อื่นๆ
เมื่อฉันขายทาร์ตไข่สู้โควิด
วันแรกที่ได้พบกับทาร์ตไข่ รู้สึกว่าขนมชิ้นนี้มันดูดีมีศิลปะ รูปทรงมันเป็นถ้วย สีสันมันน่าสนใจ ชิ้นมันกำลังดีที่จะนำเข้าปาก ทดลองซื้อทาน พอหยิบขึ้นมา มันอยู่บนถ้วยฟรอยด์สีเงิน ยิ่งทำให้สีสันมันเป็นสีเหลืองทอง สวยงาม หน้าขนมเป็นไข่สีทองปนน้ำตาลไหม้ ให้ดูเห็นว่ามันต้องผ่านการอบให้สุกจนไข่กลายเป็นสีน้ำตาล ชวนให้น้ำลายสอยิ่งขึ้น เข้าปากเลยละกัน อือ มันนุ่มนวล คนทำขนมช่างมีศิลปะอะไรเช่นนี้ รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ไม่หวานเกิน แถมยังนุ่มละมุนอยู่ในปากไปถึงลำคอ กลืนลงไปละ 2 คำก็หมดชิ้น บางคนใส่เข้าไปทั้งชิ้นเลยไปแบ่งในปาก ฉันทานต่อเลย 2 ถ้วย ตอนเข้าปากแพร็บเดียวหายไปแล้ว ลงไปในท้อง แต่เอ๊ะ มันอยู่ท้องนะ ก็เพราะมันเป็นไข่นะซิ มันถึงอยู่ท้องกว่าขนมอื่น
หลังจากได้ลิ้มรส ก็ถึงเวลาทำรายได้จากทาร์ตไข่ ฉันเริ่มรับทาร์ตไข่มาทดลองขายดู ด้วยการบวกกำไรนิดหน่อย 25% แต่เป็นราคาที่คนกินรับได้ด้วยนะ ไม่ใช่บวกเว่อร์ ราคานี้คนซื้อกินจริง แม้แต่คนประหยัดแบบรัดเข็มขัด ก็อยากลองลิ้มชิมขนมหน้าตาน่ารักนี้ วันแรกที่ขาย ขายดีค่ะ คนสนใจเยอะ ขายง่ายมาก แต่ฉันไม่ได้ตั้งร้านขาย เพียงแค่ใส่ถาดเล็กๆ ถือแล้วยืนขาย เรียกคน "รับทาร์ตไข่ไหมคะ ทาร์ตไข่อร่อยนะคะ" แค่นี้ก็ได้ลูกค้า ขายได้ล่ะ ทาร์ตไข่ขายดีหมดเร็ว เป็นจังหวะช่วงเช้า คนเอาไปทานช่วงเบรคกาแฟ หรือทานเป็นมื้อเช้าเลยก็มี แบบพ่วงกับมื้อเช้าไป ก็เป็นหนึ่งอิ่มที่ครบทั้งคาวหวาน ลูกค้าที่ซื้อฉันส่วนใหญ่ เป็นประเภทมีเวลาเก็บความสุขเล็กๆน้อยๆ ไม่เร่งรีบ ไม่เครียด มีอารมณ์สุนทรีย์ว่างั้น ตั้งแต่พวกเธอจ้องทาร์ตไข่ด้วยสายตาหลงรัก แล้วก็สั่งจะเป็นกี่ชิ้นฉันก็ยินดีหยิบให้ และกล่าวขอบคุณที่อุดหนุน กำไรจากการขายทาร์ตไข่ของฉันดูไม่เท่าไร แต่ก็พอเก็บไว้ใช้จ่ายค่ากินอย่างประหยัดของฉันได้ช่วงหนึ่ง
Advertisement
Advertisement
ฉันรับทาร์ตไข่มาขายเพิ่มขึ้น ให้เพียงพอต่อคนซื้อทาน ช่วงแรกต้องรับมาเพิ่มขึ้น จาก 20 ชิ้น เป็น 30 ชิ้น 40 ชิ้น จนถึง 70 ชิ้นต่อวัน ฉันขายหมดภายในวันเดียว ก็ติดใจซิคะ วาดฝันเลยว่า ถ้าขายครบ 100 ชิ้นต่อวันได้เมื่อไร ราคาที่รับมาจะถูกลงไปอีก คำนวณแล้วกำไรจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แล้วรายได้ต่อเดือนจะตกเกือบหมื่น แต่พอเข้าอาทิตย์ที่ 3 การขายเริ่มช้าลง จะเป็นเพราะคนกินเริ่มชินกับรสชาติ ไม่แปลกใหม่เหมือนวันแรกๆ หรือไงไม่รู้ ทาร์ตไข่เริ่มออกช้าลง บางวันเหลือฉันต้องจัดการกินเสียเอง กำไรเริ่มเปลี่ยนเป็นขาดทุน ไม่กินข้าวอย่างอื่น แต่ฉันกินทาร์ตไข่เป็นมื้อเย็นค่ะ อีกอย่างสถานที่ขายของฉัน อาศัยขายฟรี ไม่ต้องเสียสตางค์ พอไปขายบ่อยเข้า ก็โดนเหล่ซิคะ มาขายฟรีที่คนอื่นเขา เขาเห็นขายได้ เห็นมาบ่อย ก็ถูกกำจัดไม่ให้มาขายล่ะ เป็นซะอย่างนั้น แล้วก็แปลกทุกที่ที่ฉันไปขายทำอย่างเดียวกันหมดเลยค่ะ คือพอไปบ่อยเข้าเจ้าถิ่นก็เขม่นล่ะ ไปแย่งส่วนแบ่งเขา คงจะต้องจ่ายให้เขาบ้าง แต่ฉันมันกำไรน้อย พอแค่ค่ากินวันหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีมากมาย ให้ใครไม่ได้จริงๆ เมื่อคนซื้อน้อยลง บวกที่ขายไม่มี ฝนฟ้าก็ไม่อำนวยอีก ก็ถึงอวสานของการขายทาร์ตไข่ของฉันล่ะค่ะ บทบาทแม่ค้าทาร์ตไข่ก็จบลงใน 3 สัปดาห์ แต่ก็สนุกดีค่ะ และมีเงินเก่าอยู่ครบด้วย ยืดเวลาสู้โควิดได้ 21 วัน
Advertisement
Advertisement
บทสรุปการขายทาร์ตไข่ ถ้าจะขายทาร์ตไข่ควรเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มใหม่ ให้เขารู้สึกถึงความแปลกใหม่ อยากลอง อยากซื้อกิน เราจะขายเขาได้เพียง 20 วันสำหรับกลุ่มลูกค้าหนึ่งๆ ต้องหาลูกค้ากลู่มใหม่ไปเรื่อยๆ คุณจะยืดเวลาของอาชีพขายทาร์ตไข่ให้นานขึ้น ไม่ต้องทนรับสภาพขาดทุนเพราะลูกค้าเริ่มชินกับทาร์ตไข่ อย่าให้ลูกค้ารู้สึกชินค่ะ เมื่อไรที่พวกเขาชิน คุณจะขายเขาไม่ได้อีก เขาจะเห็นว่ามันไม่จำเป็น ยิ่งเศรษฐกิจอย่างนี้เขาจะเลือกซื้อกินเท่าที่จำเป็นค่ะ คุณผู้อ่านสามารถประยุกต์ใช้กลยุทธการขายนี้กับอาหารหรือสินค้าชนิดอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันได้ค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ภาพปก ขอบคุณ zcf0508 จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณ Jason Goh จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณ CarolinaP จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณ thethe3781 จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณ Clker-Free-Vector-Images จาก Pixabay
ความคิดเห็น
