ภาพปก จาก Nathan Cowley โดย Pexelsเป้าหมายในการออกกำลังกาย แต่ละคนมีเป้าหมายในการออกกำลังกาย เพื่ออะไรสักอย่าง ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตัวเอง วันนี้ผมมี 4 ประเภทการออกกำลังกาย มาฝาก ประกอบไปด้วย Endurance, Hypertrophy, Loss Fat, แล้วก็ Sport Performance สำหรับใครที่พร้อมแล้ว มาเริ่มที่ข้อแรกประเภทของการออกกำลังกาย1. Endurance เพิ่มความอึด เช่น นักวิ่ง นักฟุตบอลภาพประกอบ1 จาก Tembela Bohle โดย Pexelsประเภทกีฬาที่เน้นความอึดเป็นส่วนใหญ่ จะมาจากการทำอะไรบางอย่างต่อเนื่อง แบบไม่พัก (หรือแทบจะไม่พัก) เช่น วิ่งไม่พัก กระโดดไปกระโดดมา เรียกได้ว่ามีการขยับร่างกายอยู่ตลอด2. Hypertrophy เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ สำหรับคนที่อยากกล้ามสวยภาพประกอบ2 จาก Joseph Wayne Buchanan โดย Pexelsรูปแบบนี้เรามักเห็นกันตามสถานที่ออกกำลังกาย หรือ Gym เพราะด้วยความที่อุปกรณ์พร้อม.. พร้อมเพียงพอ ที่จะสร้างกล้ามเนื้อได้! สาเหตุที่ต้องเป็นยิม ก็เพราะในยิมมีอุปกรณ์ที่สร้างความท้าทายให้ร่างกายได้เยอะ หลากหลาย ทั้งยังสามารถปรับความหนักเบาตามความสามารถของเราได้อีกด้วย3. Loss Fat เพื่อลดไขมัน สำหรับคนที่อยากหุ่นลีน เช่น นายแบบภาพประกอบ3 จาก Pikx By Panther โดย Pexelsประเภทนี้สามารถประยุกต์ทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการ Diet เสริมเข้าไป หรือคาร์ดิโอ ล้วนเป็น Loss Fat ทั้งสิ้น เพราะทุกคนเข้าใจได้ ว่ามันคือการ ลดไขมัน!4. Sport Perfomance เพื่อทักษะทางกีฬาภาพประกอบ4 จาก RODNAE Productions โดย Pexelsอันนี้เพื่อทักษะทางการกีฬา สังเกตุเวลานักบอลซ้อมบอล ทำไมถึงต้องซ้อมความไวขา การสับขา? การจับบอล? ลูกเล่นลูกหลอกต่าง ๆ? ทั้งหมดก็เพื่อเป็นทักษะในการเอาชนะคู่ต่อสู้ หรือ Sport Perfomance นั่นเอง#อย่าจำสับสน ข้อนี้กับข้อแรกไม่เหมือนกัน ข้อที่ 4 ถ้าจะให้อธิบายแบบง่าย ๆ อีกอย่างคือ นักบาสเข้ายิมไปยกน้ำหนัก.. เพื่อทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นบาสดีขึ้น เป็นต้น (ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่ที่โปรแกรมออกกำลังกายของแต่ละบุคคลด้วย) สรุปให้สั้น ๆ : ใครอ่านจบมาถึงตรงนี้ ต้องเลือกรูปแบบประเภทการออกกำลังกาย ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของตัวเอง เช่น ถ้ามีกล้ามอยู่แล้ว แต่ยังไม่ชัด แถมอยากเป็นนายแบบอีก อันนี้ก็เลือก Loss Fat หรือ ถ้าเป็นคนผอมมาก ๆ อยากตัวใหญ่ ให้เลือก HypertrophyActions สิ่งที่อยากให้ทำคือเลือกการออกกำลังกายใน List ให้เหมาะกับเป้าหมายของเราหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ (บทความต่อ ๆ ไป มีสอน!!)Tip : ฝึกอย่างน้อย 12 สัปดาห์ เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง สำคัญคือต้องศึกษาให้ดีว่ารูปแบบที่เราเลือกนั้น มีท่าออกกำลังกายอย่างไร การวอร์ม การยืด และรูปแบบการคาร์ดิโอยังไง เพื่อให้เรามีประสิทธิภาพมากที่สุดในการออกกำลังกาย สำหรบบทความนี้ มีแค่นี้ใครอ่านจบ คอมเมนต์มาสั้น ๆ "1"เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !