เคยสังเกตตัวเองกันบ้างไหม ว่าในบางวันเราก็มองเห็นสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่มีชีวิตรอบ ๆ ตัวเราหรือแม้แต่ก้อนเมฆบนฟ้า ก็สามารถมองให้เป็นหน้าตาของสิ่งมีชีวิตไปซะหมด หรือบางครั้งการได้ยินเสียงแว่ว ๆ จนคิดว่าตัวเองต้องหลอนไปแล้วแน่ ๆ บางคนถึงกับคิดว่าตัวเองมองเห็นสิ่งลี้ลับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือวิญญาณ แต่ในทางวิทยาศาสตร์เรียกอาการนี้ว่า แพริโดเลีย (Pareidolia) อาการนี้เป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่ง ที่ผู้เขียนเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้ ด้วยตัวเองมาบ้างแล้ว ยิ่งในกลุ่มคนที่มีศิลปะและจินตนาการแล้ว ยิ่งสามารถมองสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นสิ่งมีชีวิตได้อย่างน่าทึ่งนักวิจัยได้ให้คำอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ไว้ว่า อาการนี้เกิดจากการมองเห็น คือเมื่อเรามองเห็นใบหน้าของคน หรือสัตว์เราอาจจะจำเอาภาพเหล่านั้น มาเก็บไว้ในสมองของเรา และเมื่อเราไปมองสิ่งของอื่น ๆ เลยทำให้จินตนาการเป็นหน้าตาของสัตว์หรือใบหน้าคน ซึ่งขอบอกเลยว่าภาพที่เห็นเหล่านั้น บางครั้งคนอื่นอาจจะมองแตกต่างไปจากเรา เพราะในแต่ละคนมีการปรุงแต่งของสมองและจินตนาการส่วนบุคคลไม่เท่ากันในส่วนตัวผู้เขียนเองแม้จะไม่ค่อยมีจินตนาการในเรื่องนี้มากนัก บ่อยครั้งที่เพื่อนส่งภาพมาให้แล้วบอกให้ดูดี ๆ เห็นภาพอะไรบ้าง ซึ่งบางครั้งผู้เขียนพยายามเพ่ง หรือหรี่ตามองอย่างไร ก็ไม่เป็นรูปร่างอย่างที่เขาบอก จนต้องตอบกลับไปว่าไม่เห็นอะไร แต่ต้องยอมรับว่ามีบางครั้งที่มองเห็นอะไร เป็นรูปเป็นร่างจริง ๆ อย่างที่เขาบอก เช่นรูปก้อนหินย้อยเป็นรูปหน้าคน คราบน้ำดูเป็นรูปสัตว์ ก้อนเมฆแปลงร่างเป็นรูปต่าง ๆ มาดูตัวอย่างภาพกันว่ามีแบบไหนบ้างมองแล้วเหมือนหน้าคนพอหรี่ตามองเหมือนมีหน้าคนแปะอยู่บนต้นไม้หินย้อยภาพนี้ดูดีๆ เหมือนคนสองตนกำลังใช้มือจับแฮนด์จักรยานผู้หญิงผมยาวกำลังนั่งปิดท้ายด้วยดอกไม้กลายเป็นนก ปรากฏการณ์ แพริโดเลีย (Pareidolia) นี้หากมองดี ๆ จะมีทั้งความน่ารักและความน่ากลัวซุกซ่อนอยู่ และบางภาพสามารถทำให้เรายิ้มได้ง่าย ๆ และหากมองอีกแง่มุมหนึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้มันก็คืองานศิลปะดี ๆ นี่เอง อย่างไรก็ลองสังเกตกันดูนะคะว่าสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรามีอะไรที่เป็นรูปร่างหน้าตาของคนหรือว่าสัตว์ซุกซ่อนอยู่จริงหรือไม่เรื่องโดยบุหงาอันดามันภาพ1https://unsplash.com// ภาพ2https://pixabay.com// ภาพ3 โดยผู้เขียน/ ภาพ4 โดยผู้เขียน/ ภาพ5 โดยผู้เขียน/ โดยคุณอนุสรณ์ ศรีคำขวัญ ภาพ6/ ภาพ7 https://pixabay.com/