12 วิธีแก้เครียด จากพิษโควิด19 จากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสหรือโควิด19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความกังวลว่าจะติดไวรัสหรือไม่ การที่ผู้ประกอบการต้องปิดกิจการทำให้ต้องตกงานขาดรายได้ หลายคนต้องสิ้นเนื้อประดาตัว โรงเรียนต้องปิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ห้างร้านต่างๆ ร้านอาหาร แหล่งที่ต้องมีการพบปะกันต้องปิดลงเช่นกัน ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย เมื่อรายได้หดและต้องกังวลที่จะต้องระวังป้องกันตัวไม่ให้ติดไวรัสก็ทำให้เกิดความเครียดสะสม ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในช่วงภาวะเช่นนี้ แม้จะต้องเผชิญกับความกดดันต่างๆ ที่ถาโถม ทำอย่างไรเราถึงจะประคองสติ เพื่อรอคอยวันที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ 12 วิธีต่อไปนี้ จะช่วยลดความเครียดของเราลงได้1.โทรพูดคุยถามไถ่กันกับเพื่อนหรือญาติพี่น้อง แม้จะเป็นช่วงที่ทุกคนต้องลดการพบปะเจอกัน แต่การโทรพูดคุยกันก็จะทำให้รู้ว่าคนอื่นก็พบเจอสถานการณ์เช่นเดียวกันกับเรา การพูดคุยก็เป็นการระบายความอัดอั้นตันใจ และเป็นโอกาสที่จะให้กำลังใจแก่กันและกัน เราไม่ได้เผชิญเหตุการณ์นี้เพียงลำพัง 2.การเขียน ก็เป็นการลดความเครียด เขียนระบายสิ่งที่เราอึดอัด เป็นวิธีที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเราคนเดียว แสดงความรู้สึกออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกวิจารณ์จากใคร เป็นการเยียวยาความรู้สึกของเราได้ ซึ่งในทางวิชาการเรียกการเขียนระบายความรู้สึกของเรานี้ว่า Expressive writing ลองเขียนอย่างน้อย 4 วัน ติดต่อกัน แล้วดูว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร3.ออกกำลังกาย เมื่อออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารและฮอร์โมนที่ช่วยลดความเครียดได้ นั่นก็คือ Endrophins จะทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น เลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับเรา ไม่ว่าเดินเล่น วิ่ง การเล่นกีฬาชนิดต่างๆ หรือแม้แต่การทำงานบ้าน การที่ร่างกายได้ขยับและเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเครียดได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทำให้อาการคิดมาก กังวลต่างๆ ก็จะลดลงไปด้วย4.การฝึกนั่งสมาธิ การเจริญสติ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะลดความฟุ้งซ่านคิดมากที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่ง การที่ได้ตระหนักและรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัว เช่นการหายใจ หยุดใช้ความคิดชั่วครู่นั้น สามารถลดความกังวลและซึมเศร้าโดยจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้5.หยุดเช็คโทรศัพท์ หรือหยุดเล่น Social Media อย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมง เป็นการลดการรับรู้ข้อมูล ซึ่งบางครั้งที่อาจเป็นเรื่องหนักๆที่จะมา กระตุ้นความรู้สึกของเราที่อาจนำไปสู่ความเครียดได้6.วางแผนทำอะไรบางอย่าง ลองคิดถึงสิ่งที่เราเคยคิดอยากลองทำที่ในช่วงภาวะปกติที่เรายังไม่มีโอกาสได้ทำใช้สถานการณ์นี้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ถ้าได้คิดถึงสิ่งที่เราชอบเราก็จะคิดได้เรื่อยๆ ไม่แน่หลังสถานการณ์นี้ผ่านพ้นไป เราอาจมี Project ใหม่ๆเกิดขึ้นก็ได้7.ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม จะช่วยดึงความคิดของเราออกจากความคิดวิตกกังวลได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ถือว่าเป็นวิธีลดความเครียดได้ดี8.เล่นกับสัตว์เลี้ยง ใครที่มีสัตว์เลี้ยง การที่ได้เล่นกับสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ก็จะช่วยให้เราผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี9.อ่านหนังสือ เลือกหนังสือที่เราชอบ ซึ่งเราเคยตั้งใจไว้ว่าจะอ่านแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เริ่มลงมืออ่านซักที ก็ใช้โอกาสนี้ได้เริ่มอ่านหนังสือที่เราอยากอ่านได้ การที่สมาธิได้จดจ่ออยู่กับหนังสือที่เราอ่านก็จะช่วยคลายเครียดได้10.ทำงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ การระบายสี การปั้น จะทำให้สภาวะอารมณ์ได้ผ่อนคลายลง ทำให้จิตใจสงบขึ้น การที่ได้ใช้เวลาไปกับการทำงานศิลปะ เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ เป็นการเปิดรับสภาวะอารมณ์ของตัวเอง เป็นวิธีการที่เรียกว่า Art therapy นั่นเอง11.การร้องเพลง ร้องคาราโอเกะ เป็นวิธีการผ่อนคลายจากความเครียดได้ดี เป็นวิธีที่เราได้ปลดปล่อยไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ว่าจะร้องเพลงในห้องน้ำหรือหาแอพคาราโอเกะมาร้อง ก็ลดการที่ต้องไปพบเจอสัมผัสผู้คนได้ พบว่าการร้องเพลงจะทำให้ระดับคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดลดลง ทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น อีกทั้งยังดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ดีต่อระบบทางเดินหายใจ ช่วยกระตุ้นความจำและช่วยเพิ่มความสุขของเราได้12.พบจิตแพทย์หรือโทรปรึกษากับสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ซึ่งกรมสุขภาพจิตได้จัดให้มีบริการคลินิกคลายเครียด เพื่อแนะนำเทคนิคและวิธีการคลายเครียดให้กับผู้ขอรับบริการ ซึ่งสามารถโทรขอรับคำปรึกษาได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงถึงจะมีความเครียดเราก็พร้อมรับมือและผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกันรูปภาพประกอบบทความขอบคุณภาพ ภาพปก โดย geralt จาก Pixabay/ภาพ1 โดย nastya_gepp จาก Pixabay/ภาพ 2 โดย StockSnap จาก Pixabay/ภาพ 3 โดย FrankundFrei จาก Pixabay/ภาพ 4 โดย quimuns จาก Pixabay