"ไม่ว่าจะเลือก หรือไม่เลือกอะไร สุดท้ายคนที่ต้องรับผิดชอบผลการเลือก ก็คือเราเท่านั้น"สวัสดีทุกคนด้วยนะครับ ผม Kakommz วันนี้แอดมีหนังสือดีดีมาแนะนำ ที่เมื่ออ่านแล้วจะทำให้ผู้อ่านทุกท่าน เข้าใจ "โลก" ใบนี้มากยิ่งขึ้น นั่นคือหนังสือ "โลกนี้สอนให้รู้ว่า..." นั่นเองครับ โดยหนังสือเล่มนี้จัดอยู่ในหมวดวรรณกรรมร่วมสมัย เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวการเดินทางที่ผ่านมาในชีวิตของนักเขียนหลากหลายท่านมากฝีมือทั้งหมด 10+1 ท่าน ได้แก่นักเขียนนามปากกา คิดมาก, บาร์จเฉย ๆ, กาลครั้งหนึ่ง, บาสเต็ท, เสียงที่ไม่ได้ยิน, พาฝัน, ก็ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แฟน (มิคกี้กับปาย), ตุ๊ดเถื่อน, Khaikung และ บอร์นเก้าสาม ซึ่งนักเขียนทุกท่านที่กล่าวมา ได้เขียนเรื่องราวถึงการเดินทางที่ผ่านมาในชีวิตอย่างมีอรรถรส ตราตรึงใจ และจะทำให้ผู้อ่านทุกท่านที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้รัก "โลก" ใบนี้มากขึ้นแน่นอน เนื่องจากมีเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งเล่มเลยก็ว่าได้ จึงทำให้แอดครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ว่าจะนำเรื่องราวใดในหนังสือมาเป็นตัวอย่างในการแนะนำ ทำให้ในบทความนี้ แอดขออนุญาตหยิบยกตัวอย่างมา 2 เรื่อง ที่แอดได้เลือกและคิดว่าอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจได้มากที่สุด ดังนี้ธรรมชาติของมนุษย์ไม่เดินถอยหลัง โดย กาลครั้งหนึ่งในตอนที่แอดอ่านหัวข้อนี้ แอดถึงกับรู้สึกชะงักไปชั่วขณะ เพราะสิ่งที่ คุณกาลครั้งหนึ่ง ได้ตั้งหัวข้อและอธิบายไป มันคือความเป็นจริงของมนุษย์ทุกคน เพราะ "ธรรมชาติมนุษย์ ถูกสร้างมาเพื่อให้ "เดินไปข้างหน้า" เดินถอยหลังได้บ้าง แต่แค่บางครั้งที่จำเป็น อาจจะเป็นการถอยหลังมาตั้งหลัก แล้วเดินต่อไปใหม่" จึงทำให้แอดมองว่าสิ่งนี้คือธรรมชาติอย่างแท้จริง มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาเพื่อเดินไปข้างหน้าและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ อาจหยุดพักบ้าง แต่ก็ไม่หยุดเดิน เพราะถ้าหยุดเดินเมื่อไหร่ แอดมองว่ามันเปรียบเสมือนกับการยอมแพ้ อาจจะไม่ใช่คำที่สวยหรูแต่การ 'ยอมแพ้' มันจะทำให้สิ่งที่เรากำลังทำ ดำเนินหรือเดินต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นจงเดินอย่างมุ่งมั่น ถึงแม้ผลลัพธ์ในปลายทางจะเป็นอย่างไร มันจะไม่ทำให้เราเสียใจหรือกลับมาเสียดายที่เราไม่หยุดก้าวเดินแน่นอนพอดี โดย บอร์นเก้าสามอีกหนึ่งหัวข้อที่ทำให้ผมเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น นั่นคือ ความ "พอดี" โดย คุณบอร์นเก้าสาม ได้อธิบายว่า "พอดี จึงมีสองความหมายรวมกันว่าคือ "ดี" ไม่ใช่อะไรก็ได้ ยังไงก็ได้ ช่างหัวมัน คว้า ๆ มา ซื้อ ๆ มา ปล่อย ๆ ไป แต่ตั้งใจหาให้ได้ดีเท่าที่เหมาะสม และ "เท่านี้ก็พอแล้ว"" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "พอดี" เป็นสิ่งที่เราทุกคนบนโลกใบนี้ สามารถเลือกได้ สร้างได้ เป็นได้ อื้มมมม~~~ ในชีวิตนี้แอดก็มีตัวอย่างที่คล้ายกับหนังสือได้บอกกล่าวในเรื่องของความพอดี ซึ่งคงจะไม่พ้นการกินบุฟเฟต์ แอดให้ความรู้สึกเหมือนกับที่ คุณบอร์นสามเก้า บอก คือเราไม่จำเป็นต้องกินบุฟเฟ่ต์ให้มันคุ้มมากจนเกินไปหรือกินให้จุกที่สุดก็ได้ แต่ควรจะกินในปริมาณที่พอดีเราอิ่มก็เพียงพอแล้ว เพราะอะไรที่มากไป อาจส่งผลไม่ดีตามมา นี่คือสิ่งที่เราเลือกที่จะ "พอดี" ได้อีกหนึ่งสิ่ง และแอดเชื่อว่าอีกหลายอย่างบนโลกใบนี้ ทุกคนก็สามารถทำให้มันพอดีกับตัวเราได้ เช่นเดียวกับการกินบุฟเฟต์เหมือนกันครับสุดท้าย ภายในหนังสือเล่มนี้ ยังได้บอกสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่จะทำให้ผู้อ่านทุกท่านเข้าใจโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่นักเขียนที่เคารพทุกท่านได้บรรยายผ่านตัวหนังสือภายในเล่ม อาจเป็นเพียงเรื่องราวหนึ่ง ๆ ที่ทุกคนได้สัมผัสจากการอ่านเพียงเท่านั้น ในส่วนนี้จึงขออนุญาตเสริมในมุมมองของแอดว่า สามารถอ่านเป็นเกร็ดความรู้เพิ่มเติมได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ก็กำลังบอกกับเราทุกคนอีกเช่นกันว่า ควรที่จะออกไปใช้ชีวิต เพราะชีวิตเป็นของเรา เราสามารถหาประสบการณ์ได้โดยการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ในห้องเรียนขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า "โลก" แอดจึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าห้องเรียนนี้จะคอยเป็นเพื่อน คอยเป็นครู คอยอยู่เคียงข้างเราทุกชั่วขณะและ "โลกนี้จะสอนให้รู้ว่า..." (เรื่องราวของทุกคนสามารถสร้างได้ด้วยมือเราครับ)About Fact- หนังสือ "โลกนี้สอนให้รู้ว่า..." สามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือ SE-ED, นายอินทร์, B2S ทุกสาขา- ราคา 225 บาทภาพหน้าปกโดยผู้เขียนขอขอบคุณเครดิตภาพภาพ1 โดย Free-Photos ภาพ2 โดย johnhain ภาพ3 โดยผู้เขียนบทความ Review Book เพิ่มเติมของผู้เขียนReview Book : Speech Secret เทคนิคการพูด เพื่อความสำเร็จก้าวหน้าเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !