหม ผู้เขียนเหวี่ยงเสื้อกีฬาขึ้นบ่า แล้วก็เดินเอาของไปเก็บ ก่อนที่จะกลับมาที่สนามอีกครั้ง พึ่งมารู้ทีหลังว่าวอลเล่ย์บอลปีนี้เป็นวอลเล่ย์บอลชายหาด ในสนามใช้ผู้เล่น 4 คน ตัวสำรองอีก 2 คน ทั้งหมดทีมละ 6 คน รู้ตอนนี้ก็ถอนตัวไม่ได้แล้วเพราะบอกไปแล้วว่าจะเล่น ยังไงก็ต้องลองดู ความน่าตื่นเต้นมันอยู่ตรงที่นี่คือครั้งแรกในชีวิตของผู้เขียนเลย สำหรับวอลเล่ย์บอลชายหาด ประเภททีม 4 คน ไม่เคยเล่นมาก่อน ไม่เคยสำผัสว่าการเล่นกีฬาบนทรายมันจะเป็นยังไง วันแรกของการแข่งขัน สิ่งที่ช็อคกว่านั้นคือ นักกีฬาทีมเดียวกันกับผู้เขียนเดินทางไปธุระบนฝั่งแล้วกลับมาไม่ทัน วันนี้ทีมเราจึงมีนักกีฬาเพียง 4 คนแล้วตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้ซ้อม แถมไม่ได้ออกกำลังกายอีกด้วย แต่ก็เอาว่ะลองดูสักครั้ง! ผู้เขียนบอกตัวเองแบบนั้น มีพลังเท่าใหร่ก็ใส่ลงไปจนสุดแรง วันนี้แข่ง 2 รอบ แต่ก็ต้องแพ้ไปทั้งสองรอบเพราะความที่ไม่ได้ซ้อมไม่ได้ฟิตร่างกายมาก่อน ส่วนวันที่สองนั้นปวดระบมไปทั่วร่างกายแต่ดีที่มีเพื่อนในทีมมากันครบจึงเปลี่ยนกันลงเล่น ถึงจะแพ้แต่ก็สนุกสนานกันไป การเล่นวอลเล่ย์บอลบนพื้นทรายนั้น ต้องใช้พละกำลังของขาเพิ่มเป็น 2 เท่า เพราะแรงหน่วงของทรายจะทำให้แรงวิ่ง แรงกระโดดลดลงครึ่งนึง ความยากนั้นก็ต้องบอกว่ายากกว่าสนามปูน การเทคตัวขึ้นตบบอลต้องใช้กำลังขามากกว่าเดิม การจัดแข่งขันกีฬาของที่นี่ก็เน้นความรักความสามัคคี เน้นให้สมาชิคในเกาะมีกิจกรรมร่วมกัน เน้นความสนุกสนานสร้างรอยยิ้ม เพราะฉนั้นการแพ้ชนะนั้นจึงเป็นเรื่องรองลงมา ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะมิตรภาพและความทรงจำดีๆ ก็ได้เกิดขึ้นแล้วที่นี่เกาะพีพี ภาพประกอบโดยผู้เขียน