เรียนตามตรงผมคิดว่าเขียนบทความนี้ดีไหม?เพราะมันจะออกแนว ตีความเชื่อให้แตกแล้วนำหลักวิชาการมาอธิบาย คล้าย ๆ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วน ๆ แต่เอาเหตุผลมาอธิบาย ไม่รู้สิครับอาจจะขัดใจบางคนบ้างผมขอโทษไว้ล่วงหน้านะครับ แต่ลึก ๆ ผมก็แค่อยากเตือนสติผู้อ่านที่กำลังจะสละโสด/โสด แต่ยังคงแสวงหาความรัก และขอโอกาสให้บทความนี้ได้เตือนตัวท่านเองบ่อย ๆ ว่า ความรักของคน 2 คน1. ความรักมันเป็นผลจากความสัมพันธ์อันดีของคน 2 คน ว่า คนทั้งคู่ตั้งใจจะประคับประคองความรู้สึกดี ๆ ให้ไปถึงฝั่ง2. จากข้อ 1 ทำให้บางท่านมองว่า เมื่อรักกันแล้ว อีกฝ่ายมักมีคำฮิตติดปากว่า "เขา/เธอเป็นของฉัน"2.1 ใคร ๆ ก็พูดได้? แต่ผมอยากจะบอกสักเล็กน้อยว่า การแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวมนุษย์ มันหมดไปตั้งแต่ยุค (ยังไม่เลิก) ทาสแล้ว ที่กฎหมาย (สมัยนั้น) อนุญาตให้เจ้านายมีกรรมสิทธิ์เหนือตัวทาส หลังจากที่มีการเลิกทาส การอ้างความเป็นเจ้าของในตัวคนเรา จึงต้องเป็นอันระงับไป คงจะเหลือแต่ความเป็นเจ้าของ มักจะอยู่เหนือสิ่งของต่าง ๆ ที่มิใช่มนุษย์ เช่น บ้าน ที่ดิน ทรัพย์สมบัติ สัตว์เลี้ยง ฯลฯ แต่ ในเนื้อตัวร่างกายเราไม่อาจอ้างกรรมสิทธิ์ในตัวคนได้อีกต่อไป กลับบ้าน/โทรจิกบางคนอาจค้านว่า ก็โทรบอก/จิกให้คนรักกลับบ้าน ไม่ได้แสดงถึงความเจ้าของหรือ? ... เรียนตามตรงคุณเข้าใจเหมือนจะถูก แต่ผิดครับ ยกตัวอย่างง่าย ๆ คุณถูกขโมยรถ แล้วทราบว่าขโมยเป็นใคร จึงใช้สิทธิความเป็นเจ้าของเรียกรถคืน แต่ถ้าเป็นคนรัก การที่เขาจะกลับมาหรือไม่? มันเกิดจากการตัดสินใจนึกคิดของเขาเอง ส่วนกรณีรถที่ถูกขโมย คงไม่มีทางที่รถจะขับกลับมาเอง (ถ้าเป็นอย่างนั้น เจอกันที่วัด) ดังนั้นการส่งมอบรถจึงเป็นหน้าที่ระหว่างหัวขโมยกับคุณ คุณอาจจะขับเองหรือให้หัวขโมยขับมาส่ง ส่วนคนรักจะกลับบ้านหรือไม่กลับบ้าน ให้คุณจ้าง grab ไปรับ ถ้าเขาไม่กลับ คือ ไม่กลับ แม้เขาจะกลับ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่มีทางออกไปไหน แต่เมื่อคุณกับเขาจดทะเบียนสมรส ความเป็นสามี-ภริยาจะเกิดขึ้นทันที ถ้าคนรักคุณไปกุ๊กกิ๊กข้างนอก มือที่สามพยายามมาวุ่นวายกับสถานะของความสามีภริยาตามกฎหมาย กฎหมายก็ให้อำนาจเพียงเรียกค่าเสียหายกับสร้างเหตุหย่า แต่ไม่มีสิทธิติดตามเอาคืน ... ถึงมีจริงอะไรคือหลักประกันว่าคุณจะได้ทั้งกาย และใจถูกไหม?ด้วยเหตุนี้กฎหมายจึงให้เพียงสิทธิ เรียกค่าเสียหายจากคนที่มารบกวนความสัมพันธ์ และหาทางออกว่า หย่าไหม? ถ้ามันไปต่อไม่ได้ แต่ การติดตามเอาคนรักคืนทั้งกายและใจ ศาลทำให้ไม่ได้ ถ้าผมเป็นศาลคงย้อนถามว่า ขนาดคุณยังตามกลับมาไม่ได้ แล้วจะให้ศาลตามกลับอย่างไร -ถูกไหม? โซ่คล้องใจระหว่างคนสองคนด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอย้ำอีกครั้งว่า "ความรัก" ที่เกิดจากคน 2 คนนั้น มันไม่ใช่ทรัพย์สิน แต่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกดี ๆ ที่เราเรียกความสัมพันธ์นั้นว่า ความรัก ไม่ใช่ กรรมสิทธิ์ เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่พูดเธอเป็นของฉัน หรือ ฉันเป็นของเธอให้เอ๊ะไว้เสมอว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของใครจริง ๆ คงมีแต่ความซื่อสัตย์ มั่นคง จริงใจ เท่านั้น ที่จะถือเป็นโซ่คล้องใจ ท้ายนี้ผมขอแนะนำทริปส่วนตัวที่ผมกับแฟนใช้ แม้จะห่างด้วยระยะทาง คือ 1. อิสระของแต่ละคนต้องมี เพราะไม่ว่าจะโลกของเขาและ / หรือเรา มันจะต้องมีมากกว่าแค่คนสองคน - เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ตลก!2. รักแท้ว่าหายาก แต่รักษารักแท้ยากยิ่งกว่า!3. ความซื่อสัตย์ไม่ได้แปลว่าคุณไม่เคยนอกใจ แต่มันจะวัดตอนคุณมีโอกาสนอกใจแต่ไม่นอกใจนั่นแหล่ะบทพิสูจน์4. คุยกันทุกวันวันละ 1 ชั่วโมง ไม่น้อยนะครับ อย่าลืมว่า 24 ชั่วโมงของเขา แบ่งให้เราตั้ง 1 อีก 23 ก็ควรให้เขาไปใช้ชีวิตไหมครับ จะเรียกร้องอะไรอีก5. ความรักที่ดีเหมือนคุณใส่เสื้อผ้า เน้นความสบาย ไม่ใช่อึดอัด-เข้ารูป ใครบอกว่าเป็นคนรักกันต้องไม่มีอะไรปิดบัง แต่ไม่ได้แปลว่าระยะห่างระหว่างกัน = 0 ยกตัวอย่างกลางคืนนอนกอดกัน ตื่นเช้าก็แยกกันไปคนละทิศ? ถ้าใช่ - โปรดมีระยะห่างระหว่างคนรักด้วย เพราะถ้าคุณ คือ พื้นที่ปลอดภัยให้เขา เขาจะออกไปหาพื้นที่ปลอดภัยที่อื่นทำไม?สุดท้ายนะครับ6. เมื่อเราไม่อาจอ้างกรรมสิทธิ์ในตัวกันและกันได้ แต่เรามีความชอบธรรมที่จะอ้างว่า หน้าที่ของคนรักที่ดี และหลัก "ถ้าเธอเป็นฉัน - เธอยังโอเคอยู่ไหม?" นำไปปรับใช้นะครับ เชื่อผมเพราะผมพิสูจน์มาแล้ว Trust me 'coz I am a lawyer + 执子之手,与子偕老 สุขสันต์วันแห่งความรักล่วงหน้านะครับถ้าโสดก็ขอให้เจอรักแท้ ... ถ้ายังไม่เจอ ผมเสียใจด้วย ท้ายนี้ขอบพระคุณเครดิตภาพ : ปก / ภาพ 1 / ภาพ 2 / ภาพ 3 / ภาพ 4ปล. This article couldn't be done if I didn't meet Y[o]U // 我爱你胜过一切 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !