การเป็นครูภาษาไทยทำให้เราหลงรักการเรียนรู้วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่นไปโดยปริยาย ทุกครั้งที่มีโอกาสท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะสืบเสาะหาเรื่องราววิถีชีวิต ความเชื่อ ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ มันเป็นเสมือนของฝากที่ต้องหยิบติดไม้ติดมือกลับมา และคราวนี้เพื่อนสนิทก็หอบเรากลับบ้านมาเป็นภาระ และไหน ๆ ก็มาป่วนเพื่อนถึงชุมพรแล้ว เราจึงถือโอกาสศึกษาข้อมูลทางคติชนของที่นี่เสียเลย โชคดีที่มีเพื่อนสนิทที่ดีแล้ว ยังโชคดีคูณสองเข้าไปอีกเมื่อเรามาตรงกับช่วงที่บ้านของเพื่อนมีพิธีไหว้สวนพอดี นี่แหละไฮไลต์ของทริปนี้ เราจึงขอนำความรู้นี้มาแบ่งปันทุกคนกัน “พิธีไหว้สวน” เป็นพิธีเก่าแก่ของชาวสวนทางภาคใต้ที่คนรุ่นหลังเริ่มจะไม่ค่อยรู้จักกันแล้ว คุณเพื่อนเล่าว่าบ้านของคุณเพื่อทำพิธีไหว้สวนกันมายาวนาน พิธีกรรมนี้ถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และจัดทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในปีถัดไป เพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ เจ้าที่ที่ปกปักรักษาผืนดิน เทพารักษ์ ผีสาง เทวดาที่ดูแลสวน ส่งผลให้พืชสวนออกดอกออกผลให้ชาวสวนมีรายได้หล่อเลี้ยงชีพมาจนทุกวัน โดยพิธีดังกล่าวจะจัดในช่วงเดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติของทุกปี ที่บ้านจะรอให้ลูกหลานกลับมาพร้อมหน้ากันและจัดพิธีไหว้สวนด้วยกัน เช้าวันที่ 19 เมษายน 2563 เราโดนคุณเพื่อนปลุกตั้งแต่ตี 5 เพื่อมาช่วยกันเตรียมของไหว้ ซึ่งประกอบด้วย ข้าวสวย ไข่ต้ม แกง หมู เป็ด ไก่ แกง ขนม ผลไม้ ซึ่งคุณเพื่อนบอกว่าการใช้สับปะรดไหว้ก็เพื่อขอให้เจ้าที่ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลสวน และที่ขาดไม่ได้คือ น้ำดื่ม น้ำแดง และเหล้า อ้อ! อีกอย่างก็มีดอกไม้ธูปเทียนสำหรับไหว้เจ้าที่ ธูปนั้นจะใช้ 9 ดอก เมื่อเตรียมของเสร็จคุณแม่ก็จัดชุดของไหว้เป็น 3 ชุด สำหรับไหว้ 3 แห่ง เรา คุณเพื่อน และคุณพ่อก็นำของไหว้ไปไหว้ตามสวนต่าง ๆ โดยคุณเพื่อนที่แสนรอบรู้ทุกเรื่องของฉันเป็นผู้ทำพิธี เมื่อจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้เสร็จ คุณเพื่อนก็จุดธูปเทียน และเริ่มท่องนะโม 3 จบ บทบูชาพระรัตนตรัย กล่าวเชิญบรรพบุรุษที่ล่วงลับ เจ้าที่ที่ปกปักรักษาผืนดิน เทพารักษ์ ผีสาง เทวดาที่ดูแลสวนมารับของไหว้ จากนั้นรอจนธูปดับก็กล่าวลา จากนั้นก็แบ่งอาหารใส่กระธงเล็ก ๆ วางไว้ใต้ต้นไม้ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี“พิธีไหว้สวน” สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความเชื่อของชาวสวนที่แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ผู้ปกปักรักษาผืนดิน อีกทั้งสะท้อนความเชื่อเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีมาอย่างยาวนาน พิธีกรรมดังกล่าวค่อย ๆ เลือนหายไปหากลูกหลานชาวสวนไม่สืบทอด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายหากพิธีกรรมเหล่านี้จะกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าที่คนรุ่นหลังไม่มีโอกาสได้เห็นและสัมผัสด้วยตัวเองขอบคุณข้อมูลและภาพถ่ายหมายเลข4 จาก คุณปัณณ์ รัตนภักดี .ภาพถ่ายจาก Pujaa Manita