"ไม่เคยมีเรื่องเศร้าในวัยเด็ก แต่เด็กก็คือเด็ก ลึกซึ้งในความรู้สึก และสัมผัสได้เสมอกับสัญญาณของความรักความห่วงใย"เด็กชายสไปเดอร์แมนเป็นชื่อเรียกที่เด็กๆ ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เรียกเด็กชายตัวเล็กๆ ที่มีวีรกรรมที่แสดงให้เพื่อนๆ เห็นถึงความสามารถในการปีนป่าย และซนสุดๆ ซึ่งเขาก็ชอบด้วย แต่ด้วยตัวเล็กเกินไป และในหมู่บ้านมีแต่เด็กผู้หญิง เด็กชายสไปเดอร์แมนเลยต้องเล่นกับกลุ่มเด็กที่มีเด็กผู้หญิงเยอะกว่า และเป็นผู้นำ เธอเป็นเด็กผู้หญิงร่างโตกว่าใครๆ ในกลุ่ม และมีเด็กผู้หญิงอีกคนที่ตัวเล็กกว่านิดนึงเป็นผู้สนันสนุนทุกความคิดของเธอ เด็กชายในกลุ่มมีเพียงสองคน ทั้งสองตัวเล็กกว่าเด็กผู้หญิงทั้ง 5 คน การเล่นของกลุ่มนี้ก็จะต้องมีระเบียบตามที่ผู้นำกำหนด มีแต่เด็กชายสไปเดอร์แมนนี่แหละที่ไม่สนใจระบบการเล่นที่กำกับโดยผู้นำและผู้สนับสนุน ทั้งการขี่จักรยานตามกันตามลำดับ การล้อมวงนั่งเล่นกัน การไม่ส่งเสียงดังเกินไป ซึ่งเด็กชายสไปเดอร์แมนก็จะแหกกฎ ไม่เชื่อฟังใคร จนถูกไล่ให้ออกจากกลุ่มเสมอๆ แต่เด็กๆ ก็ชวนกลับมาเล่นด้วยกันเช่นเดิม เด็กหญิงผู้นำแม้จะว่าเด็กชายสไปเด้อแมนเสมอ แต่ก็จะดูแลอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่า จะเกิดเจ็บตัวก็จะเตือนหรือเข้าไปช่วยก่อนจะเจ็บตัว แต่ก็ไม่ค่อยจะทันเด็กชายสไปเดอร์แมนสักเท่าไรนัก ในกลุ่มมีเด็กชายอีกคนตัวเล็กที่สุด แม้จะทำตามผู้นำ แต่ก็มักจะแยกตัวออกมาเล่นกับเด็กชายสไปเด้อแมนเสมอๆ พวกเด็กๆ เล่นกันในปั๊มน้ำมันแห่งเดียวของหมู่บ้านเพราะมีพื้นที่มาก มีพื้นเรียบๆ ให้ปั่นจักรยานได้สนุก โดยเฉพาะเด็กชายสไปเดอร์แมนที่จะโชว์ลีลาได้อย่างเต็มที่ เช้านี้เป็นวันพระใหญ่ ผู้ใหญ่ออกไปวัดกันหมด ทุกคนเตรียมของทำบุญกันไว้ตั้งแต่วันวาน และปรุงอาหารในตอนเช้ามืด เด็กๆ ได้ตื่นสายกันเพราะเป็นวันหยุด แต่บางคนก็ต้องตื่นมาช่วยผู้ใหญ่เตรียมของด้วย เด็กชายสไปเดอร์แมนก็เป็นคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาแต่เช้า เพราะนอนกับพ่อแม่ และทั้งสองก็ตื่นมาช่วยกันเตรียม เด็กชายสไปเดอร์แมนก็เลยมาช่วยพ่อแม่ด้วย เด็กคนนี้ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการตื่นเช้า และก็สนุกไปกับทุกเรื่อง จนบางทีพ่อแม่เบื่อหน่ายกับความไฮเปอร์ของเด็กคนนี้ แต่ก็รักมากจนไม่อยากให้ออกไปเล่น เพราะเป็นห่วงว่าจะมีอุบัติเหตุ แต่ก็นั่นแหละ เด็กชายก็มีวิธีออกไปเล่นได้ทุกวัน พ่อแม่ก็เลยฝากให้เด็กหญิงผู้นำช่วยดูแล เป็นหูเป็นตาให้ เด็กหญิงก็เต็มใจที่จะช่วย เพราะแม้ว่าจะรู้ว่า เด็กชายสไปเดอร์แมนไม่เชื่อฟังใคร แต่ก็ไม่ใช่เด็กดื้อ มีมุมน่ารัก และมีน้ำใจช่วยเหลือ แต่ก็ต้องรับมือการสรรค์หาเรื่องราวให้ได้ตกใจของเด็กชายคนนี้บริเวณปั๊มน้ำมันที่เด็กๆ ไปเล่น มีเกสต์เฮ้าส์ที่มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักเสมอๆ เด็กชายสไปเดอร์แมนก็เป็นสีสันให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน เพราะลีลาการเล่นที่ดูสนุกเหลือล้นจนน่าขบขัน แต่เด็กชายก็ไม่เคยสนใจที่ใครจะมอง ยังสนุกอยู่เสมอๆ วันนี้ก็เช่นกันเด็กชายแสดงการขี่จักรยานตามที่เห็นในทีวี ยกจักรยานลอยพร้อมพลิกตัวกลางอากาศ ด้วยความมั่นใจ แต่ก็ไม่รอด เด็กชายล้มลงเจ็บตัว แต่ก็ลุกขึ้นทันที และก็เช่นเคยเด็กหญิงผู้นำตะโกน และวิ่งมาในทันที พอเห็นว่าเด็กชายไม่เป็นไร ก็บ่นว่าไปเรื่อยๆ เด็กชายสไปเดอร์แมนก็เพียงยิ้มสลับกับก้มหน้า จนเด็กหญิงหยุดไปเอง และชวนกันไปเล่นที่ศาลามุงใบจากที่เป็นที่รอรถเข้าเมืองซึ่งจะออกไปเมืองตอนเช้า และกลับมาตอนเย็น ทั้งวันจึงเป็นที่เล่นหลบแดดของเด็กๆ และที่นั้นก็มีกล่องปฐมพยาบาลอยู่ด้วย เด็กหญิงดูแผล และทำแผลให้ก่อนที่จะให้เด็กชายสไปเดอร์แมนที่พยายามจะวิ่งหนีไปเล่นอย่างเดียว แต่เด็กหญิงก็ใจเย็นทำแผลให้อย่างตั้งใจ เมื่อทำแผลเสร็จก็รีบไปล้อมวงเล่นกับเพื่อนๆ ปล่อยให้เด็กหญิงเก็บของใส่กล่องเอาไปวางบนชั้นวางของเด็กชายสไปเดอร์แมนมีแผลเต็มตัว แต่ไม่มีแผลใหญ่อะไร และไม่เคยเจ็บหนัก หัวแตก กระดูกหักอะไร ตามที่ผู้ใหญ่ห่วงกังวลกัน แต่เด็กหญิงผู้นำก็มักจะตัวติดกันกับเด็กชายสไปเด้อแมนเสมอ แม้จะปล่อยให้เล่นไป แต่ก็อยู่ไม่ห่างเสมอ เด็กชายสไปเดอร์แมนก็มีวิธีเล่นแปลกๆ บางทีก็เลียนแบบในทีวี หรือเห็นเด็กโตเล่นก็จะทำตาม และมักจะได้แผลกลับมาทุกครั้ง เพราะทำไม่เป็น แต่ก็ชอบลองทำในแบบของตนความสนุกของเด็กชายสไปเดอร์แมนไม่มีใครคาดเดาได้ แม้แต่ตัวเขาเอง แต่ใครๆ ก็เป็นห่วง และเพื่อนๆ ก็มักจะช่วยระวังให้ โดยเฉพาะเด็กหญิงผู้นำ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ มีเพียงยายที่ไม่แข็งแรง ซึ่งเธอต้องดูแลยายตั้งแต่เด็กๆ เธอจึงต้องจัดการทุกอย่างในบ้านด้วยตัวคนเดียว และเมื่อทำงานบ้านเสร็จ เธอก็จะออกมาเล่นกับเด็กๆ ในหมู่บ้าน เธอมีรายได้จากค่าเช่าที่ทำให้เธอไม่เดือดร้อนเรื่องเงินอะไร มันทำให้เธอไม่เหมือนใครในหมู่บ้าน และเป็นผู้ใหญ่เกินวัย เธอต้องดูแลตัวเองทุกอย่าง เพราะไม่มีญาติพี่น้องอื่น ยายสอนเด็กหญิงทุกอย่าง และเป็นคนเจ้าระเบียบมาก แกจะหงุดหวิดทุกครั้งที่เด็กหญิงทำงานบ้านไม่ละเอียด หรือจัดวางของไม่ตรงตามแนวที่วางไว้ บ้านของเด็กหญิงสะอาดมากจนเด็กชายสไปเดอร์แมนไม่กล้าเข้าไปในบ้าน และเด็กชายก็มักจะถูกยายของเด็กหญิงว่ากล่าวเสมอ จนเด็กชายไม่ชอบที่จะเข้าไปในบ้านเด็กหญิง แต่เมื่อพ่อแม่ของเด็กชายประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เสียชีวิตทั้งคู่ และญาติพี่น้องฅนอื่นก็ไม่อาจจะรับเด็กชายมาดูแลได้ด้วยมีฐานะไม่ค่อยดี มีเพียงยายของเด็กหญิงที่เอยขอเด็กชายมาดูแล เด็กชายสไปเด้อแมนแม้จะไม่เคยเชื่อฟังใคร แต่ก็กลัวยายคนนี้ที่สุด และก็รู้ว่าแกรักเด็กๆ ทุกฅนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กๆ ที่สนิทกับหลานสาวของแกวันแรกที่เด็กชายสไปเดอร์แมนเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ เด็กหญิงก็ต้องทำงานบ้านหนักขึ้น เพราะเด็กชายไม่เคยทำตามที่สอนเลย เด็กหญิงเหนื่อยกับการดูแลบ้านและเด็กชายมาก จนไม่ได้ดูแลยายเหมือนแต่ก่อน แต่ยายก็ยิ้มให้กับเด็กหญิงเสมอ และพูดว่า "บ้านนี้ดูเป็นบ้านขึ้นนะ และก็เป็นบ้านที่มีความสุข มีรัก" เด็กหญิงก็ยิ้มและเข้าใจคำพูดของยาย พร้อมกับหันไปสอนเด็กชายสไปเดอร์แมนเสมอๆ เด็กชายสไปเดอร์แมนแม้จะไม่ชอบอยู่บ้าน แต่ก็รอให้เด็กหญิงทำงานเสร็จแล้วออกไปเล่นด้วยกันเสมอ ทั้งสองได้กลายเป็นพี่น้องกันจริงๆ เด็กชายสไปเดอร์แมนแม้จะไม่มีพ่อแม่เหมือนก่อน แต่ก็รู้สึกถึงความรักความเอ็นดูได้ที่เด็กหญิงและยายมีให้ แต่แม้จะถูกควบคุมความประพฤติตลอด แต่เด็กชายก็มีวิธีที่จะเป็นตัวของตัวเองได้ แต่ด้วยความห่วงใยที่มีต่อกัน เด็กชายก็จะช่วยดูแลเด็กหญิงด้วยเช่นกัน เด็กชายไม่เคยไปไหนฅนเดียวเหมือนแต่ก่อน และคอยช่วยเหลือเด็กหญิงทุกๆ เรื่องเท่าที่พอช่วยได้ ยายมักยิ้มเสมอเมื่อเห็นเด็กชายช่วยทำงานบ้าน และบางครั้งก็ตื่นมาเช้ากว่าเด็กหญิงเสียอีก แต่เด็กชายสไปเดอร์แมนก็ยังคงโชว์ลีลาการเล่นหวาดเสียวได้เสมอเมื่ออยู่นอกบ้าน...