ในวันที่ชีวิตเดินทางมาถึงอายุ 40 ปี แต่ความตั้งใจหลาย ๆ อย่างยังไม่ได้ทำให้สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องไปเที่ยวทะเลภาคใต้ จากความทรงจำสมัยวัยเด็กที่เคยไปภาคใต้ แต่ไม่ได้นั่งเรือออกทะเลเพราะผู้ใหญ่กลัวว่าจะเป็นอันตราย มาจนถึงวันนี้ที่เลื่อนหน้าจอเฟสบุ๊คแล้วเจอตั๋วกรุงเทพ-กระบี่ 0 บาท ก็เลยตัดสินใจจองตั๋วก่อนคิดแผนทีหลัง รวมค่าภาษีสนามบินและน้ำมันไปกลับ ในราคาพันกว่าบาท พอใกล้ถึงวันก็วางแผนเลยว่าจะไปไหนบ้างโดยอ่านรีวิวในที่ต่าง ๆ ทั้งที่พัก ทั้งทัวร์วันเดย์ทริป กับเวลา 2 วัน 3 คืน ที่ได้มา เพราะตั๋วเราถึงกระบี่คืนวันศุกร์ และกลับจันทร์เช้า (โปรโมชั่นก็ทำใจเรื่องเวลา) ตารางแน่นมาก กลัวไม่คุ้ม และไปคนเดียว ส่วนใหญ่เลยจะเดินทางโดยรถสาธารณะ เย็นวันศุกร์ออกจากที่ทำงาน 4 โมงเย็น เดินทางด้วยแอร์พอร์ตลิ้งไปขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ ตื่นเต้นมาก แบบเวอร์ ๆ เลย เพราะเป็นการเดินทางด้วยเครื่องบินคนเดียวครั้งแรก (ปกติจะมีเพื่อนหรือญาติไปด้วย) มาถึงสนามบินเร็วกว่าที่คิด แต่เครื่องดีเลย์ไป 1 ชม. เลยกว่าจะถึงกระบี่ก็สามทุ่มกว่า นั่งรถสนามบินเข้าตัวเมืองกระบี่ มาดึก ๆ เดินออกมาเจอเป็นรถตู้จอดรออยู่ แต่ราคาเท่าที่สืบมา คนละ 90 บาท ก็รอรถเต็ม คืนแรกเราพักโฮสเทลคืนละ 200 บาทที่ตัวเมืองกระบี่เพราะกะว่าจะเดินตลาดคนเดินที่มีเฉพาะวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ แต่อดเพราะกว่าจะถึงตลาดก็ปิดหมดแล้ว นอนจ้านอน เช้าวันเสาร์เรามีแผนว่าจะไปชิมติ่มซำในตัวเมืองกระบี่สัก 3 ร้านที่เขาแนะนำกันมา แต่ชิมร้านแรกก็อิ่มละ กับร้านราชรสติ่มซำ อร่อยไม่ผิดหวังเลย เสียดายที่อิ่มก่อนจะได้กินขนมจีนน้ำยาปู และอีก 2 ร้านคงต้องแปะไว้คราวหน้าเพราะเราต้องรีบขึ้นรถไปให้ทันขึ้นเรือ ทัวร์วันเดย์ทริป ทัวร์ 4 เกาะ ที่หาดนพรัตน์ธาราตอน 9 โมงเช้า นั่งรถสองแถวไปจากตัวเมืองกระบี่คนละ 50 บาท ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ไปลงหน้าอุทยานแล้วเดินไปหน้าหาด ซึ่งมีทัวร์ตั้งโต๊ะขายอยู่หลายเจ้ามากมาย ส่วนใหญ่จะจองกันมาแล้ว แต่จะมาหาหน้าหาดก็ได้ ต้องลุ้นดู เราจองเป็นจอยทริป โทรเช็คตอนเช้าได้เป็นสปีดโบ้ทลำใหญ่ นั่งได้ 40 คน ราคาก็ 640 บาทต่อคน ทั้งลำยกเว้นลูกเรือมีเราเป็นคนไทยคนเดียว ที่เหลือมาเลล้วน ๆ ฝรั่งยังไม่มี มากันเป็นครอบครัว คู่รัก เต็มไปหมด ดูอบอุ่นมาก ๆ นี่อยากเปลี่ยนเรือเลย แต่ก็นะเลยตามเลย เริ่มต้นเกาะที่ 1 ที่อ่าวนาง แวะถ่ายรูป ไหว้ศาล และไปต่อกันเกาะที่ 2 ทะเลแหวก ยังไม่ทันจะขึ้นเรือ ฝนก็ตกลงมา จะไปเกาะที่ 3 เกาะไก่ ถ้าฟ้าใส ๆ เขาจะให้ดำน้ำตื้นกันตรงนี้ แต่ทั้งลำเรือพร้อมใจกันบอกว่าผ่านไปเกาะที่ 4 เกาะปอดะ กันเลย เพราะฝนยังตกหนักอยู่ ต้องฝ่าฝนกันไปเพราะเป็นเกาะที่ให้ลูกทัวร์รับประทานอาหารด้วย ในทัวร์มีข้าวให้ 1 มื้อ เกาะนี้อยู่กันยาว ๆ กินข้าวแล้วฟ้าเปิด ได้เล่นน้ำ เดินถ่ายรูป จนบ่ายโมงครึ่ง จบทัวร์กลับขึ้นฝั่ง กลับที่พัก ไปเอากระเป๋า เดินทางต่อไปยังหาดคลองม่วง หาดส่วนตัว ไกลตัวเมือง เงียบสงบมาก ๆ ซึ่งการเดินทางไปก็เหมารถแท็กซี่ไปอย่างเดียว เที่ยวละ 500 บาท (กระบี่อะไรก็ดี แต่ค่ารถค่าเรือแพงไปหน่อย) แต่ถ้านั่งรถสนามบินจากสนามบินไปคลองม่วงคนละ 200 บาท เข้าพักรีสอร์ทที่จองไว้ คืนละ 1400 บาท เช้าวันอาทิตย์ไปเดินเล่นที่หาดคลองม่วง เขามีแข่งว่ายน้ำในทะเลกัน ถ้าไม่มีก็จะเป็นหาดที่เงียบสงบ คนไม่เยอะ เหมือนเป็นหาดส่วนตัวกันเลยทีเดียว ทรายไม่ขาว แต่น้ำใส ช่วงบ่าย เช่าเหมาเรือไปทัวร์หมู่เกาะห้อง ราคา 2,000 บาท ซึ่งมันดีมากกกกก สวยมากกกก น้ำใสมากกกก คนไม่เยอะ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเลยทีเดียว ว่ายน้ำใส ๆ ทะเลตื้น ๆ ซึ่งจุดทางเข้าเกาะห้องลากูนเป็นจุดถ่ายภาพที่คนนิยมมาก แต่ก่อนจะไปก็ถามคนเรือก่อนนะ เพราะถ้าน้ำตื้นไปเรือก็เข้าไม่ได้ จากเกาะห้องลากูนก็แวะอีก 2 หาดสวย ๆ จำชื่อไม่ได้ แต่ก็อยู่ใกล้ ๆ กัน เป็นหาดเล็ก ๆ ที่ดีมาก ๆ กว่าจะกลับเข้าฝั่งก็ 5 โมงเย็น อาบน้ำ กินข้าวร้านข้างทาง แล้วไปนั่งชิว ๆ รับลมทะเลที่บาร์ริมหาด ดูการแสดงควงกระบองไฟเบา ๆ พรุ่งนี้เตรียมตัวบินกลับกรุงเทพแต่เช้า ก็จองเหมารถขากลับจากหาดคลองม่วง 600 บาท ไว้ทริปหน้าเจอกันใหม่กับการจองตั๋ว 0 บาทข้ามปี กระบี่หนีมาเที่ยว เที่ยวหน้าจะหนีไปไหนดี ปล.วิวดี คนดี อาหารดี แต่ค่าเดินทางแพงไปหน่อย ถ้ามากันหลาย ๆ คน เช่ารถจะคุ้มกว่า ยังเหลืออีกหลายที่ต้องไป มาอีกรอบแน่นอน