สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกคนด้วยนะครับ ผม Kakommz ในวันนี้ ผมก็มีหนังสือดีดีอีกหนึ่งเล่ม มาแนะนำให้ทุกท่านได้รับชมกันครับ โดยหนังสือเล่มนี้มีขื่อว่า "ช่างหัวคุณสิครับ! IGNORE EVERYBODY" ของคุณ Hugh Macleod (ฮิวจ์ แมคลาวด์) นักเขียนโฆษณาและนักวาดการ์ตูนชื่อดัง อีกทั้งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ gapingvoid.com อีกด้วย โดยภายในหนังสือเล่มนี้ จะมีการอธิบาย 40 วิธี ที่จะทำให้ผู้อ่านทุกท่าน มองโลกแบบมุมกลับและเข้าใจถึงความจริงของโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น ด้วยสไตล์การเขียนผ่านจากประสบการณ์โดยตรงของคุณ Hugh Macleod นั่นเอง และเช่นเคยครับ ผมจะขออนุญาต เลือกวิธีหรือบทที่ชื่นชอบมาเป็นตัวอย่างและแสดงความคิดเห็นของผมให้ผู้อ่านได้รับชมกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารับชมพร้อมกันได้เลยครับบทที่ 7 (หน้า 40-43) ทุกคนเกิดมาเป็นนักสร้างสรรค์ตอนอยู่อนุบาล เราต่างก็ได้รับแจกสีเทียนไว้ขีดเขียนเล่นเมื่อได้มาพบหัวข้อนี้ ผมก็รู้สึกสะดุ้งจริงๆ ครับกับสิ่งที่คุณ Hugh ได้กล่าวไป เพราะในตอนที่เราเรียนอยู่ชั้นอนุบาล เราทุกคนจะได้รับอนุญาตให้ใช้สีเทียน ไว้ขีดเขียนและสร้างสรรค์จินตนาการที่เราอยากจะวาดลงไปในกระดาษต่างๆแต่เมื่อยิ่งเราโตขึ้น กลับถูกข้อจำกัดบีบรัดการเรียนรู้ให้อยู่ในกรอบมากขึ้น ด้วยการเรียนที่สุดแสนจะน่าเบื่ออย่างวิชาประวัติศาสตร์หรือวิชาคณิตศาสตร์ (สำหรับบางคน) ไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไป สิ่งที่เรียกว่า "แมลงสร้างสรรค์" ในตัวของเรา จะส่ง "เสียงเล็กๆ" บอกเราว่า "ขอสีเทียนคืนเถอะนะ" ก็เป็นได้ครับโดยในบทนี้ คุณ Hugh อยากให้ผู้อ่านทุกท่าน ค้นหาเสียงเล็กๆ อย่าง "แมลงสร้างสรรค์" ที่อยู่ภายในตัวของเราครับ เพราะเสียงนี้ จะนำพาเราไปทำสิ่งที่สร้างสรรค์และปลุกพลังในตัวของทุกคน เพราะจิตวิญญาณของทุกคนยังคงต้องพึ่งพาเสียงนี้ หากมีสิ่งใดที่ยังไม่เคยทำ คุณควรที่จะลงมือจัดการกับสิ่งเหล่านั้นตั้งแต่ตอนนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความสักเรื่อง วาดรูปสักรูป หรือ ประดิษฐ์ของสักชิ้น ลงมือทำเลยครับ อย่าไปกลัว! เพราะขนาดสีเทียนที่คุณเอามาขีดเขียนในตอนเด็ก คุณยังไม่กลัวมันเลย แล้วทำไมตอนนี้จะต้องกลัวกับ "เสียงเล็กๆ" ที่จะปลุก "แมลงสร้างสรรค์" ในตัวคุณด้วยล่ะ? ถ้าสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้ ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนตัวผมเองก็ขอให้ผู้อ่าน ลุยต่อครับ! ถึงสิ่งที่ทำจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ไม่เป็นไร เพราะมันคือประสบการณ์ที่จะหล่อหลอมให้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นแน่นอนครับบทที่ 26 (หน้า 117-120) คุณต้องค้นหาแนวทางของตัวเองศิลปินทุกคนล้วนตามหาช่วงเวลาที่จะสามารถบอกตัวเองได้ว่า "นี่แหละใช่เลย!" เพราะมันคือช่วงเวลาที่พวกเขาจะพบเสียงที่แท้จริงของตัวเองในที่สุดและช่วงเวลากับแนวทางเหล่านั้นจะอยู่กับพวกเขาตลอดไปตัวอย่างเช่น คุณ Hugh Macleod เจ้าของหนังสือเล่มนี้ ค้นพบช่วงเวลาของตัวเองจากการวาดการ์ตูนบนหลังนามบัตร เมื่อแจ็คสัน พอลล็อก ค้นพบวิธีสาดสี เมื่อโรเบิร์ต ไรย์แมน ค้นพบการใช้ผืนผ้าใบสีขาวล้วน หรือแม้กระทั้งตัวของผม ก็อาจกล่าวได้ค่อนข้างเต็มปากเต็มคำว่า ค้นพบช่วงเวลาของตัวเองในตอนนี้ จากการเขียนบทความและทำ Podcast เป็นต้น อีกทั้ง สิ่งสำคัญยิ่งที่คุณ Hugh ได้กล่าวไว้คือ อย่าลืมใส่ตัวตนของตัวเองลงไปในงานหรือสิ่งที่เราทำด้วยครับ เพราะจะทำให้ในท้ายที่สุด สิ่งที่เราได้ทำลงไป มันจะกลายเป็น "ช่วงเวลา" ของเรา เป็น "แนวทาง" ของเรา และเป็น "เสียงที่แท้จริง" ของเรานั่นเองบทที่ 30 หน้า (130-133)ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหนก็มีข้อเสียทั้งนั้น"คุณต้องเสียอะไรบางอย่างถ้าคุณสร้างงานเพื่อเอาใจตลาด แต่ถ้าคุณไม่สร้างงานเพื่อเอาใจตลาด คุณก็ต้องเสียอะไรบางอย่างเหมือนกัน ไม่ว่าจะเลือกทางไหนคุณก็ต้องรับผลที่ตามมาไปแบบเห็นๆ และบอกได้เลยว่าทั้งสองทางล้วนเจ็บปวดเจียนตาย" Hugh Macleodในหัวข้อนี้ คุณ Hugh ได้ยกตัวอย่างการเดินทางของสองศิลปินผู้ยิ่งใหญ่อย่าง วอร์ฮอล ศิลปินชื่อดังผู้ร่ำรวยหรูหรา และ แวน โก๊ะ ศิลปินยากจนผู้มีชีวิตแสนรันทด โดยศิลปินทั้งสองท่าน ต่างยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักในเวลาต่อมา แต่กว่าจะได้มาซึ่งชื่อเสียงอันเลื่องลือ ก็อาจจะทำให้พวกเขาต้องแลกอะไรหลายอย่างมาด้วยเช่นกันอย่างเช่น วอร์ฮอล ก่อนที่จะเป็นศิลปินที่ร่ำรวยและหรูหรา ก็เคยขายตัวตนเพื่อเอาใจตลาดของวงการอย่างไม่อายฟ้าดินในช่วงหลังปี ค.ศ. 1968 (ปีที่ วอร์ฮอล ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนของมือปืนซุ่มยิงที่ตั้งใจจะเอาชีวิตของเขา)หรือ แวน โก๊ะ ศิลปินที่ขายภาพเขียนไม่ได้เลยสักภาพในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็อาจเป็นแรงบันดาลใจให้น่ายกย่องว่า ถึงจะเป็นคนที่ล้มเหลวสุดขีดแบบนี้ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง ซึ่งคุณ Hugh มองว่า ก็จริงอยู่ที่สิ่งที่กล่าวไปของ แวน โก๊ะ เป็นข้อดี แต่ต้องอย่าลืมว่า แวน โก๊ะ ได้ทำการฆ่าตัวตายในวาระสุดท้ายของชีวิต และหลังจากที่เขาเสียชีวิตได้ไม่นาน ตลาดสำหรับภาพเขียนแนวที่ แวน โก๊ะ วาดนั้นก็คึกคักและโด่งดังขึ้นมาจึงทำให้คุณ Hugh ได้มองอีกทีว่า ถ้าเกิด แวน โก๊ะ อดใจรออีกไม่กี่สิบปี ตัวของเขาก็อาจเป็นเศรษฐีไปแล้ว และคนที่ล้มเหลวทุกคน ก็คงไม่สามารถปลอบใจตัวเองด้วยเรื่องราวของ แวน โก๊ะ ได้อีกต่อไปจนถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่า ผู้อ่านจะสังเกตได้อย่างแน่นอนครับว่า ทุกเส้นทางที่ได้กล่าวไปจากตัวอย่างเหล่านี้ ต่างมีข้อเสียในท้ายที่สุดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ถึงจะเป็นความจริงอันแสนโหดร้าย แต่ในหลายครั้ง เราต้องยอมรับกับเส้นทางที่เราเลือกครับ เพราะถึงแม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง ก็ต้องมีข้อดีผสมอยู่เช่นกัน ผมจึงขออนุญาตกล่าวว่า ให้ผู้อ่านทุกท่าน ยอมรับและเผชิญหน้ากับเส้นทางที่เราเลือกเดิน เพราะถ้าผ่านไปได้ เราจะแข็งแกร่งในการฝ่าฟันอุปสรรคมากขึ้นแน่นอนครับผมหวังว่า ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนาตนเอง ให้แข็งแกร่งต่ออุปสรรคที่กำลังเผชิญอยู่ ไม่มากก็น้อยนะครับ สุดท้ายนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับ Book Review By Kakommz ครั้งหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ ผู้อ่านที่น่ารักทุกคนAbout Factชื่อหนังสือ : ช่างหัวคุณสิครับ! IGNORE EVERYBODYพิมพ์ครั้งแรกภายใต้ชื่อ (ชื่อเดิมของหนังสือเล่มนี้) : มองมุมกลับ ลับคมความคิดผู้เขียน : Hugh Macleod (ฮิวจ์ แมคลาวด์)ผู้แปล : อาสยา ฐกัดกุลราคา : 185 บาทหมวดหมู่ : พัฒนาตนเองสำนักพิมพ์ : วีเลิร์นภาพหน้าปกโดยผู้เขียนขอขอบคุณภาพประกอบโดยภาพสีเทียน โดย marimari1101ภาพจิ๊กซอว์ โดย wilheiภาพข้อเสีย&ข้อดี โดย Tumisuภาพถ่าย หนังสือ ช่างหัวคุณสิครับ! โดยผู้เขียนบทความ Book Review อื่นๆ ที่น่าสนใจของผู้เขียน- Book Review By Kakommz : คนทำงานเร็วทำอะไรตอนที่เราไม่เห็น- Book Review By Kakommz : SUPER PRODUCTIVE - Book Review By Kakommz : เป็นเราคือพิเศษ- Book Review By Kakommz : รื้อ สร้าง ต่าง โต REINVENT- Book Review : Future Mindset เมื่อวิธีคิดที่คุณมี ใช้กับงานในวันพรุ่งนี้ไม่ได้- Review Book : โลกนี้สอนให้รู้ว่า...- Review Book : Speech Secret เทคนิคการพูด เพื่อความสำเร็จก้าวหน้า