ชุมพร ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองรอง ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจจะต้องไปเยือนสักครั้งเมื่อล่องใต้ วันนี้แม่ชิลล์จังจะชวนไปเที่ยวเชิงธรรมชาติทางทะเลของเมืองชุมพร โฮมสเตย์ขึ้นชื่อของบ้านอ่าวคราม ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือ "การบามหมึกหนึ่งเดียวในไทย" ซึ่งวันนี้เราจะมากันที่ "แดนโดม โฮมสเตย์" นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางลงใต้โดยขับรถยนต์ส่วนตัว ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงชุมพรเหนื่อยเอาเรื่องเลยสำหรับคนท้อง 8 เดือน ใช่คะฟังไม่ผิดหรอก ทริปกระเตงลูกล่องใต้ "คนท้องไม่ใช่คนง่อย" สามีกล่าวไว้ ก็จริงค่ะ เพราะเราตะลอนเที่ยวกันจนคลอดเลยจ้า ตามกันมาเลย 😂 เริ่มต้นการเดินทางลำบากนิดหน่อย เพราะรถเก๋งไม่เหมาะกับการขึ้นเขาลุยป่าสักเท่าไหร่แต่ก็ไปได้ ทางคดเคี้ยวสองข้างทางเป็นเขาสูงมองเผิน ๆ นึกว่าเหวที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สวยธรรมชาติไปอีกแบบ พอไปถึงที่หมาย โห้!!...วิวทะเลที่พักยื่นลงไปในทะเลมองเห็นวิวสวยสุดลูกหูลูกตา ที่นี่มาเที่ยวด้วยสโลแกน "มาเที่ยวเหมือนมานอนบ้านญาติ" ลุงจักรและป้าจรรยาเจ้าของโฮมสเตย์ที่นี่ดูแลดี กันเอง พูดจาสนุกสนานน่ารัก กำเงินพันเดียวมาเที่ยวยังมีทอน ค่าใช้จ่ายคนละ 900 บาท ที่พักโฮมสเตย์ 1 คืน+อาหารซีฟู้ด 3 มื้อ รวมกิจกรรมบามหมึก-ดูแพลงตอน ว๊าว...อะไรจะฟินขนาดนี้ เดินทางมาถึงช่วงเที่ยงสิ่งแรกที่เจอเลย คือ น้ำเย็น ๆ อาหารตักได้ไม่อั้น!! กินให้อิ่มพุงกางไปเลยจ้า อิ่มแล้วก็ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือจะนั่งชมวิวเดินเที่ยวรอบ ๆ อ่าวก็ได้ ทะเลที่นี่ใสมากเหมือนเที่ยวเกาะส่วนตัวเลย เพราะจะมีแค่คนที่มาพักโฮมสเตย์เท่านั้น ระหว่างนั้นเราสามารถเหมาเรือเที่ยว หรือหารกันกับนักท่องเที่ยวด้วยกันก็ได้ รอบละ 1,000 บาท นั่งเรือไปชมเกาะกุลา ซึ่งอยู่ไม่ไกล นั่งเรือประมาณ 20 นาที เป็นเกาะเล็ก ๆ หนึ่งในหมู่เกาะชุมพร ลงเรือกันจ้า...คลื่นไม่เเรง เรือใหญ่ลงได้สบาย ๆ ไม่อันตรายต่อคนท้อง แต่ต้องขึ้นลงระมัดระวังค่ะ พอถึงเกาะเดินนำเลยจ้า น้ำใสมาก เราสามารถเดินเที่ยวในเกาะ เล่นน้ำ พายเรือคายัคชมความงามของทะเลรอบเกาะได้ แต่ต้องอยู่ในแนวที่กำหนด จากนั้นลุงก็พาขึ้นเรือไปดูหอยมือเสือรอบ ๆ เกาะ ระหว่างเที่ยวลุงก็จะคอยแนะนำเล่าประวัติที่มาของเกาะ สถานที่ต่าง ๆ ที่พาไปให้ฟัง มีบ่ออนุบาลเต่าทะเลให้ชมด้วย พอเที่ยวเสร็จก็นั่งเรือกลับที่พัก ช่วงเย็นเวลาที่รอคอยก็มาถึง เตรียมตัวลงเรือไป "บามหมึก" กัน ทุกครั้งที่ลงเรืออย่าลืมเสื้อชูชีพนะคะ การ "บามหมึก" เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งมีที่เดียวในประเทศไทย คล้าย ๆ การยกยอของทางภาคอีสาน ใช้เตาแก๊สปิคนิคเพื่อล่อหมึกมาตามไฟแล้วยกขึ้น หมึกก็จะติดอยู่ในตาข่าย เป็นวิธีหาหมึกที่น่าทึ่งจริง ๆ บรรยากาศยามเย็นสวยมากเลย บามหมึกเรียบร้อยได้ปลาหมึกมาสด ๆ เลย ที่นี่บามหมึกกันเป็นจุด ๆ มองเห็นชัดจากไฟเตาแก๊ส แต่ตรงนี้จะมีแค่ของลุงจักรที่กางไว้ 5-6 จุด ได้หมึกสด ๆ จ้าตัวใสมาก ได้ปูม้าติดมาด้วย แต่ถ้าปลาปูตัวเล็กก็ปล่อยลงทะเลไปนะ จับมาแค่พอกินพอ บามหมึกเสร็จลุงก็ขับเรือไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อพาไปชม "แพลงตอนสีน้ำเงิน" ซึ่งสวยมาก ใช้มือกวักน้ำดูถึงจะเห็นเป็นแสง ๆ เยอะมากจริง ๆ กลางคืนที่นี่เงียบสงบ มึดมากเพราะอยู่กลางทะเล มีแค่เเสงไฟจากตะเกียงนำทางของเรือ บรรยากาศน่าหยุดเวลาไว้มากเลยค่ะ เหมาะสำหรับมาพักกายพักใจ ยิ่งถ้าคนอกหักมานะคงลืมทุกสิ่ง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาว วันนี้โชคเข้าข้างเรามาก ฟ้าเปิดมองด้วยตาเปล่าเห็นทางช้างเผือกด้วย ทุกอย่างดีไปหมด ประทับใจสุด ๆ นั่งเรือเพลินมาก กลับไปถึงโฮมสเตย์ ปลาหมึกที่ได้มาสด ๆ ป้าจรรยาก็เอาไปทำซาซิมิกับน้ำจิ้มซีฟู้ดให้กิน อร่อยเด็ดมาก ละมุนลิ้น หวานละลายในปาก วันเดย์ทริปแสนประทับใจ การเดินทางครั้งนี้ "คุ้มมาก" ไม่คิดเลยว่าเมืองไทยจะมีที่สวย ๆ แบบนี้ให้สัมผัส ใครที่มาเที่ยวใต้อย่าลืมแวะมานะ รับรองติดใจจนต้องอยากมาอีกแน่นอน "แดนโดมโฮมสเตย์" มาเที่ยวพักผ่อน สบายใจเหมือนมาพักผ่อนบ้านญาติ 😍😍😍 ใครที่สนใจตามมาเลยคะ... Facebook: แดนโดมโฮมสเตย์ บ้านอ่าวครามชุมพร พิกัด : บ้านอ่าวคราม ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร เดี๋ยวครั้งหน้า แม่ชิลล์จังจะพาไปเที่ยวไหน รอติดตามกันนะคะ รับรองสนุกจนลืมท้องกันไปเลย ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวด้วยกันจ้า 👪 ภาพถ่ายทั้งหมด : โดยผู้เขียน