แนะนำ 10 ซีรีย์ ดูจบในวันเดียว จาก NETFLIX รับรองว่าเด็ด สมัยนี้คนเรามักชอบอะไรที่สื่อความตรงใจ มีสาระ กระชับ สั้น ง่าย ได้ใจความ ไม่ชอบอะไรที่ยาว ๆ ยืดเยื้อมีแต่น้ำ เราเองก็เป็นอีกหนึ่งคนในนั้นเหมือนกัน เชื่อว่าหลาย ๆ คนในตอนนี้ก็เป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดูหนังชื่อดังอย่าง “เน็ตฟลิกซ์”และต้องเจอปัญหา “มีหนังและซีรีย์เต็ม Mylist แต่ไม่รู้จะดูอะไรดี” เหมือนกับที่สาวๆมีปัญหา “เสื้อผ้าเต็มตู้แต่ไม่รู้จะใส่อะไร” นั่นแหละ เราจึงคัด 10 ซีรีย์ ที่มีครบรส สนุก ได้อะไรดี ๆ กับชีวิต หลากหลายแนว แถมยังมีเพียงไม่กี่ตอนดูวันเดียวก็จบ มีตั้งแต่ 3 - 22 ชั่วโมงจบ! มาให้ทุกคนได้ดูเผื่อจะตัดสินใจง่ายขึ้น สำหรับใครที่ซีรีย์เหล่านี้มีอยู่ ใน My list อยู่แล้ว ลองอ่านรีวิวสั้น ๆ จากเราประกอบการตัดสินใจแล้ว ไปดูกันเลย!1. Youhttps://i.pinimg.com/originals/93/bc/eb/93bceb9dc583c4511b9742b182b763aa.jpgจบภายใน 8 ตอน ( 8 ชั่วโมง เท่านั้น ) ชายหนุ่ม 'โรคจิตจอมสตอล์กเกอร์' ในคราบ 'สุภาพบุรุษผู้สมถะ' เจ้าของร้านหนังสือผู้มีชีวิตแสนเรียบง่ายผู้ตกหลุมรักสาวนักศึกษาปริญญาโท และทำให้การพบกันทุกครั้งของพวกเขาช่างดูอบอุ่นโรแมนติกและมีเสน่ห์ แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นแนว : ระทึกขวัญ, โรแมนติก, ดราม่า, อาชญากรรม, สร้างจากหนังสือ เรื่องนี้เราขอแนะนำ เพราะสั้นมากจบใน 8 ตอน การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเบื่อ น่าติดตาม ส่วนตัวเราเองดูจบภายในวันเดียวเลย ที่น่าสนใจก็คือซีรีย์เรื่องนี้เล่าเรื่องในมุมของผู้สตอล์กเกอร์เอง น่าแปลกที่เรื่องนี้สามารถปูให้เราเข้าใจตัวละครและกลายเป็นว่าเอาใจช่วยคนโรคจิตตามไปด้วยซะอย่างงั้น นอกจากเรื่องจะมีครบรสแล้ว ภาพก็ยังสวยอีกด้วย แต่เรื่องนี้อาจจะ ‘ไม่ระทึกขวัญระดับมาก’ ไม่ค่อยมีฉากตุ้งแช่ให้เราตกใจ เพราะเรื่องจะค่อยๆ เล่าไปตามเสต็ป ดูจบแล้วรู้สึกระวังตัวขึ้นเยอะเลย เอาเป็นว่าลองไปติดตามกันดูค่ะคะแนน : 8.5 / 102. Sex educationhttps://nflx-nffyc-prod-public-us-east-1.s3.amazonaws.com/1555423115146จบภายใน 8 ตอน ( 7 ชั่วโมงเบาๆ ) ลูกชายของนักบำบัดทางเพศ ‘โอทิส’ ร่วมมือกับสาวขาโหดสุดคูล ‘ไวลี่ย์’ เปิดให้บริการบำบัดทางเพศ แก่เด็ก ๆ ในโรงเรียนจนกระทั่งโด่งดังมีชื่อเสียงในวงการนี้ แต่ความลับคือตัวเขายังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องเพศของตัวเองจริง ๆ สักทีนั่นแหละแนว : ชีวิตวัยรุ่น, ดราม่า, คอมเมดี สำหรับเรื่องนี้เป็นกระแสดังอยู่พักใหญ่เลยเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยิน แน่นอนชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่าจะต้องมีฉากติดเรทในเรื่องส่วนตัวเราชอบเรื่องนี้ตรงที่สอนปัญหาเรื่องเพศได้อย่างตรงไปตรงมาดี เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องเพศก็เป็นเรื่องธรรมชาติ และเรื่องนี้ครบรสจริง ๆ ทั้ง โรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า อบอุ่นหัวใจ (ฉากดราม่าเราน้ำตาไหลตาม) ดูจบแล้วรู้สึกได้สาระ ชอบคาแรกเตอร์ตัวละครทุกตัวในเรื่อง พระเอกไม่ใช่คนหล่อหรือคนเด่นดังในโรงเรียนออกแนวลูซเซอร์นิด ๆ นางเอกไม่ใช่คนสวยแบบแก๊งค์นางฟ้าออกแนวพังก์ ๆ โหด ๆ และที่เราชอบอีกอย่างก็คือ ทุกตัวละครมีการปูพื้นหลังให้เห็นคร่าว ๆ ได้ดีทำให้เราชอบทุกตัวละครเลยโดยเฉพาะเรื่องของเพื่อนสนิทพระเอก โทนสีของเรื่อง ออกแนว 90 ใครชอบเสพภาพเสพสีสวย ๆ และชอบหนังครบทุกอารมณ์ พลาดไม่ได้คะแนน : 9 / 10 3. Insatiablehttp://www.roguesportal.com/wp-content/uploads/2018/09/serie-Insatiable-Netflix-1-810x456.jpgจบภายใน 8 ตอน ( 9 ชั่วโมงเพลินๆ) เมื่อชีวิตของสาวร่างใหญ่ที่ถูกบูลลี่ในช่วงชีวิตไฮสคูลมาถึงจุดพลิกผัน เมื่อเธอตื่นมาแล้วพบว่าเธอกลายเป็นสาวฮ็อต ผอมเพรียวและสวยมาก! เธอจึงตัดสินใจตามแก้แค้นคนที่เคยกลั่นแกล้งเธอและเริ่มก้าวเดินในเส้นทางการประกวดนางงามแนว : คอมเมดี้ , ดราม่า , ชีวิตวัยรุ่นhttps://hips.hearstapps.com/digitalspyuk.cdnds.net/18/28/1531267096-insatiable2.jpg?resize=480:* มาดูซีรีย์เบาสมอง แนว mean girlในไฮสคูล ของสาว ๆ ตัวร้ายกันบ้าง เรื่องนี้ค่อนข้างเบาสมองจริง ๆ ค่ะ ออกแนวตลกดูแล้วไม่เครียด แต่ก็ใช่ว่าจะไร้สาระซะทีเดียวนะคะ มีเรื่องของ ความสัมพันธ์ของเพื่อนและครอบครัวแฝง รวมถึงความรักกุ๊กกิ๊ก และ LGBT แฝงอยู่ด้วย สำหรับใครที่หาอะไรไว้คลายเครียด ดูเรื่องนี้เลยค่าคะแนน 7.5 / 104. The end of the fucking worldhttp://www.wheninmanila.com/wp-content/uploads/2018/01/end-of-the-fing-world-2.jpgจบภายใน 8 ตอน (ตอนละไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รวมๆ 3 ชม. เอง**) หนุ่มผู้มีปัญหาทางจิต และ สาวเจ้าแห่งการขวางโลก ตัดสินใจออกเดินทางด้วยกันอย่างไม่สนใจ โลกและสิ่งที่ทิ้งไว้ ในในตอนแรกเขาเองมีความคิดที่ 'ฆ่า' เธอ แต่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่เริ่มออกเดินทางไปด้วยกันแนว : ชีวิตวัยรุ่น , ดราม่า ,โรแมนติก เป็นซีรีย์ที่ แปลก ดาร์ก ดีค่ะ หลุดกรอบซีรีย์หนุ่มสาวรักวัยรุ่นใส ๆ ในอุดมคติไปมากเลย ออกแนวเสียดสีตลกร้าย หน้าตาย! และจิกกัดนิดหน่อย คาแรกเตอร์ของพระนางก็แปลกดี แต่เมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว เคมีลงตัวมาก ๆ โทนสีสวยอีกแล้วเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่เราแนะนำ สำหรับคนชอบดูอะไรแนวอินดี้ คะแนน : 8 / 105. Stranger thingshttps://www.techoffside.com/wp-content/uploads/2017/11/Stranger-things-season-2.jpgตอนนี้มี 2 ซีซั่น ซีซั่นและ 8 ตอน ( 15 ชั่วโมงค่ะ ค่อยๆแบ่งดู )(กำลังจะมี ซีซั่นที่ 3 ในเดือน กรกฎา ปี 62 ) เมื่อเด็กชายคนหนึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ เพื่อน ๆ และครอบครัวของเขาต่างช่วยกันออกค้นหา 'ความจริง' และเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่แต่อาจอยู่ในโลกอื่น ความลึกลับ เรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้น นั้นเกิดจากอะไร และ ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ ?แนว : ชีวิตวัยรุ่น , ระทึกขวัญ , สยองขวัญ , ไซไฟ-แฟนตาซี , คอมเมดี้ , ดราม่า (หลายแนวเลย) ซีรีย์ที่เต็มไปด้วย สิ่งแปลก ๆ สมกับชื่อ Stranger thing เลย สำหรับเรื่องนี้ค่อนข้างรวมหลายแนวไว้ในเรื่องเดียวกัน ตัวละครหลักในเรื่องเป็นกลุ่มเด็ก ๆ ที่หัวใจไม่เล็กเหมือนตัว ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจมีเรื่องของมิตรภาพ ครอบครัว และความรักสอดแทรกไปด้วย เมื่อดูแล้วก็ติดค่ะทีแรกเราคิดว่าจะลองดูแค่ตอนเดียว แต่ด้วยความที่เรื่องสนุกจริง ๆ ทำให้เราติดตามไปจนจบซีซั่น 2 บรรยากาศและโทนสีในเรื่องให้อารมณ์ ลึกลับน่ากลัว น่าค้นหา ต้องลองไปดูค่ะ คะแนน : 8.5/106. Kingdomhttps://img.kpopmap.com/2019/01/kingdom-poster-2.jpg6 ตอน มีภาคต่อแน่นอน! ( 6 ชั่วโมง ) มีเรื่องราวแปลก ๆ เกิดขึ้น มีคนหายตัวเข้าไปในวังและไม่ได้กลับออกมาทีละคน และยังมีข่าวว่าองค์จักรพรรดิป่วยเป็นโรคร้าย ซึ่งมีแต่เพียงแค่พระมเหสีและขุนนางชั้นใหญ่เท่านั้นที่รู้ แม้แต่ตัวองครัชทายาทเองยังไม่รู้ความจริงว่าองค์จักรพรรดิยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ประกอบกับเกิดเรื่องวุ่นวายมีโรคร้ายที่ทำให้คนตายแล้วฟื้นระบาดขึ้นทั่วเมืองแนว : ย้อนยุค , ระทึกขวัญ , การเมือง ซอมบี้เกาหลีย้อนยุค? ถือว่าเรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่ค่อนข้างแหวกแนว เพราะไม่ค่อยมีใครทำมาก่อน เราคิดว่าน่าสนใจมาก เรื่องนี้เลือกเล่าเรื่องได้แปลกดีแถมยังเหมือนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และสภาพบ้านเมืองของชาวเกาหลีผ่านการดูซีรีย์ ปมของเรื่องค่อย ๆ เฉลยไปเรื่อย กำลังถึงจุดพีคเลยตัดจบซะงั้นเสียดายที่สั้นไปหน่อยแต่ได้ข่าวมาว่ามีภาคต่อแน่นอนค่ะ บอกเลยว่าสนุกและน่าติดตามมากคะแนน : 8/107. Black mirrorhttps://i1.wp.com/www.gm2000magazine.com/wp-content/uploads/2018/10/netflix-plan-to-launch-interactive-content-include-selectable-alternate-ending-begin-with-black-mirror-season5_head.jpg?fit=800%2C445&ssl=1ทุกเรื่อง จบใน 1 ตอน ( 22 ชั่วโมง หากใครอยากดูแบบมาราธอน )มีทั้งหมด 5 ซีซั่น 22 เรื่องแต่ละเรื่องไม่ได้เกี่ยวกัน รวมหนังสั้นจบ 1 ตอน เรื่องราวเกี่ยวกับ ผลกระทบจากเทคโนโลยีต่อชีวิตคนแนว : ดราม่า , ระทึกขวัญ , ไซไฟแฟนตาซี ซีรีย์ Black mirrorนั้นเราปลื้มมาก เพราะคอนเซ็ปและเรื่องราวที่เล่าแต่ละเรื่องนั้นดีแตกต่างกันไป แฝงการเสียดสีจิกกัดและสะท้อนสังคมทั้งข้อดีและข้อเสียจากเทคโนโลยี เช่น จะเป็นอย่างไรหากย้อนดูความทรงจำทั้งหมดของเราได้ ? จะเป็นยังไงหากเราอัพโหลดตัวเองเข้าไปใน icould จะเป็นยังไงหากชีวิตเราผูกติดอยู่กับฐานะและสังคมทางโซเชียล จะเป็นยังไงหากเราสามารถทำทุกอย่างได้ในเกมเสมือนจริง มีหลายเรื่องราวหลายรสหลายอารมณ์ให้ข้อคิดดีและตีความได้หลากหลายจริงๆ สำหรับซีรีย์นี้ภาพสวย เพลงประกอบเพราะได้อารมณ์ (เราชอบตรงนี้มา) และยังได้นักแสดงดี ๆหลายคนมาร่วมแสดงด้วยคะแนน : 9.5/10 8. Love death robotshttps://i.ytimg.com/vi/5DtGyVjECPY/maxresdefault.jpgมีทั้งหมด 18 เรื่องเรื่องละ 10-15 นาทีเท่านั้นเอง ( 3 ชั่วโมงครึ่ง )เรื่องสั้นของเหล่าหุ่นยนต์ และ โลกแห่งเทคโนโลยี ที่เล่าผ่านการ์ตูนแอนนิเมชั่น พอดูแล้วพบว่านี่ไม่ใช่แค่การ์ตูนสำหรับเด็กแนว : ไซไฟแฟนตาซี, แอ็คชั่นและผจญภัย, ระทึกขวัญ, สยองขวัญ แอนนิเมชั่นแต่ละตอนนี่เสียดสีสังคมหลายประเด็นเลยแอบแทรกความคอมเมดี้ลงไปเพราะเป็นการ์ตูน ที่สำคัญคือภาพสวยลายเส้นดีงานละเอียดมาก แต่ละเรื่องก็มีความแตกต่างหลากหลายสนุกอีกต่างหากเห็นชื่อแนวของซีรีย์แล้วก็รู้สึกว่าจริงๆ ก็ไม่ได้ระทึกขวัญน่ากลัวขนาดนั้น ส่วนตัวตอนที่เราชอบคือ ตอน พยานค่ะ เล่นกับการวนลูปได้สนุกดี เอาเป็นภาพรวมว่าดีมากค่ะต้องตามไปดูกันนะ คะแนน : 9 /109.Titanshttps://heroichollywood.com/wp-content/uploads/2019/01/Titans-DC-Universe-Banner.jpg11 ตอน จบ 1ซีซั่น ( 9 ชั่วโมง แอคชั่นมันส์ๆ ) เรื่องราวจุดเริ่มต้นของการรวมตัวของTeen titan เหล่าฮีโร่ที่เคยโลดแล่นปราบเหล่าร้ายในการ์ตูนวัยเด็กจากค่าย DC ตอนนี้ได้ถูกนำมาเล่าเรื่องเป็นซีรีย์แล้ว ในซีซั่นนี้จะเล่าที่มาของฮีโร่แต่ละคน นักสืบดิคเกรย์สันหรือโรบิน สาวผู้มีพลังซาตานอย่างเรเชลหรือเรเวน สาวจากต่างดาวหรือสตาร์ไฟร์และ ชายหนุ่มผู้กลายร่างเป็นสัตว์ร่างกายสีเขียวการ์แนว : แอคชั่นผจญภัย , อาชญากรรม , ซีรีย์จากหนังสือการ์ตูน สาวก DC จะต้องหวีดให้กับซีรีย์เรื่องนี้ เหมือนกับว่าถูกสานฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง ในซีรีย์หยิบเรื่องราวมาเล่าได้แตกต่างจากการ์ตูนไปมากพอสมควรแต่ก็ยังใส่รายละเอียดเค้าโครงเดิมอยู่บ้างทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องดูโตขึ้น เหมาะกับการทำเป็นซีรีย์มาก ๆ และยังเพิ่มความน่าสนใจโดยปูพื้นหลังให้กับคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวได้อย่างดีเลยทีเดียว ในเรื่องนี้พระเอกอย่างโรบิน งานดีได้ใจเราไปมาก ๆ แต่ที่ชอบที่สุดคือ สตาร์ไฟร์ ที่มาในลุคสาวผิวสีสุดแซ่บ ตัวละครนี้อาจโดนกระแสลบจากหลาย ๆ ทาง แต่ส่วนตัวเราชอบมากคิดว่าเธอเป็นตัวละครที่โดดเด่นและสร้างสีสันในเรื่องได้มาก แนะนำให้ไปดูค่ะสานฝันวัยเด็กให้เป็นจริงกันคะแนน : 9/1010.The haunting of hill househttps://f.ptcdn.info/425/060/000/ph18eljniX3MoYVTXWO-o.jpg10 ตอนจบ ( 10 ชั่วโมง )ใครใจแข็งก็ดูให้จบภายในวันเดียวไปเลย แม้เวลาจะผ่านไปจนถึงปัจจุบัน แต่เรื่องราวในอดีตก็ยังคงตามหลอกหลอนพวกเขา ครอบครัวหนึ่งที่ได้ไปอาศัยอยู่ในบ้านชนหุบเขาที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่ามีผีสิง ความทรงจำอันแสนน่ากลัว ความลับ และความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ยังคงทำให้พวกเขาหวนระลึกถึงอดีตแนว : ลึกลับ , สยองขวัญ , ดราม่า , ซีรีย์จากหนังสือ มาถึงซีรีย์แนวผีๆกันบ้าง เรื่องนี้บอกเลยว่าดูให้จบภายใน 1 วันไม่ได้ ไม่ไหวค่ะหัวใจจะวาย เป็นหนังสยองขวัญที่มีมากกว่าผี ยังแฝงเรื่องของครอบครัวเอาไว้อีกด้วย นอกจากจะกลัวผีแล้วยังซึ้งน้ำตาท่วมอีกด้วยค่ะ บรรยากาศในเรื่องทำออกมาได้ดี รู้สึกว่าน่ากลัว หัวใจเต้นรัว และกดดันอยู่ตลอด ฉากตุ้งแช่ตกใจก็เล่นแรงดีค่ะ หัวใจจะวายจริง ๆ หนังจะเล่าเรื่องแบบตัดสลับเหตุการณ์ระหว่างอดีตแลปัจจุบันไปมา อาจจะงงบ้างนิดหน่อย แต่โดยรวมเรื่องนี้ดีค่ะ เป็นอีกเรื่องที่แนะนำให้ดูคะแนน : 9 /10 ครบ 10 เรื่องแล้วค่ะ ที่คัดมาให้เลือกกัน หลาย แนว หลายรสหลายอารมณ์กันเลยทีเดียว หากใครมีอยู่ใน Mylist แล้วก็ลองไปเลือกดูกันนะคะ สนุกทุกเรื่องจริงๆ ค่ะ ปล.การให้คะแนนนั้นมาจากความคิดเห็นและความชอบส่วนตัวของเราเองนะคะ ไม่อยากให้เพื่อนๆเอาไปยึดเป็นเกณฑ์ว่าควรดูหรือไม่ควร อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปชม และให้คะแนนกันเอง หวังว่าบทความของเราจะช่วยลดปัญหา ซีรีย์เต็มตู้ แต่ไม่รู้จะดูอะไรกันลงไปบ้างนะคะ :)เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Netflix