ฮัลโหลลลลทุกคน วันนี้หยิบประเด็นรถไฟมาพูดหน่อย แต่ แต่ไม่ใช่รถไฟไทยนะคะ เป็นรถไฟอินเดียจ้า จุดประสงค์ที่เลือกนำเสนอประเด็นนี้ก็เพราะว่า อยากให้คนไทยหลาย ๆ คนมองในมุมอื่น ๆ บ้าง เพราะเรามักจะเคยได้ยินคนไทยถามและแชร์ภาพรถไฟอินเดียที่ดูเก่า ๆ คนแน่น ๆ คนนั่งบนหลังคาอย่างมหาศาล แล้วก็กล่าวหาเขา ฮือออออ จริง ๆ แล้วนั้น สิ่งที่เรารับรู้ตามคำกล่าวอ้างมานั้นเป็นจริงเพียงบางส่วนเท่านั้นนะคะ ยังมีอีกหลาย ๆ มุมที่คนไทยไม่ทราบ วันนี้หญิงเถื่อนเลยจะมาบอกเรื่องราวที่คนที่คนไม่ค่อยทราบเพราะยังไม่เคยไปสัมผัสเองจริง ๆ 1. ไม่ได้สกปรกย่ำแย่ทุกขบวนขนาดนั้น พอบอกว่าเราไปด้วยรถไฟอินเดียปุ๊ป.... รอบข้างจะแบบ เฮ้ยยย !!! แกกล้าไปได้ยังไงว่ะ เพราะภาพจำของเขาคือ รถไฟอินเดียต้องเก่า กรัง ห้องน้ำเหม็น ต้องบอกว่ารถไฟแต่ละคลาสคือจะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดหมด แต่ แต่ละขบวนเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดจะขยันทำ หรือไม่ขยันทำมันก็อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องห้องน้ำเนี่ยเหมือนห้องน้ำในชั้น 3 ของรถไฟไทยเลยค่ะ มีทั้งแบบนั่งยอง ๆ และแบบโถสุขภัณฑ์ มีที่น้ำให้ทำความสะอาดทั้งแบบสายฉีด และแบบรองตัก ถ้าคลาสดี ๆ นี่จะมีอ่างล้างมือ และสบู่ล้างมือที่หอมมาก ๆ ให้ใช้ด้วย แต่ก็ใช่ค่ะ ถ้าเป็นชั้น 3 ชนบทอาจเจอปัญหาเรื่องกลิ่น แต่อย่างที่บอกไปว่า ไม่ได้สกปรกย่ำแย่ทุกขบวนตามที่คิดกันค่ะ 2. รถไฟอินเดีย ดีและสบายกว่าบัส บางคนเลือกบัส แทนรถไฟ เพราะเข้าใจว่า รถบัสดีกว่า อันนี้คือเข้าใจผิดอย่างแรงเลยนะคะ เพราะถ้าคุณคุยกับชาวอินเดียว่าถ้าต้องเลือกเดินทางด้วยรถบัส และรถไฟ พวกเขาจะเลือกรถไฟ และบอกต่อว่า รถไฟดีและสบายกว่ารถบัส สาเหตุที่คนไทยมักคิดว่าไม่ควรไปรถไฟอินเดียมันก็สืบเนื่องมากจากเหตุผลในข้อ 1 และเข้าใจว่ามันมีแค่ขบวนประเภทเดียวที่มีคนนั่งบนหลังคาเยอะ ๆ เพราะแน่น แต่ความจริงคือ รถไฟอินเดียมีหลายคลาสมาก ๆ จนไม่สามารถลำดับได้ว่า ขบวนไหนเป็นชั้นไหน เช่น AC First class ก็คือชั้น First class ในขณะที่ ขบวน First class (ไม่มีคำว่า AC ข้างหน้า) ก็จัดเป็นรถไฟประเภท First class เช่นกัน แล้วแบบไหนมัน First class ขั้นสุดกว่ากันล่ะ ? (ต้องไปลองกันเองค่าาา) ซึ่งทั้ง 2 แบบนั้นก็นั่งและนอนสบายมาก ๆ แค่ AC2 ยังไม่ถึง First class นี่ก็คือหรูแล้ว แอร์เย็นฉ่ำ ประตูปิดขบวนมิดชิด เจ้าหน้าที่เดินตรวจบ่อยมาก ๆ สบายหายห่วง นอนยาวๆได้เลย 18 ชม. บน AC2และ3 หญิงเถื่อนก็ผ่านมาแล้วจ้า 3. มีของกิน โดยการสั่งผ่าน Application เรื่องกินเรื่องใหญ่ค่ะบอกเลย นั่ง 18 ชม. บน ชั้น AC หรือจะทรหด มึนมัน 21 ชม. บนชั้น SL (ชั้น 3) หญิงเถื่อนได้หมดค่ะ แต่ต้องมีอะไรให้ดิฉันกินค่ะ ฉันหิวตลอดเวลา เราไม่กล้าซื้อของหาบเร่ขายอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นคนที่สามารถทานสตรีทฟู้ดอินเดียได้โดยไม่เคยท้องเสีย แต่ก็ไม่อยากเสี่ยง จู๊ด ๆ บนรถไฟ เพื่อความปลอดภัยของระบบขับถ่าย ขอสั่งออนไลน์อาหารที่ถูกบรรจุใส่ในบรรจุชั้นดีมาแทนล่ะกันนะ ซึ่งก็สั่งผ่านแอปรถไฟอินเดียได้เลย ที่แอป indian Railway & IRCTC Info app 4. มี Application ติดตามรถไฟที่เสถียรและเรียวไทม์ รถไฟไทยก็มีแอปติดตามรถไฟแล้วเหมือนกัน แต่หญิงเถื่อนรู้สึกว่ามันยังไม่เสถียรและแม่นยำเท่าแอปติดตามรถไฟของอินเดีย ซึ่งแอปนี้ในอินเดียก็มีมานานมาก ๆ แล้ว ของอินเดียเพียงแค่เราโหลดแอป indian Railway & IRCTC Info app แล้วใส่ เลขติดตามรถไฟ หรือก็คือ PNR ซึ่งเราจะได้เลขนี้เมื่อทำการจองรถไฟและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลก็จะปรากฎสถานะรถไฟ ว่า เวลานี้อยู่สถานีใด จะออกจากสถานนีนั้นในเวลาใด แล้วจะถึงสถานีถัดไปเมื่อใด และจะถึงสถานีของเรานั้นกี่โมง และยังบอกได้ด้วยว่าจะเรทหรือไม่ และถ้าเรท เรทกี่นาที เรียกได้ว่า เสถียร เรียวไทม์ สะดวก สบายใจมาก ๆ เลยแหละค่ะ 5. การขอแลกที่นั่งเป็นเรื่องปกติ มีคนมาขอแลกที่นั่ง เรื่องปกติหรอ??? อ่านแล้วรู้สึกแปลก ๆ ใช่มั้ยล่ะ แต่ใช่ค่ะมันเรื่องปกติ ไม่มีใครโกรธใคร หรือทำตาขวาง มองบน แล้วหันมาซุบซิบกับเพื่อนว่า มนุษย์ลุงมนุษย์ป้าพวกนี้นิกล้าขอแลกได้ไง แต่ตรงนี้หญิงเถื่อนไม่ได้บอกว่า เราจะต้องยอมแลกนะคะ เพียงแต่กำลังจะบอกว่าที่นู้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโต ส่วนใหญ่คนอินเดียด้วยกันมักจะยอมแลกให้ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ปฏิเสธได้เขาก็ไปขอแลกคนอื่นแทนเรา บอกให้รู้ไว้จะได้ไม่เผลอไปมองบน หรือรู้สึกว่ากล้าขอได้ยังไงเมื่อไปยืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ถ้าไม่สะดวกใจจะแลกก็บอกเขาได้จ้า 6. มีปลั๊กชาร์จแบตโทรศัพท์ ใช่แล้วค่าาาาา รถไฟอินเดียมีปลั๊กชาร์จแบตเกือบทุกขบวนจ้า ซึ่งจะต่างจากรถไฟไทยที่จะต้องเป็นคลาสประเภทดี ๆ หรือก็คือรถไฟเบาะสีแดง ๆ เท่านั้นที่จะมีที่ชาร์จแบต แต่สำหรับอินเดียคือนั่งนอนแบบชั้น 3 ก็มีให้ค่ะ มีฝั่งละ 2 ปลั๊ก แต่ประเภทขบวนชานเมืองที่เป็นรถแบบนั่งอันนั้นจะไม่มีจ้า และหญิงเถื่อนขอแนะนำให้พกปลั๊กพวงไปด้วย จะได้ชาร์จได้พร้อม ๆ กันทั้งหมด อ่อและอย่าลืมพกปลั๊กแปลงไฟไปด้วยนะคะ 7. มีเส้นทางรถไฟสายมรดกโลก หากเราเลือกเดินทางไป ชิมลาด้วยรถไฟ เราจะได้สัมผัสเส้นทางรถไฟสายมรดกโลก เป็นรถไฟทอยเทรน ( Toy Train ) ที่เรียกว่าทอยเทรนเพราะขนาดรถไฟมันจะเล็กก็รถไฟทั่ว ๆ ไปนั่นเอง เป็นเส้นทางที่ตัดภูเขา ลัดเลาะไปเรื่อย ๆ สองข้างทางขนาบด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีต้นไม้เขียวขจี ทั้งวิวท้องฟ้า ทั้งมองเห็นหมู่บ้านบนหุบเขาตั้งเรียงราย บอกเลยว่าควรค่าแก่การไปเยือนมาก ๆ หากใครอยากรู้จักเมืองชิมลาเพิ่มเติมก็สามารถไปอ่านได้ที่ พาไปรู้จักเมือง Shimla ราชินีขุนเขาแห่งหิมาจัล ตอนนี้หญิงเถื่อนก็นับว่ารอโควิดหมด รอคอยวันที่จะได้กลับไปลุยเดียวเที่ยวอินเดียอีกครั้ง สุดท้ายใครที่ยังมีความคิดแบบเดิม ๆ เกี่ยวกับอินเดีย หญิงเถื่อนก็อยากให้ลองเปิดใจแล้วมองเขาใหม่นิดหนึ่งนะคะ เพราะปัจจุบันรถไฟอินเดียรวมถึงแอปพลิเคชันในอินเดียเขาล้ำนำไทยไปแล้วจริง ๆ ค่ะ ส่วนใครที่กำลังกังวลมีแพลนเดินทางต้องไปด้วยรถไฟแต่ยังกลัว ถ้ายังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ลุยขนาดนั้น แนะนำให้เลือกคลาสดี ๆ ค่ะ สะดวกสบายไม่แพ้รถไฟชั้น 1 ของไทยเช่นกันค่ะ บอกเล่าจากประสบการณ์จริง แบบฉบับแบกกล้องชิล เที่ยวไปเรื่อย ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวของเรา ก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย YouTube : หญิงเถื่อน Traveler บทความ True ID : หญิงเถื่อน อ่านบทความอื่น ๆ เปลี่ยนไอจีให้คุมโทนได้ง่าย ๆ ด้วย 5 แอปแต่งรูปฟรี แก้ปัญหาผมเสียจากการทำสี ด้วย Kusabana (คุซาบานะ) แชมพูสูตรอ่อนโยนจากประเทศญี่ปุ่น [เที่ยวอินเดีย] ไปเยือน JODHPUR เมืองสีฟ้าของราชาสถาน [เที่ยวอินเดีย] เที่ยวพาราณสี มนต์เสน่ห์เก่าแก่ของอินเดีย [เที่ยว INDIA] อากรา - ชัยปุระ เมืองแห่งสถาปัตยกรรมตระการตา 8 Menu Indian Foods ที่อร่อยจนต้องร้อง Wow