เป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่สาวกหงส์แดงลิเวอร์พูลแทบจะไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมส์ที่ทำได้เพียงแค่เสมอทีมท้ายตาราง เวสต์บรอมมิช อัลเบียน ในถิ่นแอนฟิลด์ที่ปราบคู่แข่งมานักต่อนัก มิหนำซ้ำผลงานของผู้มาเยือนในฤดูกาลนี้ย่ำแย่ที่สุดซึ่งเก็บไปได้เพียง 8 แต้ม จาก 15 นัด ชนะ 1 เสมอ 5 แพไปถึง 9 นัด ซึ่งก่อนแข่งหลายคนมองว่าไม่น่ารอดอย่างแน่นอนและยิ่งไปกว่านั้นก่อนแข่งทีมที่ไล่หลังมาอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเลสเตอร์ ซิตี้ ยังทำได้เพียงแค่เสมอกันยิ่งเข้าทางแบบเต็มประดาที่จะไปผงาดบนหัวตารางแบบชิล ๆ ที่แทบจะยกมือชูถ้วยดับเบิ้ลแชมป์ แต่แล้วกลับไม่ได้เป็นไปอย่างฝันเหมือนในละครหลังข่าวซะอย่างนั้น และหากย้อนกลับไปดูผลการแข่งขันที่ผ่านมากลับพบอะไรที่แปลกตาไม่น้อยสำหรับ หงส์แดงลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ หากจะบอกว่าเป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่น่าผิดหวังของหงส์แดงลิเวอร์พูลก็คงไม่ผิดมากนักสำหรับผลการเสมอทีมรองบ๊วยแบบไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะจากตัวผู้เล่นแม้ว่าจะไม่ได้สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซนต์ หากเทียบตัวต่อตัวกลับห่างกันอยู่หลายขุมยิ่งกว่านั้นสามประสานแดนหน้ายังลงทำหน้าที่พร้อมกันแบบเต็มอัตราศึก แถมยังได้เล่นในถิ่นแอนฟิลด์เรียกได้ว่าเข้าทางสำหรับการทำแต้มนำโด่งเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับสาวกลิเวอร์พูลทั่วโลก แต่กระนั้นกลับต้องช๊อคกับผลการแข่งขันที่ออกมาแบบไม่มีใครคนไหนในโลกคาดคิด จนเกิดคำถามขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลิเวอร์พูลกันแน่ มาถึงตรงนี้ลองมองย้อนกลับไปยังผลการแข่งขันที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลที่ไม่ว่าเจอกับใครก็ใส่ไม่ยั้งแต่ดันเสมอกับทีมท้ายตารางแบบผิดฟอร์มถึงสามเกมส์ที่น่าจะเก็บชัยชนะได้แบบใส ๆ เริ่มต้นจาก วันที่ 28 พฤศจิกายนที่ต้องออกไปเยือนไบรท์ตันและทำได้แค่เสมอ 1 – 1 ซึ่งสถิตินัดนั้นโอกาสการจบสกอร์ดันเป็นของเจ้าบ้านแบบไม่น่าจะเกิดขึ้นโดย ไบรท์ตัน มีโอกาสยิง 11 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูล ยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้นเอง นัดต่อมาที่ไม่ควรเกิดขึ้นนั่นก็คือ เสมอ ฟูแล่ม โดยสถิติการยิงใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ลิเวอร์พูลเหนือกว่าในเกมส์นี้คือโอกาสครองบอลที่มากกว่าถึง 76% ถือว่าเป็นสองเกมส์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะด้วยสถิติ ครองบอล โอกาสยิง มีเยอะแต่กลับโยนโอกาสทิ้งเหวเอาดื้อ ๆ ก็พอเข้าใจได้ว่าเกมส์ฟุตบอลมีแพ้ มีชนะ มีเสมอ และมันก็เกิดขึ้นได้กับทุกทีม แต่ไม่ใช่กับทีมที่สภาพทีมย่ำแย่และท้ายตารางแบบนั้นเพราะลองคิดดูว่าทั้งสามเกมส์สามารถเก็บได้ 9 แต้ม แต่ดันโยนทิ้งเองด้วยมือของตัวเองถึง 6 แต้ม และหากดูแต่ละเกมส์กลับเป็นลิเวอร์พูลที่ใช้โอกาสเปลืองในการจบสกอร์ทั้งสามนัด อีกอย่างหนึ่งที่ลิเวอร์พูลนั้นทำได้ไม่ดีเท่าไหร่คือเกมส์นอกบ้าน สองจากสามนัดที่เสมอทีมท้ายตารางนั้นดันมาจากเกมส์นอกบ้านถึงสองนัด มันแสดงถึงความไม่ละเอียด ความไม่สม่ำเสมอ พอเข้าใจได้ว่าการขาด เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังตัวเก่งของทีมไปมีผลค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนที่เหลืออยู่จะทดแทนไม่ได้เพราะในหลายเกมส์ก็โชว์ฟอร์มไฉไลแบบผิดหูผิดตา แต่กระนั้นก็ยังไม่วายเกิดความผิดพลาดจนนำมาสู่สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่า หรือนี่อาจจะเป็นสิ่งทำให้พลาดดับเบิ้ลแชมป์ เมื่อมองไปอีกสามนัดที่เหลือของหงส์แดงลิเวอร์พูลแล้วละก็ไม่มีทางปฏิเสธได้เลยว่า 9 แต้มข้างหน้าจะต้องได้มาอย่างง่าย ๆ แน่นอนเพราะทีมที่จะเจอนั้นเรียกว่าขนมกรุบง่ายต่อการเคี้ยวลงคอซะเหลือเกิน โดยเริ่มจากวันพฤหัสที่ 31 ธันวาคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ออกไปเยือนสาริกาดงนิวคาสเซิล ต่อไปด้วยเกมส์นอกบ้านฉะนักบุญเซาแธมป์ตัน ในวันที่ 5 มกราคม และนัดสุดท้ายก่อนเกมส์แดงเดือนเปิดบ้านตอนรับแอสตันวิลลา ในวันที่ 9 มกราคม ซึ่งจะพลาดไม่ได้แม่แต่นัดเดียว เมื่อโอกาสมาถึงต้องทำให้ได้เพราะพลาดมาเมื่อไหร่นั่นคือหายนะ สาวกหงส์แดงจากทั่วโลกต่างรอคอยชูถ้วยดับเบิ้ลแชมป์เพื่อลบคำสบประมาทจากทีมที่คุณก็รู้ว่าใคร “You never walk alone” เครดิตภาพปก sport.trueid.net/ ภาพประกอบ ภาพที่ 1,ภาพที่2 ,ภาพที่ 3 ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> เปิดปัจจัยแมนฯยูคว้าชัยพรีเมียร์ลีกพลิกแซงลิเวอร์พูล เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !