อาหารบางชนิดในแต่ละท้องถิ่นก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป "ขนมกุยช่าย" ที่ผู้เขียนอยากแนะนำในบทความนี้ ในอ.บ้านโป่งออกเสียงโดยใส่ไม้เอกในคำว่ากุยเป็น "กุ่ยช่าย" เป็นขนมที่มีไส้ด้านในเป็นใบกุยช่ายผัดห่อด้วยแป้งปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปนึ่ง แต่เพื่อนในจังหวัดกาญจนบุรีจะเรียกว่า"ช่วยปั้น" ขนมในลักษณะเดียวกันนี้หากมีไส้อื่น ๆ ด้วยในอ.บ้านโป่งเราเรียกว่า "ไส้ปั้น" ในขณะที่เพื่อนจากกรุงเทพฯ เรียก "กุยช่าย" เหมือนเดิมแต่เพิ่มชื่อไส้ลงไปเช่น กุยช่ายไส้หน่อไม้ กุยช่ายไส้ผัก ขนมกุยช่ายนั้นถือว่าเป็นขนมค่อนข้างโบราณ ซึ่งยุคสมัยใหม่นั้นทำแป้งไปในหลายรูปแบบปัจจุบันที่เห็นได้ทั่วไปคือเป็นแป้งแบบบางใส "ขนมกุยช่าย" ร้านหนึ่งในอำเภอบ้านโป่งเป็นร้านที่เก่าแก่มาก ผู้เขียนเห็นมาตั้งแต่จำความได้ ชื่อร้าน "อาม่า" ซึ่งนอกจากจะมีขนมกุยช่ายแล้ว จะมีขนมชนิดหนึ่งที่ปัจจุบันนี้หาไม่ค่อยได้แล้วนั่นคือ "ขนมหัวผักกาด" เมื่อสอบถามถึงอาม่าก็ได้คำตอบว่าตอนนี้อาม่าอายุ 93 ปีแล้ว นอนติดเตียงอยู่ ชื่อจริงของอาม่านั้นลูกหลานเองก็ยังจำไม่ได้เพราะใคร ๆ ก็เรียกอาม่าว่า "อาม่ากุยช่าย" ที่ร้านอาม่าสมัยก่อนน่าจะสัก 20 ปีที่แล้ว (เท่าที่ผู้เขียนจำได้) ที่ร้านอาม่ายังขายขนมที่ชื่อว่า "ถอปั้น" ด้วย เป็นขนมกุยช่ายเช่นเดียวกันแต่แป้งเป็นสีชมพูปั้นเป็นรูปใบโพธิ์ ปัจจุบันไม่ได้ทำขายทุกวันจะทำขายเฉพาะมีคนสั่งเพื่อไปใช้ในงานมงคล งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ ของชาวไทยเชื้อสายจีน "ขนมกุยช่าย" ของร้านอาม่าจะมีไส้ผัก (ใบกุยช่าย) ไส้หน่อไม้ ไส้เผือก ไส้มันแกว ไส้มะละกอ ไส้เต้าหู้ ตัวแป้งจะไม่ได้เป็นแบบบางใสแต่จะออกเป็นสีขาวขุ่น ๆ ขายในราคาลูกละ 6 บาทเท่านั้น "ขนมหัวผักกาด" ที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมห่อแยกไว้ในถุง ตัวขนมจะเป็นแป้งที่คลุกกับ "หัวไชเท้า" แต่งหน้าด้วยถั่วลิสง กุ้งแห้ง ใบขึ้นฉ่าย ขนมหัวผักกาดราคาชิ้นละ 10 บาท สอบถามแม่ค้าเกี่ยวกับการซื้อไปต่างจังหวัด แม่ค้าแนะนำว่าสามารถเข้าตู้เย็นข้ามคืนได้ เมื่อจะกินก็เพียงอุ่นในโมโครเวฟแป้งจะยังนิ่มเหมือนเดิมแต่ตัวไส้บางไส้อาจเปลี่ยนสีไปบ้าง แม่ค้าเล่าว่าก่อนช่วงโควิด-19 จะมีคนจากกรุงเทพมาซื้อ "ขนมหัวผักกาด" และ ขนมกุยช่าย ไปฝากให้ผู้อาวุโสที่บ้านโดยบอกว่า"ที่เยาวราชตอนนี้แบบนี้ก็หาไม่ได้แล้ว" รสชาติของขนมหัวผักกาดนั้น จะมีรสเผ็ดนิด ๆ ของพริกไทย ที่ผสมอยู่ในตัวแป้งด้วย เมื่อราดด้วยน้ำจิ้มจะได้ทั้งรสเค็ม เปรี้ยว หวานนิด ๆ จากรสชาติของหัวไชเท้า แกล้มด้วยความมันของถั่วลิสง หอมขึ้นฉ่าย และเค็มของกุ้งแห้งเรียกว่าเป็นรสชาติที่อร่อยลงตัวมากทีเดียวค่ะ ส่วนขนมกุยช่าย เห็นแป้งสีขาวขุ่นแบบนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าแป้งจะหนาไป แป้งบางกำลังดีไม่บางมาก เวลาเคี้ยวให้รสสัมผัสที่นุ่มมากเลยทีเดียว การเดินทาง หากผู้อ่านท่านใดมาจากทาง จ.กาญจนบุรี เพื่อกลับไปยังกรุงเทพฯ เมื่อถึงสี่แยกบ้านโป่ง - กาญจน์ อย่าลืมมุ่งหน้าตรงเข้ามาทางจะเข้าตลาดบ้านโป่งตรงไปก่อนถึงโรงพยาบาลบ้านโป่ง ร้านจะอยู่ฝั่งขวามือใกล้กับร้านแสงฟ้าเฟอร์นิเจอร์ จะมีที่กลับรถให้กลับรถจะเห็นร้านอาม่า เป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ อยู่หน้าร้านขายโลงศพซึ่งเป็นลูกหลานของอาม่า (หรือค้นหา GPS ร้านแสงฟ้าเฟอร์นิเจอร์ก็ได้) ร้านจะเริ่มขายเวลาประมาณ 10.00 น. จนกว่าจะขายหมดประมาณ 14.00 น. หากผู้อ่านผ่านมาทางนี้ลองซื้อไปชิมนะคะ ขนมกุยช่ายแป้งโบราณ และขนมหัวผักกาด ที่หากินยากเต็มทีแล้ว ภาพทุกภาพโดยผู้เขียน