จังหวัดเพชรบุรี หลาย ๆ คนอาจจะอาจจะคิดว่าเป็นจังหวัดทางผ่านของจังหวัดประจวบ ทะเลหัวหินสวย ๆ แต่จริง ๆ แล้วเพชรบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และน่าสนใจหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่าง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มียอดเขาพะเนินทุ่งเป็นเขาที่สูงที่สุดและวิวก็สวยงามเช่นกัน หรือจะเป็นหาดชะอำ ทะเลที่สวยไม่แพ้กับทะเลที่ไหน ๆ เนื่องจากเราได้มาเรียนที่เพชรบุรี 2 ปี ตอนแรกก็ค่อนข้างที่จะเครียดเพราะไกลบ้าน แต่พอได้มาลองอยู่แล้วกลับรู้สึกหลงรักความเป็นธรรมชาติที่เพชรบุรีมาก วันนี้เราได้รวบรวม 6 พิกัดของดีเมืองเพชร ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมาให้ทุกคนได้รู้จักและหลงรักเพชรบุไปพร้อมกับเรา เริ่มต้นกันที่สถานที่วัดดังอย่าง "อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง)" พระนครคีรี หรือเขาวัง เป็นพระราชวังแห่งแรกและแห่งเดียวของไทยที่สร้างอยู่บนยอดเขา โดยที่วัดจะมีทั้งกระเช้าลอยฟ้าไว้คอยให้บริการและมีบันไดให้สำหรับผู้ที่มีเวลาอยากจะเดินชมธรรมชาติระหว่างทาง ซึ่งในครั้งที่เราไปมาเราได้ลองนั่งกระเช้าขึ้นไป บรรยากาศสวยมาก ด้วยความที่วัดอยู่บนเขาเลยค่อนข้างขึ้นไปสูง ทำให้เรามองเห็นบรรยากาศรอบตัวเมืองเพชรเลย และขากลับเราก็ได้เดินลงมาเพราะรอบของกระเช้าลอยฟ้าหมดแล้ว พระนครคีรี ประกอบด้วยยอดเขา 3 ยอด ในแต่ละยอดก็จะมีสถานที่สำคัญที่แตกต่างกันไป เมื่อขึ้นไปถึงบนยอดเขาจะพบเจอสถาปัตยกรรมที่สำคัญมากมาย อีกทั้งตลอดแนวทางเดินจะถูกปลูกไปด้วยดอกลั่นทม เนื่องจากพื้นที่บนเขาค่อนข้างกว้าง มีหลายโซนด้วยกันทำให้ไม่ได้มีคนหนาแน่นเท่าไร เราสามารถเดินชิล ๆ ชมความงานของประวัติศาสตร์ได้แบบไม่ต้องไปเบียดเสียดกับคนจำนวนมาก ขอแนะนำนิดนึงว่าหากจะไปควรมีคู่มือและวางแผนว่าจะไปโซนไปก่อนนะ ไม่งั้นอาจจะหลงหรืออาจจะต้องเดินอ้อมไป แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะเพราะบนเขามีป้ายบอกตลอดทางค่ะ สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือเขาวังมีลิงเยอะมาก ไม่ว่าจะลูกเล็กเด็กแดง หรือรุ่นปู่ย่าก็มีครบ เวลาเดิน ๆ ก็แอบต้องระวังนิดนึง เราเคยเจอมาขอขวดน้ำกินแต่ไม่ได้ไปเพราะเขาห้ามให้อาหารนะคะ และเราก็กลัวน้องได้รับอันตรายจากขวดพลาสติก ฮ่า ๆ เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. ช่วงเวลาเที่ยว : ตลอดทั้งปี ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาท (ต่ำกว่า 90 ซม. ฟรี) ค่าตั๋วนี้รวมค่ารถรางไฟฟ้า และ ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 10 บาท ค่าตั๋วนี้รวมค่ารถรางไฟฟ้า และ ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี ที่อยู่ : 97 ถนน คีรีรัถยา ตำบล คลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี เพชรบุรี 76000 Map : พิกัด มาต่อกันที่สถานที่สุดคลาสสิคที่เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามอีกที่หนึ่งของเพชรบุรี นั่นก็คือ “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 สถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์มฤคทายวันเป็นแบบไทยประยุกต์ หรือ เรือนไทยผสมยุโรป ก่อนที่จะเข้าไปเราจะต้องทำการซื้อบัตรเพื่อเข้าชมสถานที่ และหากว่าใส่กระโปรงหรือกางเกงที่สั้นเหนือเข่าจะต้องเปลี่ยนเป็นใส่โจงกระเบน โดยจะมีเจ้าหน้าคอยทำหน้าที่นุ่งโจงกระเบนให้เรา ซึ่งครั้งที่เราไปเพื่อนผู้ชายคนนึงเราโดนเปลี่ยนเป็นโจงกระเบน นอกจากจะเพิ่มความสุภาพแล้วยังทำให้เรารู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่วัฒนธรรมยุโรปจะเข้ามา คนไทยยังนุ่งโจงกระเบนกันเป็นเรื่องปกติ ทำให้ได้บรรยากาศในการเดินชมความงามของที่นี่อย่างมาก นอกจากที่นี่จะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามให้รับชมแล้วยังมีทะเลให้สูดอากาศบริสุทธ์ด้วยนะคะ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดทำการทุกวัน (ยกเว้นวันพุธ) เวลาทำการ 08.30-16.30 น. ปิดจำหน่ายบัตร 16.30 น. ค่าธรรมเนียม (เฉพาะด้านล่างและโดยรอบ) ผู้ใหญ่ คนละ30 บาท เด็ก (อายุ 10-14 ปี) คนละ 15 บาท ค่าธรรมเนียมขึ้นชมหมู่อาคารพระที่นั่ง คนละ 30 บาท (ผู้ใหญ่และเด็ก) ที่อยู่ : 1281 เพชรเกษม ถนนเพชรเกษม ตำบล ชะอำ อำเภอชะอำ เพชรบุรี 76120 Map : พิกัด มาถึงสถานที่ที่สายธรรมชาติไม่ควรพลาด อย่าง "วนอุทยานปราณบุรี" เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ที่เป็นทางเดินสะพานไม้ทอดยาวถึง 1 กิโลเมตร ระหว่างทางเราจะได้พบกับพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ ที่จะเห็นได้ชัด ๆ นั่นก็คือ โกงกาง อีกทั้งยังพบสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ อย่างปูก้ามดาบ หรือกุ้งดีดขัน ตอนที่เราไปเป็นตอนช่วงที่มีฝนพอดี ดินเลยค่อนข้างแฉะ ทำให้เจอสัตว์พวกนี้ตลอดทางเดินเลย ระหว่างทางก็จะมีป้ายและกระดานที่มีข้อมูลของพันธุ์ไม้และสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไว้คอยให้เราศึกษา ซึ่งจะมีอยู่โซนนึงที่น่าสนใจไม่น้อยคือฝั่งของท่าเรือ หากไปช่วงที่น้ำขึ้นจะมีบริการล่องเรือให้เราได้รับชมความงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติด้วย และวิวไฮไลต์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นกับหอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นบรรยากาศทั่ววนอุทยานได้ 360 องศา มองไปก็เจอแต่ธรรมชาติ ถูกป่าเขาโอบล้อม นอกจากนี้หากเดินครบตลอดแนวทางเดินแล้วเรายังสามารถออกมาจากวนอุทยานเพื่อเดินไปทะเลอีกด้วย ทะเลค่อนข้างสงบ เพราะคนไม่ค่อยพลุกพล่าน อาจจะด้วยเพราะเป็นสถานที่เฉพาะไม่ได้ทะเลที่เปิดให้ชมได้ทั่วไปค่ะ ใครที่เป็นสายธรรมชาติ สายเดินป่า(ชายเลน) ไม่ควรพลาดที่นี่เลยนะ เปิดทำการทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. ที่อยู่ : 14 ผาสุกวนิช 16 ตำบล ปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ 77220 Map : พิกัด เที่ยวกันมาทั้งวัน สูดลมทะเลเข้าไปเต็มปอดก็มาถึงเวลาอาหารกันแล้ว ซึ่งร้านที่เราเลือกมานั้นเป็นร้านที่ขึ้นชื่อของเพชรบุรีทุกร้าน และเป็นร้านอาหารพื้นเมืองของเพชรบุรีอีกด้วยนะ มาเริ่มกันที่ร้านแรกเลยค่ะ "ร้าน นุช ทอดมันขนมจีน" จากที่ได้สอบถามประวัติของทางร้านเราได้ทราบมาว่านอกจากการกินขนมจีนกับทอดมันจะเป็นอาหารพื้นเมืองของคนเพชรแล้ว ร้านนี้ยังเป็นเจ้าแรก ๆ ในเพชรบุรีที่ได้คิดค้นสูตรขนมจีนทอดมัน จนกลายเป็นอาหารที่นิยมของคนไทยอีกด้วย โดยสูตรนี้ได้มาจากแม่ยายของลุงเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นสูตรที่เก่าแก่และเป็นอีกหนึ่งตำนานของร้านอาหารที่จังหวัดเพชรบุรีเลยค่ะ บรรยากาศของร้านเป็นลักษณะเหมือนบ้าน ภายในร้านเปิดโล่งมีโต๊ะนั่งเกือบ ๆ 10 โต๊ะ หน้าร้านก็จะมีกระทะใบใหญ่และเข่งขนมจีนหลากหลายเข่งเรียกว่าเป็นครัวหน้าร้านเลยก็ได้ ในส่วนของรสชาติไม่ต้องพูดถึง ปกติเราไม่ค่อยเป็นคนชอบกินทอดมันเท่าไร แต่มาเจอร้านนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแรกที่บุกเบิกก็สมกับตำนานจริง ๆ อร่อยมาก ทางร้านจะค่อนข้างทอดให้กรอบ แต่ถ้าไม่ชอบกรอบสามารถบอกป้าได้ค่ะ ลุงและป้าใจดีมาก ขนมจีนทอดมันจะขายเป็นชุด ชุดละ 50 บาท และทางร้านยังมีแยกขายทอดมันดิบเพื่อให้ลูกค้าที่อยากจะซื้อไปทอดเองที่บ้านมีไว้ให้บริการด้วยนะคะ เปิด 10.00 น - 15.00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดี (แต่เราแนะนำให้ไปเร็ว ๆ ตอนนั้นเราไปถึงบ่าย 2 กว่า ของใกล้หมดแล้ว ขายดีมาก) ที่อยู่ ตำบล คลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี เพชรบุรี 76000 Map : พิกัด ร้านถัดมาคือ "เปลญวน" ร้านอาหารขึ้นชื่ออีกร้านนึงของเพชรบุรี เป็นร้านที่โด่งดังมาก มีทั้งอาหารพื้นบ้านของเพชรบุรีและอาหารเมนูทั่วไป ร้านค่อนข้างอยู่ลึก แต่ไม่ต้องกลัวหลง เพราะมีป้ายบอกตามทางตลอด พอมาถึงเราจะว้าวกับความอลังการของร้าน พื้นที่ของร้านกว้างขวาง มีลานถ่ายรูปเก๋ ๆ ให้สายแชร์ได้เซลฟี่ให้จุใจ พร้อมทั้งมีมุมไฮไลต์สุดเท่อย่างชิงช้าสวรรค์ แม้จะเล่นไม่ได้ แต่ถ่ายรูปสวยมากนะ ที่นั่งของร้านเปญวมีหลายโซนให้เลือกนั่ง มีทั้งโซนบาร์และโซนอาหาร ที่นั่งค่อนข้างเยอะเราคิดว่าอาจจะถึงร้อยโต๊ะก็ได้ เพราะใหญ่โต กว้างขวางมาก เราสั่งไป 3 เมนู คือ ปลาอินทรีย์ผัดชะอม ประมาณ180 ไม่เกิน 200 แกงคั่วหัวตาลหมูย่าง 100 บาท และปลากะพงนพเก้า (ราคาตามน้ำหนัก) ทุกเมนูอร่อยมาก ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับคุณภาพที่ได้ ปลาค่อนข้างสด เนื้อหวาน แกงคั่วตอนแรกเราก็กินไม่เป็น พนักงานบอกว่าเป็นเมนูพื้นบ้านของเพชรบุรี คนเพชรนิยมกินหัวตาลเราอยากรู้ว่ามีรสชาติแบบไหนเลยลองชิม ปรากฎว่าอร่อยมาก จะมีรสหวานนำของหัวตาลและรสชาติเผ็ดของพริกแกง รวมราคาของมื้อนี้รวมน้ำ 700 บาทถ้วน ถือว่าคุ้มค่ากับราคาและรสชาติมากค่ะ จุดเด่นของที่นี่นอกจากอาหารอร่อยแล้วยังมีดนตรีโฟล์คซองให้เราได้ชมกันทกวันด้วยนะคะ เปิดให้บริการ 10.30 – 22.00 น. (หยุดทุกวันพุธ) ที่อยู่ : 66 หมู่6 ซอยเทศบาลบ้านลาด 22 ตำบล บ้านลาด อำเภอบ้านลาด เพชรบุรี 76150 Map : พิกัด และมาถึงร้านสุดท้ายของทริปกินเที่ยวเพชรบุรีกันแล้วนะคะ กับ "เจ๊กเม้ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้นตำหรับเพชรบุรี" ที่มีสโลแกนเท่ ๆ ว่า “หน้าไม่งอรอไม่นาน” ถึงจะชื่อร้านว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อแต่ทางร้านไม่ได้มีแค่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนะคะ จุดเด่นทางร้านคือมีเมนูที่ครีเอทขึ้นมาเองเกือบทั้งร้านเลย โดยเราได้ถามประวัติเล็ก ๆ น้อย ๆ กับคุณป้าเจ้าของร้านว่าแต่ก่อนพ่อของคุณป้าจะเป็นคนคิดสูตรก๋วยเตี๋ยวเนื้อแต่พอมารุ่นคุณป้าและรุ่นลูกเมื่อคนเริ่มยุคใหม่มากขึ้นก็อยากที่จะขยายกิจการให้ใหญ่โตมากขึ้นเลยลองคิดค้นเมนูอาหารขึ้นมาเอง ปรับนู่นเปลี่ยนนี่จนกลายมาเป็นเมนูขึ้นชื่อของร้านหลายเมนูเลย แอบกระซิบว่าร้านเจ๊กเม้งรับงานออกบูธทั่วราชอาณาจักรและมีบริการส่งข้ามจังหวัดด้วยนะคะ ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย และที่มาของสโลแกนคุณป้าเล่าว่า ร้านเราทำอาหารเร็ว ลูกค้าไม่รอนานหน้าก็เลยไม่งอไปด้วย ฮ่า ๆ เข้าใจคิดมากค่ะ เราได้สั่งมาทั้งหมด 3 เมนูที่ขึ้นชื่อของร้านเลยนั่นก็คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊กเม้ง 50 บาท ข้าวไข่ข้นซอสต้มยำกุ้งน้ำข้น ประมาณ 100-150 และ บะหมี่ไข่เจียวกรรเชียงปูราดซอสตาลโตนด ประมาณ 100-150 เราเป้นคนไม่กินเนื้อเลยเสียดายที่ไม่ได้ลองชิมรสชาติต้นตำรับของเพชรบุรี แต่เพื่อนของเราบอกว่าอร่อยมาก เนื้อตุ๋นจนนุ่ม น้ำซุปกลมกล่อม ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย ส่วนเมนูข้าวไข่ข้นรสชาติพริกแข้มข้นมาก กุ้งไซส์ใหญ่ เราชอบมาก อีกเมนูทานง่าย น้ำซุปบวกกับเนื้อปูค่อนข้างหวาน ซดคล่องคอ เด็ก ๆ น่าจะชอบนะคะ โดยรวมคือประทับใจบรรยากาศร้าน ร้านค่อนข้างสะอาด ครัวเป็นสัดส่วนและรสชาติอาหารที่คุ้มค่ากับราคา สมกับอีกตำนวนนึงของเพชรบุเลยค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน 07.00 – 17.00 น. ที่อยู่ : 85 ราชวิถี (ตรงข้ามปั๊มเชลล์ ตำบล คลองกระแซง เพชรบุรี 76000 Map : พิกัด ก็จบกันไปแล้วสำหรับ 6 พิกัดทั้งที่กินที่เที่ยวของดีของเพชรบุรี ที่เรานำมาแนะนำเป็นแค่เสี้ยวเล็ก ๆ ของความสวยงามและความน่าสนใจของเพชรบุรีนะ ที่นี่มีอีกหลายอย่างที่รอให้เพื่อน ๆ มาเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเอง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่สนใจจะมาเที่ยวที่เพชรบุรีนะคะ หากใครยังไม่เคยมาที่นี่เราอยากให้คุณได้ลองมาแล้วคุณจะหลงรัก "เพชรบุรี" :) ภาพประกอบโดยนักเขียน